กมธ.ความมั่นคงฯ สภาฯ จี้ฝ่ายการเมืองยกระดับเจรจา เร่งช่วยคนไทยพ้นสงครามในเมียนมา
กมธ.ความมั่นคงฯ สภาฯ เผยฟังราชการทำเต็มที่ จี้ฝ่ายการเมืองยกระดับเจรจา เร่งช่วยคนไทยพ้นสงครามในเมียนมา คาดเหยื่อ 41 คนต้องรอรัฐบาลประสานเคลียร์เส้นทางสู่ท่าขี้เหล็ก-ไม่น่าถึงไทยในวันนี้
วันนี้ (16 พ.ย. 66) นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติ และการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร นำกรรมาธิการฯ แถลงข่าวกับสื่อมวลชน ณ อาคารรัฐสภา ภายหลังการประชุมคณะกรรมาธิการฯ ครั้งที่ 7 เพื่อพิจารณาการช่วยเหลือคนไทยในเมืองเล้าก์ก่าย สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา
นายรังสิมันต์ แถลงว่า ในระเบียบวาระการประชุมนี้ คณะกรรมาธิการฯ เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาชี้แจง ได้แก่ กระทรวงการต่างประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกองทัพบก ซึ่งข้อมูลที่ได้รับจากหน่วยงานที่ชี้แจงนั้นตรงกันว่า จำนวนคนไทยที่รอคอยความช่วยเหลือ สามารถแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มหลัก ได้แก่
1.กลุ่มที่ยังอยู่ในเมืองเล้าก์ก่าย 254 คน ซึ่งอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของทหารเมียนมา 165 คน
2.กลุ่ม 41 คนที่จะเดินทางมาไทย แต่ยังเดินทางมาไม่ถึง นายรังสิมันต์ เปิดเผยว่า เท่าที่ฟังคำชี้แจงจากหน่วยงานความมั่นคง ไม่น่าเป็นไปได้ที่จะถึงประเทศไทยในวันนี้ พอทราบอุปสรรคบางอย่างแล้วว่า ระยะเดินทางจากเชียงตุงมาถึงแม่สายเป็นเวลา 4 ชั่วโมง แต่ต้องรอรัฐบาลประสานทางการเมียนมาให้ผ่านทางได้ เพื่อให้ 41 คนนี้มาถึงด่านท่าขี้เหล็ก จึงขอให้รัฐบาลเร่งรัดกระบวนการ เพื่อเป็นตัวอย่างที่ดีในการช่วยเหลือส่วนอื่นต่อไป
“ในการช่วยเหลือพี่น้องคนไทยส่วนที่เหลือ มีทั้งเรื่องละเอียดอ่อน และต้องยอมรับว่า พอเรื่องเกิดขึ้นในฝั่งเมียนมา ความช่วยเหลือของหน่วยงานต่าง ๆ ก็ต้องยอมรับว่าไม่ใช่เรื่องง่าย แต่วันนี้เราก็ตั้งใจฟังและเห็นความพยายาม โดยเฉพาะ ทบ. ซึ่งเจ้ากรมยุทธการฯ ให้ข้อมูลดีมาก แต่ต้องยอมรับว่าความตั้งใจอย่างเดียวไม่พอ … เราอาจยังไม่มีคำตอบให้กับประชาชนว่า เมื่อไรที่ประชาชนที่ติดที่นั่นจะได้กลับบ้าน แต่หน่วยงานที่มาชี้แจงก็ได้พยายามอย่างเต็มที่ แต่คงต้องมีการยกระดับ คาดหวังว่ารัฐบาลจะยกระดับเพื่อให้พี่น้องชาวไทยปลอดภัยให้มากที่สุด”
นายรังสิมันต์ เปิดเผยว่า คณะกรรมาธิการฯ จึงมีมติทำหนังสือเร่งด่วนไปยังรัฐบาล ให้รัฐบาลเร่งรัดการแก้ปัญหาช่วยเหลือคนไทยที่ติดที่เมืองเล้าก์ก่าย ออกมาอย่างเร่งด่วนที่สุด รวมถึงเสนอให้ตั้งวอร์รูมเพื่อช่วยเหลือคนไทยได้แล้ว
“สถานการณ์ในเมียนมาวันนี้ จากข้อมูลที่ทุกฝ่ายให้กับเรามา ตรงกันว่าเป็นสถานการณ์ที่รุนแรงและน่ากังวลอย่างที่สุด วันนี้สถานการณ์มันเลวร้ายจริง ๆ ถ้าเราไม่เร่งที่จะทำอะไร จะไม่ใช่แค่คนไทยที่อยู่ที่เล้าก์ก่าย ที่ต้องรอคอยความช่วยเหลือ แต่ยังมีอีกมาก วันนี้เป็นบทพิสูจน์ว่า ถ้าช่วยพี่น้องคนไทยที่อยู่ที่เล้าก์ก่ายไม่ได้ เราจะไม่สามารถที่จะมีศักยภาพที่จะช่วยเหลือคนในพื้นที่อื่นได้” ประธานกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐฯ กล่าว
นายรังสิมันต์ ตอบคำถามสื่อมวลชนโดยยอมรับว่า ยังไม่ได้รับคำตอบจากกระทรวงการต่างประเทศ เกี่ยวกับกรอบเวลาดำเนินการ แต่กรรมาธิการฯ มีความเห็นว่า ต้องกำหนดกรอบเวลาได้แล้ว มิฉะนั้น การทำงานโดยไม่มีกรอบเวลาอาจไม่มีมรรคผลอะไรขึ้นมา จึงฝากว่ากระทรวงการต่างประเทศสำคัญ และรอบหน้าก็ต้องการคำตอบด้วย
