นายกฯ เผย ‘สมเด็จฮุนเซน’ ติดโควิด ขณะที่ตัวเองตรวจแล้วยังปกติ
นายกฯ ขอสื่อเว้นระยะห่างก่อนให้สัมภาษณ์ เผยสมเด็จฮุนเซนติดโควิด ขณะที่ตัวเองตรวจแล้วยังปกติ – ขอทุกคนฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น รักษาระยะห่าง เชื่อการเป็นเจ้าภาพช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้
วันนี้ (15 ต.ค. 65) ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน โดยยังคงสวมหน้ากากอนามัย และขอสื่อเว้นระยะห่าง เพราะเพิ่งเดินทางกลับจากประชุมสุดยอดอาเซียน ที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ซึ่งล่าสุดสมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชาติดเชื้อโควิด-19
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าสมเด็จฮุนเซนจะไม่เดินทางมาเป็นแขกของไทยในช่วงการประชุมเอเปคนี้ และจะไม่มีการส่งผู้แทนมา เนื่องจากเป็นการเชิญระดับผู้นำ ในส่วนของตนเองก็มีการตรวจหาเชื้อโควิด-19 เป็นประจำอยู่แล้ว มีเจ้าหน้าที่ไปตรวจให้อยู่แล้ว วันไหนที่มีงานรวมถึงภารกิจที่ทำเนียบรัฐบาลก็จะมีการตรวจเสมอ และในวันที่เดินทางกลับจากกัมพูชาก็มีการตรวจ เมื่อคืนก็ตรวจอีก ซึ่งยังปกติอยู่
ส่วนในการประชุมเอเปค ก็มีมาตรการตรวจโควิด-19 ก่อนเข้าร่วมประชุมอยู่แล้ว รวมถึงคณะที่มาร่วมประชุมก็มีการตรวจกันเอง ก็ต้องระมัดระวังที่สุด ทุกคนไม่มีใครอยากเป็น ช่วงนี้มีการเดินทางบ่อย ดังนั้นอยากเตือนให้ประชาชนไปฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น เว้นระยะห่างในที่สาธารณะ ไม่อยากให้โควิดกลับมาระบาดอีก เพราะขณะนี้การท่องเที่ยวดี คนเยอะ อะไรต่างๆ กำลังดีขึ้น
นายกรัฐมนตรียังกล่าวด้วยว่าในการประชุม ครม.วันนี้ไม่ได้กำชับอะไรเป็นพิเศษ เพราะที่ผ่านมามีการนำเสนอ การเจรจาข้อตกลงต่างๆ ให้ ครม.เห็นชอบตามกฎหมาย รัฐธรรมนูญมาตรา 178 วันนี้มี 7-8 เรื่องที่จะต้องลงนามกับผู้นำที่มาร่วมประชุมเอเปค สังเกตได้ว่าการประชุม ครม.จะมีวาระจรเกี่ยวกับเรื่องพิจารณาเกี่ยวกับการประชุมเอเปคเข้ามา ซึ่งจะต้องมีการเจรจาระดับเจ้าหน้าที่ก่อนจึงจะนำเข้า ครม.ให้ความเห็นชอบก่อนเจรจาบนโต๊ะผู้นำ
ส่วนการพบกับประธานาธิบดีสีจิ้นผิง ของจีนก็ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ เพราะมีการคุยในห้องประชุมอยู่แล้ว ซึ่งจะมีการหารือแบบ ทวิภาคีหลายประเทศ ส่วนใหญ่เป็นหลักการเดียวกัน ทำอย่างไรจะลดผลกระทบเศรษฐกิจโลกปัจจุบันในหลายมิติและแสวงหาความร่วมมือร่วมกัน ตามสโลแกนการประชุม OPEN CONNECT BALANCE ซึ่งที่ผ่านมานายกรัฐมนตรีก็พยายามทำแบบนี้มาตลอดทุกเวที ต้องสร้างความเชื่อมั่นและไว้วางใจกัน เอาประเด็นที่มีความต้องการร่วมกัน แบ่งปันกัน เพื่อประชาชนของเราโดยรวม
นายกรัฐมนตรียังกล่าวด้วยว่าการประชุมเอเปคจะทำให้มีเงินหมุนเวียนภายในประเทศ เพราะมีคนเดินทางมาเป็นหมื่นคน จะทำให้ธุรกิจภาคบริการ ทั้งธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร มีรายได้เพิ่มขึ้น
