‘วิษณุ’ ชี้ ไม่มี ตั้งตุ๊กตา- ดูฤกษ์ ยุบสภาฯ ไม่ขอลงความเห็น 15 หรือ 21 มี.ค.
‘วิษณุ’ บอก ขอพบนายกฯ หารือแนวปฏิบัติม.169 ก่อนแจง ครม.อังคารนี้ ชี้ ไม่มีตั้งตุ๊กตา- ดูฤกษ์ยุบสภาฯ ไม่ขอลงความเห็น 15 หรือ 21 มี.ค. แซว พลเอกประยุทธ์ น่าจะชอบเลข 22 เพราะเป็นวันยึดอำนาจ
วันนี้ (17 ก.พ. 66) นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย เปิดเผยภายหลังการเข้าพบ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมว่า ตนเองเป็นคนขอเข้าพบนายกรัฐมนตรี โดยใช้เวลาสั้นๆ เพียง 5 นาที เนื่องจากนายกรัฐมนตรีติดภารกิจต่อเนื่อง และตนมีเรื่องต้องสอบถาม พร้อมเปิดเผยว่า เรื่องที่คุยคือเรื่องการเตรียมการว่าหลังจากนี้มีอะไรที่ทำได้ หรือไม่สามารถทำได้ โดยนายกรัฐมนตรีสั่งให้ตนเตรียมข้อมูล เพื่อชี้แจงให้ ครม.รับทราบ ว่าอะไรทำได้หรือทำไม่ได้ตามรัฐธรรมนูญ เนื่องจากรัฐบาลชุดนี้ไม่เคยมีประสบการณ์ในการยุบสภาฯ มาก่อน อีกทั้งรัฐธรรมนูญมีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ซึ่งในการคุยกันนั้น มีนายสุพัฒนพงษ์อพันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน อยู่ด้วย
ทั้งนี้นายวิษณุ ยังระบุอีกว่า การพูดคุยในวันนี้เป็นแนวทางการปฏิบัติตามมาตรา 169 ซึ่งหากยุบสภาฯ แล้ว ยังคงสามารถแต่งตั้งโยกย้ายได้แต่ต้องขอความเห็นจาก คณะกรรมการการเลือกตั้งหรือ กกต.
ส่วนการเริ่มต้นนับหนึ่งจะสามารถเริ่มต้นนับได้เมื่อใดนั้น นายวิษณุกล่าวว่า จะเริ่มต้นเมื่อยุบสภาฯ หรือรัฐบาลอยู่ครบวาระ ซึ่งหากอยู่ครบวาระจะครบในเวลา 00.01 น.ของ วันที่ 23 มีนาคม 2566
นายวิษณุยังกล่าวด้วยว่าเงินเพิ่มเติมในการช่วยเหลือในโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ยังคงสามารถทำได้ หากสามารถอนุมัติวงเงินงบประมาณก่อนวันยุบสภาฯ แต่ในรัฐธรรมนูญ มาตรา 169 ระบุไว้ว่า จะอนุมัติโครงการหรืองานใด ที่ก่อให้เกิดผลผูกพันต่อรัฐบาลหน้าไม่ได้ เว้นแต่อยู่ในรายการงบประมาณ ซึ่งตนไม่ทราบว่าเรื่องอะไรอยู่ในรายการงบประมาณบ้าง
ส่วนมีการตั้งตุ๊กตาไว้หรือไม่ว่าจะยุบสภาช้าหรือเร็ว นายวิษณุกล่าวว่า ไม่ต้ังตุ๊กตาอะไรทั้งนั้น ตนไม่ได้สนใจว่าจะยุบเมื่อใด แต่ให้รู้ไว้ว่ามีผลกระทบ เนื่องจากเหลือระยะเวลาอีกเพียงเดือนเศษ เพราะอย่างไรสภาก็จะสิ้นสุดวาระอยู่แล้ว ในวันที่ 23 มีนาคม 2566
