พร้อมรับ 41 คนไทยเหยื่อค้ามนุษย์ในเล้าก์ก่าย กลับถึงไทยวันนี้
พร้อมรับ 41 คนไทยเหยื่อค้ามนุษย์ในเล้าก์ก่าย กลับถึงไทยวันนี้ ส่งตรวจสุขภาพ-เข้ากระบวนการ NRM เตือนอย่าเชื่อทำงานรายได้ดีในประเทศเพื่อนบ้าน ไม่มีจริง
วันนี้ (16 พ.ย. 66) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการเตรียมการช่วยเหลือคนไทย 41 คน (ชาย 23 คน และหญิง 18 คน) เหยื่อค้ามนุษย์ในตึกหมายเลข 9 เมืองเล้าก์ก่าย ประเทศเมียนมา ที่หนีออกมาจากตึกได้ และได้รับการช่วยเหลือจากกองกำลังว้า นำส่งกองทัพเมียนมา ซี่งทางการไทย โดยคณะ TBC กองทัพบก จะไปรับกลับมาถึงชายแดน อ.แม่สาย จ.เชียงราย ในวันนี้
เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา กองกำลังผาเมือง ประชุมหารือเพื่อเตรียมความพร้อม ในการช่วยเหลือการส่งกลับคนไทย 41 คน นำโดย พลตรีประพัฒน์ พบสุวรรณ ผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง พร้อมด้วยคณะฝ่ายเสนาธิการ กองกำลังผาเมือง โดย กองบังคับการควบคุมส่วนแยก กองกำลังผาเมือง บูรณาการร่วมกับ มณฑลทหารบกที่ 37, หน่วยเฉพาะกิจทัพเจ้าตาก, กองบังคับการผาทมิฬ, โรงพยาบาลค่ายเม็งรายมหาราช และ คณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่นไทย – เมียนมา (TBC) ฝ่ายไทย
ทันทีที่ทั้ง 41 คนเดินทางมาถึงชายแดน จะมีหน่วยแพทย์เข้าไปตรวจร่างกายเบื้องต้น และตรวจโรคระบาด ก่อนส่งตัวไปยัง รพ.ค่ายพญาเม็งรายมหาราช เพื่อพบแพทย์ตรวจร่างกายโดยละเอียด ผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมือง และเจ้าหน้าที่จากกระทรวง พม. ก่อนจะได้พบญาติและเดินทางกลับ ซึ่งขณะนี้ทางการไทยจัดเตรียมพื้นที่และขั้นตอนพร้อมปฏิบัติแล้ว

ด้าน นายจารุวัฒน์ จิณห์มรรคา รองประธานมูลนิธิอิมมานูเอล ภาคประชาชนที่ประสานงานกับญาติเหยื่อค้ามนุษย์ และประสานขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่หน่วยงานต่างๆ ของไทย ระบุว่า การช่วยเหลือคนไทยกลุ่มนี้ มูลนิธิอิมมานูเอล ได้รับแจ้งจากญาติผู้เสียหาย ร้องเรียนว่ามีมีคนในครอบครัว พื้นที่ชุมชนภาคเหนือ ถูกหลอกไปทำงานในเล้าก์ก่าย ประเทศเมียนมา ชวนไปทำงานตอบแชทแอดมิน ราคาเงินเดือน 30,000 กว่าบาท หลังจากนั้นมีคนส่งตั๋วเครื่องบินมาให้เป็นบริษัทคนจีน ส่งเงินมาให้ ทำพาสปอร์ตให้ และรับจากในหมู่บ้านไปที่กรุงเทพฯ และบินต่อไปเมืองมัณฑะเลย์ ประเทศเมียนมา
เมื่อถึงสนามบินมัณฑะเลย์ จะมีนายหน้ามารับเดินทางไปที่ เมืองเล้าก์ก่าย ซึ่งเป็นพื้นที่ที่สถานทูตไทยและทางการเมียนมาได้ประกาศแล้วว่า ไม่ให้คนไทยเข้าไปด้านใน ทั้งหมดจึงถูกหลอกเข้าไปในพื้นที่ตรงนั้น จะรู้ตัวว่าถูกหลอกเมื่อเดินทางถึง มีคนยืนถือปืนล้อมทางเข้าออก
นอกจากนั้นยังมีเหยื่อที่ถูกหลอกจากการถูกทักแชทส่วนตัว จากการไปฝากหางานในกลุ่ม Facebook โดยจะทักมาถามว่า มาทำงานแอดมินไหม ในประเทศเมียนมา มีรายได้ดี และใช้วิธีการเดิมคือ ซื้อตั๋วเครื่องบินให้ เมื่อเดินทางไปถึงสนามบินมัณฑะเลย์ มีรถมารับเหมือนกัน หลายคนจะเป็นแบบนี้ และระหว่างทางจากสนามบินจะมีคนคอยคุยปลอบใจ ทำให้เชื่อใจว่าได้มาทำงานด้วยกัน แต่เมื่อเข้าไปในตึกแล้วจะพบทันทีว่าไม่ใช่งานที่ตรงปกแบบที่บอกไว้
นายจารุวัฒน์ เล่าว่า ในตึกเหล่านั้น จะมีสคริปคำพูด สอนให้ต้มตุ๋นต่างๆ เหยื่อที่รู้จะไม่อยากทำทันที เขามีกระบวนการสอนอย่างดี มีล่ามแปล มีคนจีนอยู่ในนั้น หากใครไม่ทำจะถูกทำร้ายร่างกาย กักขัง งดอาหาร สารพัด หนักที่สุดคือเสียชีวิต
เมื่อถูกหลอกไปแล้ว จะมีวิธีให้กลับบ้านได้คือต้องจ่ายเงินไถ่ตัวคนละ 250,000 บาท หรือให้หาคนมาแทน 4 คน บางคนไม่รู้ทำอย่างไร ก็ไปหลอกคนเข้ามา สุดท้ายแล้วไม่มีใครได้กลับสักคนเดียว ทั้งคนชวนและมาใหม่ ก็ถูกติดอยู่ในพื้นที่ทั้งหมด
โดยคนไทยทั้ง 41 คนนี้ จะเข้าสู่กระบวนการคัดแยก NRM โดยทางราชการ จะดูแลจะทำให้เราเห็นข้อเท็จจริงบางส่วนว่าสิ่งที่เขาพูดตรงหรือไม่ เบื้องต้นเรามีข้อมูลไว้แล้วและประสานงานต่อให้กับภาครัฐ ต้องเข้าสู่กระบวนการสหวิชาชีพพิจารณาลักษณะการค้ามนุษย์ เนื่องจากมีทั้งการกักขัง การทำร้ายร่างกาย
นายจารุวัฒน์ เผยว่า กลุ่ม 41 คนนี้ หนีออกมาจากตึกได้เอง และไปเจอทางกลุ่มกองกำลังว้าพอดี จึงได้รับการช่วยเหลือ แต่ยังมีคนรอรับการช่วยเหลืออยู่อีกจำนวนมากราว 200 คน โดยสถานการณ์ทั้งหมดขอให้ทางกระทรวงการต่างประเทศเป็นผู้ชี้แจงต่อไป













