ครม.ไฟเขียว ออก พ.ร.ก.ให้คลังค้ำหนี้กองทุนน้ำมัน
ด้านหน.พรรคกล้า ผิดหวัง รัฐโยนภาระหนี้ให้ปชช.
(16 ส.ค. 65) นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบร่างพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลัง ค้ำประกันการชำระหนี้ของสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. … และการกู้ยืมเงินของสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอเป็นวาระลับ โดยหลังจากนี้ จะส่งเรื่องไปยังสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณา เพื่อเสนอไปยังสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา จึงจะมีผลบังคับใช้ โดยระหว่างขั้นตอนการพิจารณา กองทุนน้ำมันฯ จัยังไม่กู้ เพราะต้องรอขั้นตอนสภาก่อน ส่วนวงเงินมากน้อยแค่ไหน นายวิษณุระบุว่า ขอให้กระทรวงการคลังเป็นผู้ชี้แจงเอง
ด้าน นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า แสดงความเห็นผ่านเฟซบุ๊กว่า การที่ ครม.เห็นชอบออก พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังค้ำประกันเงินกู้ให้กองทุนน้ำมัน 1.5 แสนล้าน เป็นการบริหารเศรษฐกิจที่ล้มเหลว สุดท้ายรัฐบาลเลือกที่จะแก้ปัญหากองทุนน้ำมันขาดสภาพคล่อง ด้วยการโยนภาระหนี้ให้ประชาชน แทนที่จะบริหารต้นเหตุที่ทำให้ราคานํ้ามันแพงเกินควร
นายกรณ์ยังระบุว่า กองทุนนํ้ามันเป็นหนี้เพราะนํ้ามันแพง นํ้ามันแพงเพราะค่าการกลั่นและค่าการตลาดสูงเกินไป ส่งผลให้บริษัทนํ้ามันกำไรเพิ่มขึ้นเป็นหลัก 10 เท่า หรือ 1,000% ซึ่งที่ผ่านมา พรรคกล้าได้เสนอให้เก็บภาษีลาภลอย นำเงินภาษีมาลดหนี้กองทุนนํ้ามัน และให้รัฐบาลกำกับค่าการกลั่นและค่าการตลาดให้เป็นธรรม โดยก่อนนี้ รัฐมนตรีพลังงานบอกว่า จะไปเค้นกำไรจากโรงกลั่นมาช่วยลดภาระหนี้ 24,000 ล้านบาท แต่สรุปว่า ไม่ได้มาแม้แต่บาทเดียว จนวันนี้ต้องเอาเงินภาษีไปค้ำหนี้ที่ยังเพิ่มขึ้นทุกวัน
หัวหน้าพรรคกล้า เพิ่มเติมว่า เดิมทีกฎหมายจำกัดหนี้กองทุนน้ำมันไว้ที่ 20,000 ล้านบาท แต่เมื่อต้นปี รัฐบาลได้มีมติรื้อเพดานออกหมด เพื่อใช้วิธีสร้างหนี้ แทนที่จะบริหารจัดการโครงสร้างการทำธุรกิจที่ไม่เป็นธรรมในสถานการณ์ปัจจุบัน น่าผิดหวังมาก วันนี้รัฐบาลได้เปิดช่องทางใหม่ในการสร้างหนี้นอกระบบงบประมาณ สวนทางกับหลักวินัยทางการคลังที่รัฐบาลพูดมาตลอด และที่น่าสังเกตคือ เรื่องนี้ กระทรวงพลังงานเป็นคนชง กระทรวงการคลังคงกระดากปากที่จะเป็นผู้เสนอ แต่ก็ไม่แข็งพอที่จะทักท้วง จนการบริหารเศรษฐกิจของทั้งคณะอ่อนปวกเปียกไปหมด