ดังนั้นจึงต้องมีการเตรียมการ โดยการยุบสภาฯ จะใช้เวลาเพียงวันเดียวเท่านั้น หลังจากนั้นจะเป็นเรื่องเวลาของการนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถึงขั้นตอนการลงมาอีกเรื่องหนึ่ง เพราะการยุบสภาฯ ไม่ต้องนำเข้า ครม.พิจารณา ซึ่งการยุบสภาจะมีผลต่อเมื่อมีการประกาศพระราชกฤษฎีกาเท่านั้น พร้อมกับยังระบุอีกว่าการพูดว่ายุบสภาถือว่าไม่มีผลทางกฎหมาย พร้อมกล่าวอีกว่า ยุบสภาฯ ทั้งสภาฯ จะให้นายกพูดได้อย่างไร ส่วนการออกข่าวก็เป็นเรื่องของสื่อมวลชน ไม่ได้หนักอะไรใคร แต่นี่คนทั้ง 500 คน หนักหมดเลยรวมไปถึง ส.ว.ด้วย เพราะหากยุบสภาฯ ส.ว.ไม่สามารถประชุมได้ และหนักไปอีกคือ ครม.ก็สิ้นสุดด้วย
ขณะเดียวกันนายวิษณุยังกล่าวถึงรัฐบาลในอดีต สมัยพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ อดีตประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ และอดีตนายกรัฐมนตรี ที่ยุบสภาฯ แต่ไม่มีใครรู้ และวันรุ่งขึ้นยังมีการประชุม ครม. ซึ่งครมก็ได้มีการต่อว่าว่าจะมีการประชุมครมอยู่แล้ว เหตุใดจึงไม่ปรึกษา ครม. พลเอกเปรมจึงต้องเดินขอโทษ ครม.ทั้งคณะ ว่าจำเป็นต้องตัดสินใจ ไม่สามารถปรึกษาใครได้ เพราะตามกฎหมายเป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรีว่าได้ตัดสินใจไปแล้ว ตอนนี้ก็ตัวใครตัวมันกลับบ้านได้
ส่วนจะยุบสภาฯ ในเดือนกุมภาพันธ์คงเป็นไปไม่ได้ เนื่องจาก กกต.ยังไม่สามารถแบ่งเขตเรียบร้อย ซึ่ง กกต.ก็ระบุว่าสามารถทำได้แต่ต้องขอเวลา เพื่อให้พรรคการเมืองขนาดเล็กได้ทำไพมารี่โหวต เพราะไม่ทราบว่าจะทำอย่างไร เนื่องจากการแบ่งเขตยังไม่แล้วเสร็จแตกต่างจากพรรคการเมืองขนาดใหญ่ที่มีประสบการณ์ตั้งแต่ปี 2562 รวมไปถึงการตั้งสาขาพรรค ดังนั้นหากจะให้ความสะดวกกับพรรคการเมืองขนาดเล็กต้องให้เวลาสัก 1-2 สัปดาห์ แต่หากไม่เห็นแก่พรรคเล็ก จะยุบวันที่ 1 มีนาคม 66 เลยก็ได้ เนื่องจากพรรคการเมืองขนาดใหญ่ได้เปรียบไปแล้ว
เมื่อถามว่าทางการเมืองต้องยุบสภาฯ ไม่อยู่ครบวาระใช่หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่าตนไม่เคยพูด ว่าจะยุบสภาหรืออยู่ครบวาระ เพราะหากยุบสภาฯ แล้วเหลืออีกไม่กี่วันครบวาระ จะมีคำถามว่าจะยุบสภาไปทำไม
