’อังคณา‘ ฟาด สว.เห็นหัวประชาชนบ้าง หลังวุฒิสภาเตรียมโหวตทำประชามติพรุ่งนี้
’อังคณา‘ ฟาด สว.เห็นหัวประชาชนบ้าง หลังวุฒิสภาเตรียมโหวตใช้เสียงข้างมาก 2 ชั้นทำประชามติพรุ่งนี้ มองรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 แก้ไขยาก
วันนี้ (16 ธ.ค.67) นางอังคณา นีละไพรจิตร ประธานคณะกรรมาธิการพัฒนาการเมืองฯ วุฒิสภา กล่าวในงานเสวนา “ทำรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตย: การทำประชามติเพื่อร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่กับแนวทางการแก้ไขรายมาตรา“ ณ ศูนย์นิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ว่า อย่างน้อยที่สุดวุฒิสภาควรเห็นหัวของประชาชนบ้าง การร่างรัฐธรรมนูญหลังรัฐประหารปี 2557 ภาคประชาสังคมติดตามมาโดยตลอดตั้งแต่มีการตั้งคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ในฐานะประชาชนเราเป็นได้แค่ผู้ดู ไม่มีโอกาสให้ความเห็นหรือคัดค้าน
รัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 มีเจตนาให้รัฐธรรมนูญฉบับนี้แก้ยาก รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่กำลังพูดถึงยังมีเงื่อนไขเกี่ยวกับวุฒิสภาอีก ภาคประชาสังคมมีความหวังในการแก้รัฐธรรมนูญ แต่เมื่อมาเข้าสู่การพิจารณาในชั้นของวุฒิสภาก็ติดปัญหา คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติกลับเปลี่ยนใจไปใช้เสียงข้างมากสองชั้น
ข้อเรียกร้องจากภาคประชาสังคมคือ ขอให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตราหรือบางหมวด โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวข้องกับประชาชน หมวดที่เกี่ยวข้องสิทธิและเสรีภาพ ควรจะได้รับการแก้ไขเป็นลำดับแรก เนื่องจากรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 เขียนไว้ไม่ชัดเจนกระทบต่อสิทธิเด็ก สิทธิการศึกษา สิทธิชุมชน และสวัสดิการประชาชนที่ลดลง รวมถึงการขยายเงื่อนไขในสิทธิและเสรีภาพ รัฐต้องเป็นคนที่จัดสวัสดิการให้กับประชาชน แต่ในรัฐธรรมนูญกลับไม่ได้เขียนให้ประชาชนเข้าถึงสิทธินั้นด้วยตัวของประชาชนเอง
ในภาพรวมรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 เป็นการควบคุมรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง เข้ามาแทรกแซงรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน ด้วยการสร้างยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ไม่น่าจะมีที่ไหนเขาทำกัน จึงมีความจำเป็นที่จะต้องแก้ไขที่มา อำนาจหน้าที่ของ สว. และองค์กรอิสระ รวมถึงกรณีที่ไม่สามารถตรวจสอบการทำงานของทหารได้
”อยากให้กำลังใจรัฐบาลในการเสนอร่างยุติรัฐประหาร หรือการให้พลเรือนสามารถตรวจสอบหน่วยงานทหารได้ ในเมื่อทหารใช้เงินทุกบาททุกสตางค์ที่มาจากภาษีประชาชน ประชาชนจึงมีสิทธิที่จะตรวจสอบ“
นางอังคณา เชื่อว่าการลงมติในร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ (ฉบับที่ …) พ.ศ. …. ที่คณะกรรมาธิการร่วมพิจารณาแล้วเสร็จในวันพรุ่งนี้ (17 ธ.ค.67) เสียงข้างมากคงยืนยันตามมติเดิมคือ ใช้เสียงข้างมาก 2 ชั้น ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง พร้อมฝากถึงนายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่มาร่วมเสวนาด้วยว่า มั่นใจในฝีมือของนายชูศักดิ์ในการพูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาลบางพรรคที่น่าเชื่อว่าจะสามารถสนับสนุนเสียงของ สว.ได้ รวมถึงเห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา












