POLITICS

แท็กซี่แน่นสถานีกลางบางซื่อ ต่อคิวปรับจูนมิเตอร์ราคาใหม่ วันแรก

แท็กซี่แน่นสถานีกลางฯ ต่อคิวปรับจูนมิเตอร์ราคาใหม่วันแรก โวยใบเสร็จขาดข้อมูล – เกินราคา ส.ส. ก้าวไกล จี้ อธิบดีขนส่งฯ รุดแก้ปัญหา เผยเชิญ รมว.คมนาคม แจง กมธ.แรงงาน สภาฯ พุธนี้ด้วย

วันนี้ (16 ม.ค. 66) ถือเป็นวันแรก ที่กรมการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม อนุญาตให้บริษัทเอกชนบริการปรับจูนมิเตอร์หรือมาตรวัดอัตราโดยสารตามระยะทาง สำหรับผู้ขับแท็กซี่ในเขตกรุงเทพมหานคร (กทม.) และปริมณฑล ภายหลังกระทรวงคมนาคม ประกาศกำหนดอัตราค่าจ้างรถแท็กซี่ในเขต กทม. พ.ศ. 2565 หรือการปรับขึ้นอัตราค่าโดยสารสำหรับรถแท็กซี่สามตอนที่กิโลเมตรแรก 40 บาท และให้กำหนดอัตรานาทีละ 3 บาท กรณีรถแท็กซี่ทุกแบบเคลื่อนไม่เกิน 6 กิโลเมตร/ชั่วโมง

The Reporters สำรวจบรรยากาศสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ (สถานีกลางบางซื่อ) เวลา 11:30 น. บริเวณโถงประตู 1-3 ถูกจัดสรรให้เป็นพื้นที่สำหรับบริษัทเอกชน 5 รายดำเนินการ ตามประกาศกรมการขนส่งทางบก ซึ่งพบว่ามีผู้ขับแท็กซี่จากหลากหลายเขต เข้านั่งรอเต็มพื้นที่ และต่อแถวรับบัตรคิวยาวออกไปทั้งสองฝั่งโถง

อย่างไรก็ตาม มีการตั้งข้อสังเกตจากผู้ขับแท็กซี่บางรายว่า ค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บโดยบริษัทบางราย สูงกว่า 300 บาท ที่กำหนดเป็นราคากลางตามประกาศกรมการขนส่งทางบก ทั้งบริษัทบางรายยังออกบิลเงินสดที่บกพร่องรายละเอียด

“ดูใบเสร็จนะครับ ใบละ 300 บางใบก็ 350 แท็กซี่มีอยู่ 80,000 คัน วันนี้ยังมาไม่ถึง 2,000 คันเลย แล้วทำไมถึงออกใบเสร็จให้แบบนี้ ไม่เหมือนตอนออกใบปรับ โอ้โห ไวเหมือนโกหก แล้วดูระบบวันนี้ ไม่แยกคิวให้เรียบร้อยเลย”

“ค่าบริการไม่เท่ากันเนี่ย ยี่ห้อผม 300 บาท อีกยี่ห้อนึง 350 บาท ทำไมไม่เท่ากันล่ะ ? แล้วคุณดูนะ ขนส่งให้บริษัทเอกชนมาปรับจูนมิเตอร์แล้วใบเสร็จออกไม่ถูกต้องตามกฎหมาย คุณให้แต่แท็กซี่ทำถูกกฎหมาย แต่ขนส่งล่ะ ? ให้บริษัทออกใบมา ไม่มีอะไรเลย เก็บเงินไปเนี่ย” ผู้ขับแท็กซี่รายหนึ่ง แสดงบิลเงินสดของตนเองในอัตรา 300 เทียบกับบิลเงินสดผู้ขับแท็กซี่อีกคน ที่ปรากฏอัตรา 350 บาท

แม้อัตราที่ต่างกันจะเพิ่งปรากฏจนให้ผู้ขับแท็กซี่ต้องควักเงินมากขึ้นทันที แต่ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 10 ม.ค. 66 สมาพันธ์แรงงานแท็กซี่ไทย เคยยื่นเรื่องร้องเรียนต่อคณะกรรมาธิการการแรงงาน สภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอให้ตรวจสอบค่าธรรมเนียมในการปรับจูนมิเตอร์ในอัตรา 300 บาท เนื่องจากมองว่าแพงเกินความเป็นจริงมาแล้ว