เมื่อถามย้ำว่านายกรัฐมนตรีจะต้องส่งสัญญาณก่อนยุบสภาหรือไม่นายวิษณุกล่าวว่า ไม่รู้ แล้วแต่นายกรัฐมนตรี เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าในอดีต สมัยรัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี ก็ได้มีการประกาศ ก่อนที่จะมีพระราชกฤษฎีกาประกาศออกมา นายวิษณุชี้แจงว่าครั้งนั้นมีแรงกดดัน เหมือนกับสมัยนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรี ที่ประชุมสภาครบ 4 ปีแล้วบอกจะยุบสภาฯ แต่ไม่ได้มีการประกาศว่าจะยุบวันใด และย้ำว่าเรื่องการยุบสภาฯ ไม่มีใครบอกใครได้ และเวลานี้คลื่นลมก็มีอยู่แล้ว อาจจะยุบสภาฯ เพียงแต่ยังหาวันเวลา ซึ่งเป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรี
ส่วนในฐานะเนติบริกรจะมีคำแนะนำวันยุบสภาฯ ให้นายกรัฐมนตรีหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ต้องใช้เนติบริกร แต่ต้องใช้โหร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า วันที่ 15 มีนาคม ซึ่งเป็นวันธงชัย ถือว่าเป็นวันฤกษ์ดีในการยุบสภาฯ หรือไม่ หรือเป็นวันที่ 21 มีนาคม ซึ่งตรงกับวันคล้ายวันเกิดของนายกรัฐมนตรี นายวิษณุ กล่าวว่านึกไม่ออกว่าทำไมยุบสภาฯ จึงต้องดูฤกษ์ จะดูฤกษ์ทำไม เพราะเมื่อยุบสภาไปแล้ว จะเลือกตั้งเมื่อใดก็แล้วแต่ กกต.วันที่ควรจะดูฤกษ์คือวันเลือกตั้งต่างหาก เพราะจะรู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย วันยุบสภาไม่ได้ทำให้เกิดอะไรขึ้นมา
ส่วนกรอบการเลือกตั้ง 7 พฤษภาคม ของ กกต.ถือว่าเป็นวันฤกษ์ดีหรือไม่ นายวิษณุ เปิดเผยว่า เป็นวันที่จำเป็น เพราะต้องเป็นวันอาทิตย์ และอยู่ในกรอบ 60 วัน ซึ่งหากนับจากวันสภาฯ ครบวาระ ก็จะลงล็อคในวันที่ 7 พฤษภาคม ซึ่งถ้านับก็จะได้ตั้งแต่วันที่ 1 ถึงวันที่ 10 พฤษภาคม แต่ไม่ตรงกับวันอาทิตย์ และจะต้องให้มีเวลาหาเสียง ซึ่งถ้าจะให้เลือกตั้งใน 30 เมษายน ระยะเวลาการหาเสียงก็จะเหลือไม่ถึง 30 วัน ดังนั้นวันที่ 7 พฤษภาคมจึงถือว่าเหมาะสม ถูกโฉลก โชคชัย พิพัฒน์สวัสดี
โดยเมื่อผู้สื่อข่าวพูดหยอกล้อกับนายวิษณุ ว่าในส่วนของนายวิษณุลาก่อนใช่หรือไม่ นายวิษณุ ตอบกลับว่า จะให้ผมทำอะไรต่ออีก
และเมื่อผู้สื่อข่าว ถามย้ำอีกว่าในวันที่ 21 มีนาคม ซึ่งเป็นวันคล้ายวันเกิดของพลเอกประยุทธ์ถือเป็นวันฤกษ์ดีหรือไม่ นายวิษณุกล่าวหยอกล้อกับสื่อมวลชนว่า ฤกษ์สำหรับทำอะไรฤกษ์หย่าหรือ ก่อนจะบอกว่าไม่รู้เพราะตนไม่เคยเปิดดู เรื่องนี้ ส่วนที่นายกรัฐมนตรีชอบใช้เลข 21 นายวิษณุยังพูดหยอกล้อกับสื่อมวลชนอีกว่า นึกว่าท่านนายกรัฐมนตรีชอบเลข 22 เพราะยึดอำนาจเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557