ขณะเดียวกัน กรรมาธิการฯ ก็ไม่กล้าประเมินกรอบเวลาเช่นกัน เพราะไม่ได้อยู่หน้างานโดยตรง และเป็นการเคารพหน่วยงานหน้างานที่เกี่ยวข้อง
“แต่ต้องเรียนว่า คนไทยที่อยู่ตรงนั้น เขาอยู่มาเป็นเดือนแล้วครับ เขาอยู่ท่ามกลางสงครามมาเป็นเดือนแล้วครับ แล้วก่อนหน้านี้ ผมเคยได้รับคำตอบจากหน่วยงานความมั่นคงแห่งหนึ่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า 7 วันน่าจะช่วยคนไทย 254 คนนี้ได้ แต่วันนี้ก็ยังไม่ได้ ดังนั้น ผมคิดว่าเร็วที่สุด คือสิ่งที่เราอยากเห็น แต่เข้าใจว่าหน้างานมีความยาก จึงคาดหวังว่าหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องจะตอบว่า ตกลงแล้วจะช่วยเหลือคนไทยได้เมื่อไร” ประธานกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐฯ กล่าว
นายรังสิมันต์ ยังเปิดเผยข้อเสนอของกรรมาธิการฯ ต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า ให้มีการทำการบ้านเรื่องข้อมูล ตลอดจนให้ทุกส่วนที่เกี่ยวข้องไปเจรจา แต่ขอไม่ลงรายละเอียดว่าเจรจากับใคร บางครั้งไม่ใช่แค่หน่วยความมั่นคงคุยกับหน่วยความมั่นคงแล้วจบ เงื่อนไขของเมียนมากับไทย การคุยเฉพาะหน่วยความมั่นคงอย่างเดียวอาจจะเป็นอย่างนั้น แต่หากคุยกับประเทศที่สาม ฝ่ายการเมืองต้องลงลึกเข้าไปสู่การพูดคุย อย่างประเทศจีนที่ติดกับประเทศเมียนมา ก็ยังไม่ได้รับรายงานว่ามีผู้บริหารระดับสูงในรัฐบาลเดินทางไปประเทศจีนหรือยัง จึงคาดหวังให้มีกระบวนการนั้น เพราะหากใช้ช่องทางที่ทำกันมา ก็ได้แค่นี้
ด้านนายปิยรัฐ จงเทพ สส. กรุงเทพมหานคร พรรคก้าวไกล ในฐานะโฆษกกรรมาธิการฯ แถลงว่า หลายประเทศออกแถลงการณ์ เตือนประชาชนในประเทศตัวเอง เกี่ยวกับการเข้าพื้นที่ชายแดนและหลายเมืองในเมียนมาที่มีการปะทะกันแล้ว ส่วนตัวได้หารือกับที่ประชุมในวันนี้ ให้เร่งรัดประชุมเรื่องนี้ในสัปดาห์หน้าต่อไปด้วย
นายชุติพงศ์ พิภพภิญโญ เลขานุการกรรมาธิการฯ กล่าวว่า แม้เข้าใจ แต่ไม่สามารถยอมรับในสิ่งที่พี่น้องคนไทย ไม่สามารถเดินทางกลับมาได้ จึงพยายามเสนอให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการเจรจาทั้งหมด ทั้งเรื่องกรอบเวลาและมาตรการที่จะใช้ ให้การบ้านกับทุกหน่วยงานเตรียมตัวให้มากขึ้น อย่างไรก็ตาม ก็ไม่อยากอยู่ในสภาวะที่ต้องแถลงว่าเรามีความพยายามอย่างเต็มที่ เพราะอยากได้ความคืบหน้า ทุกเวลาที่ผ่านพ้นไป จะมีปัญหาเรื่องการอพยพ
นายรังสิมันต์ ยังกล่าวทิ้งท้ายว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ วันนี้ถ้าเทียบเคียงเป็นบ้าน วันนี้บ้านข้างๆ เราไฟไหม้ และมีคนในครอบครัวของเราที่ติดอยู่ในบ้านหลังนั้น หน้าที่ของเราคือต้องช่วยเหลือเขาให้ได้
“เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่จริง เข้าใจว่าการพิจารณาเรื่องนี้ มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า เกี่ยวข้องกับทุนจีนสีเทาหรือไม่ เกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์หรือไม่ ผมไม่อยากให้เราหยิบเรื่องนี้มาพูดกันในตอนนี้ วันนี้ภารกิจของเราคือ ต้องช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์กลับสู่ประเทศไทย กลับสู่พื้นที่ความปลอดภัยโดยเร็วที่สุด นี่คือภารกิจของเรา นี่คือสิ่งที่เราพยายามทำ เรื่องอื่นค่อยว่ากัน” ประธานกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐฯ กล่าว