The Reporters คุยกับ กิตติภรณ์ แสงปัญญา เลขานุการสมาพันธ์แรงงานแท็กซี่ไทย เคยเรียกร้องว่าค่าธรรมเนียมก็ไม่ควรเกิน 200 บาท แต่วันนี้บางบริษัทก็ปรับขึ้นเองอีก จึงขอความอนุเคราะห์จากประธานกรรมาธิการฯ ช่วยแก้ไขปัญหาให้กับกลุ่มแท็กซี่ที่ถูกเอารัดเอาเปรียบนี้ด้วย

“ทุกวันนี้ บางคนยังเช่ารถ ไหนจะค่าแก๊ซ ค่าน้ำมัน ราคาเชื้อเพลิง ข้าวแต่ละมื้อ ลูกไปโรงเรียน เจ็บไข้ได้ป่วย ในการปรับจูนมิเตอร์จึงขอยืนยันว่าน่าจะไม่ควรเกิน 200 บาท” เลขานุการสมาพันธ์ กล่าวก่อนที่ นายสุเทพ อู่อ้น สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ปีกแรงงาน พรรคก้าวไกล ประธานกรรมาธิการการแรงงาน สภาผู้แทนราษฎร จะกล่าวว่า “อันที่จริง ไม่ควรจะเสียด้วยซ้ำ”

นายสุเทพ กล่าวว่า ค่าธรรมเนียมที่ต่างกันนั้น พบว่าบางบริษัทมีสูงถึง 400-450 บาทด้วย ซึ่งทำให้เกิดความสับสนกับผู้ขับแท็กซี่ จนเกิดภาวะจำยอมที่ต้องจ่าย ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่สูงเกินไป โดยเฉพาะภายหลังสภาวะการณ์หนักหนาสาหัสที่แท็กซี่ต้องประสบในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19

ประธานกรรมาธิการการแรงงาน ยังเปิดเผยใบแสดงตารางอัตราค่าโดยสารตามระยะทาง ที่ต้องแสดงในรถแท็กซี่ตามกฎหมาย ซึ่งพบว่ามีการจำหน่ายที่นี่ในราคาถึง 50 บาท ซึ่งนายสุเทพ มองว่า เป็นการกดทับพี่น้องชาวแท็กซี่ จึงพยายามประสานคุยกับเจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางบก แต่ก็เข้าใจว่าผู้บริหารระดับสูงยังมาไม่ถึง จึงต้องรีบกลับไปผลักดันต่อ

นายสุเทพ จึงเรียกร้องไปยัง อธิบดีกรมการขนส่งทางบก และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ให้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ขออย่าฟังแต่รายงาน แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องไม่ถูกแก้ไข

“หากออกพระราชกฤษฎีกาปรับอัตราค่าโดยสารอีกครั้งหนึ่ง ก็ต้องนำมิเตอร์มาปรับอีก แล้วมันจะอะไรกันนักกันหนา กับสิ่งที่เอากับพี่น้องแท็กซี่ หาเช้ากินค่ำ ปรับขึ้นแบบไม่เกิดประโยชน์ สตาร์ทก็ไม่ปรับ 10 กิโลฯ ก็ไม่ปรับ ผมว่าเรื่องพวกนี้ควรมีการดำเนินการที่ประชาชนเข้าถึงได้โดยไม่เสียตังค์ เพราะเขาเสียต้นทุนต่อทะเบียนทุกปีอยู่แล้ว” ส.ส. ปีกแรงงาน พรรคก้าวไกล กล่าว

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะกรรมาธิการการแรงงาน สภาผู้แทนราษฎร มีการบรรจุระเบียบวาระการประชุมเพื่อพิจารณาเรื่องร้องเรียนนี้ ในวันพุธที่ 18 ม.ค. 66 เวลา 13:30 น. แล้ว ทั้งยังเชิญ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม มาชี้แจงในวาระดังกล่าวด้วย

Related Posts

Send this to a friend