POLITICS

‘ภราดร’ ย้ำ ภท.พร้อมถอย ลดเงื่อนไขร่างแก้ รธน.เดินหน้าร่วมกันสู่ฉบับประชาชน

‘ภราดร‘ ยอมถอย ปรับเนื้อหาร่างแก้รัฐธรรมนูญ เพิ่มการมีส่วนร่วมของประชาชน ปรับร่างใหม่ให้ผู้นำท้องถิ่นเป็นตัวแทนเลือกผู้สมัคร สสร.จังหวัด ก่อนส่งให้รัฐสภาเป็นผู้คัดเลือก ขอทุกคนลดทิฐิ รับหลักการทั้ง 3 ร่าง ยก เป็นจุดเริ่มต้นความสามัคคี และความปรองดอง เพื่อรัฐธรรมนูญที่มี ปชช.เป็นหุ้นส่วนของประเทศ

วันนี้ (15 ต.ค. 68) ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา วาระเรื่องด่วน พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ..) พุทธศักราช …. ที่เสนอโดย 3 พรรคการเมือง ได้แก่ พรรคประชาชน พรรคภูมิใจไทย และพรรคเพื่อไทย

นายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะ สส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย กล่าวสรุปร่างของพรรคภูมิใจไทย ว่า ตนเชื่อว่าการลงมติครั้งนี้จะเป็นโอกาสสำคัญเดินหน้าสู่การแก้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ แต่ความสำเร็จจะเกิดขึ้นได้ ถ้าทุกคนร่วมมือกันอย่างจริงจัง และจริงใจ แต่อุปสรรคใหญ่การแก้รัฐธรรมนูญคือ การที่ คณะกรรมาธิการ(กมธ.) มีเวลา 40 วัน ในการพิจารณาความเห็นไม่ตรงกันใน 3 ร่าง หากไม่เกิดความรอมชอมก็จะไม่สำเร็จ ตลอดจนความเห็นต่างในร่างพรรคเพื่อไทย พรรคประชาชน ที่ไม่ระบุชัดเจนว่าจะไม่แก้ไขหมวด1 และ 2 ในรัฐธรรมนูญ และคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ระบุว่า ห้ามประชาชนเลือกผู้ร่างรัฐธรรมนูญโดยตรง

นายภราดร กล่าวต่อว่า ส่วนร่างพรรคภูมิใจไทยนั้น หลายฝ่ายกังวลว่าขาดการมีส่วนร่วมของประชาชนในการแก้รัฐธรรมนูญ ขอยืนยันว่า เจตนารมณ์พรรคภูมิใจไทยต้องการให้ สสร.มาจากการเลือกตั้งของประชาชน แต่ติดคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ร่างของพรรคภูมิใจไทยจึงให้รัฐสภาเป็นผู้เลือก สสร.แทน และยังมีความกังวลว่า ร่างของพรรคภูมิใจไทยจะทำให้ได้ สสร.หรือรัฐธรรมนูญสีน้ำเงินนั้น ตนยืนยันว่า พรรคภูมิใจไทยไม่ยึดติดร่างของตัวเอง

นายภราดร กล่าวด้วยว่า ส่วนกรณีที่กังวลเรื่องประชาชนไม่มีส่วนร่วมนั้น เราพร้อมให้เลือกโดยอ้อม โดยนำตัวแทนประชาชน เช่น อบต. เทศบาล สท. นายก อบต. มาเลือก สสร.จังหวัด อาจจะให้เลือกมา 300 คน ตามโมเดลพรรคเพื่อไทย แล้วส่งให้รัฐสภาเลือกให้เหลือ 100 คน ซึ่งถือเป็นการถอยโดยใช้ส่วนผสมของพรรคเพื่อไทยมารวมด้วย ส่วนที่กังวลว่า สสร. เป็นของพรรคภูมิใจไทยแล้วทำให้เป็นรัฐธรรมนูญสีน้ำเงิน เพราะในร่างของภูมิใจไทย ให้รัฐสภาเป็นผู้เลือกสสร.ในส่วนของแต่ละจังหวัด เราถอยก็ได้เอาโมเดลของพรรคประชาชนก็ได้ ที่บอกว่าให้ สมาชิกรัฐสภา20 คน หยิบขึ้น 1 คน พวกตนก็สามารถที่จะปรับเปลี่ยนเป็นแบบนั้นก็ได้

“ส่วนการแก้มาตรา 256(1) ผมประกาศว่า ผมเป็นตัวแทนจากพรรคฯ เป็นกรรมาธิการ ผมก็จะไปเสนอตัดในส่วนนี้ออกด้วยตัวผมเอง นี่คือสิ่งที่พรรคภูมิใจไทย ยืนยันว่าตั้งใจและมีเจตนาตั้งใจให้การแก้รัฐธรรมนูญลุล่วงถึงปลายทางให้ได้ อะไรที่เป็นอุปสรรคที่อยู่ในร่างของผม ผมไม่ถือทิฐิ ผมไม่บอกว่าของผมถูกต้องที่สุดผมพร้อมที่จะถอย พวกผมพร้อมที่จะเอาร่างของเพื่อนมาประกอบร่างให้สมบูรณ์แบบที่สุด เพื่อลดความกังวลของเพื่อนสมาชิก ก็ต้องถามว่าพวกท่านพร้อมหรือไม่ในประเด็นที่กังวลถ้าถอยคนละก้าวก็เดินไปด้วยกันได้ ไม่อยากให้ความตั้งใจแก้รัฐธรรมนูญสะดุดหยุดลง เพราะความกังวลใจของสมาชิก” นายภราดร กล่าว

นายภราดร กล่าวอีกว่า ขอให้สมาชิกช่วยรับหลักการทั้ง 3 ร่าง เป็นจุดเริ่มต้นความสามัคคี ปรองดอง อะไรไม่เห็นด้วยเก็บใส่กระเป๋า แล้วไปแสวงหาจุดร่วมในชั้น กมธ.ขอให้คำมั่นสัญญาจะทำเต็มที่ แต่ภูมิใจไทยและพรรคร่วมรัฐบาลมีแค่ 140 กว่าเสียง ต้องขอความร่วมมือจากฝ่ายค้าน สว.ด้วย อย่าทำให้ความคาดหวังของประชาชนสะดุด เพราะทิฐิว่าความคิดของตัวเองดีที่สุด อยากให้ได้รัฐธรรมนูญเป็นของประชาชน มีประชาชนเป็นหุ้นส่วนประเทศ

Related Posts

Send this to a friend