‘สุทิน’ เผย แก้ รธน.บ่อย เพราะมีคนฉีกซ้ำ ๆ ถาม ปชน.ทำไมไม่เลือกเพื่อไทยที่เต็มใจแก้
‘สุทิน’ เผย แก้ รธน. บ่อย เพราะไทยอยู่ในวงจรอุบาทว์ ชี้ มีคนฉีกซ้ำ ๆ ลั่น จำเป็นต้องแก้เพื่อโครงสร้างที่ดี เอื้ออำนวยแก้ปัญหาให้ประชาชน ถาม ปชน. ทำไมไม่เลือกเพื่อไทยที่เต็มใจแก้ เปรียบเป็น “คนลวงเธอรัก คนรักเธอลวง” ฝาก ติดตามอย่างใกล้ชิด
วันนี้ (15 ต.ค. 68) ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภาวาระเรื่องด่วน พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ..) พุทธศักราช …. ที่เสนอโดย 3 พรรคการเมือง ได้แก่ พรรคประชาชน พรรคภูมิใจไทย และพรรคเพื่อไทย
นายสุทิน คลังแสง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า ประเทศเราเป็นประเทศที่แก้รัฐธรรมนูญบ่อยที่สุด เยอะที่สุด และก็เลยถูกค่อนแคะจากประชาชน จากหลายฝ่าย ที่ไม่เข้าใจว่านักการเมืองไทย และรัฐบาลไทย ไม่คิดจะทำอย่างอื่น แล้วก็ต่อท้ายปรามาสด้วยว่า ปัญหาปากท้องประชาชนไม่คิดจะแก้ โดยเหตุที่เราต้องมีรัฐธรรมนูญบ่อย และเยอะ เพราะเราอยู่ในวงจรอุบาทว์ คือเขียนแล้วก็มาฉีก ฉีกแล้วก็เขียน เขียนแล้วก็ฉีก วนเวียนอยู่แบบนี้ ดังนั้น มีคนฉีกบ่อย ก็ไม่ควรเขียนบ่อย ดังนั้น จึงอย่าโทษคนเขียน ให้ไปโทษคนฉีก จากงานวิจัย และโดยประสบการณ์ เป็นที่รับรู้กันว่าทุกคนที่เขียนกฏหมายหลังรัฐประหาร มักจะเขียนไว้เพื่อปกป้องตัวเอง สืบทอดอำนาจตัวเองด้วย และที่สำคัญที่สุดรัฐธรรมนูญหลังรัฐประหาร ก็มีปัญหา คือการไม่ได้รับการยอมรับจากประชาชนเท่าที่ควร เพราะคนเขียนมาจากไหนก็ไม่รู้ แม้กระบวนการจะดูดี แต่ท้ายที่สุด ก็มาจากคนที่ยึดอำนาจ เมื่อไม่เขียนรัฐธรรมนูญใหม่ ก็จะเกิดความขัดแย้งในสังคม จึงอยากอธิบายว่า ทำไมจะต้องมีการเขียนรัฐธรรมนูญบ่อย เพราะมีการฉีกบ่อย ตนเองนั้นเบื่อเรื่องนี้ที่สุด ไม่อยากเขียนรัฐธรรมนูญใหม่เลย อยากทำหน้าที่อื่นของผู้แทน แก้ปัญหาปากท้องของพี่น้อง
หากคิดแยกส่วน ก็จะบอกว่าทำไมถึงไม่สนใจปัญหาปากท้อง มัวแต่สนใจปัญหาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่หากคิดอย่างเป็นระบบ การแก้แก้ไขปัญหาปากท้องของประชาชน ต้องแก้ไขโครงสร้างที่ดี เพื่อให้เอื้ออำนวยกับประชาชน หากกติกาอย่างรัฐธรรมนูญไม่เอื้อให้แก้ปัญหาได้ เทวดาก็แก้ไม่ได้ 3 ปี 3 คน เทวดาที่ไหน จะมาแก้ได้ ดังนั้น หากคิดด้วยความเป็นธรรมแล้ว การแก้ปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน ต้องสร้างระบบที่ดี เอื้อให้เราทำงานได้
สำหรับรัฐธรรมนูญฉบับนี้ เราพยายามกันมาเยอะ และตระหนักคิดจะแก้ตั้งแต่ที่มีการประกาศใช้ เพราะรู้แล้วว่า แก้ปัญหาให้ประชาชนไม่ได้ และที่สำคัญที่สุด ต่างชาติก็รู้ว่าอีกไม่นานก็จะต้องแตกแยกอีก ใครที่จะมาค้าขายเป็นหุ้นส่วนธุรกิจกับเรา ก็จะไม่มา เมื่อเห็นรัฐธรรมนูญแบบนี้ รัฐธรรมนูญที่เป็นระเบิดเวลา เขาไม่มาร่วมลงทุน โดยภายหลังจากรัฐธรรมนูญฉบับนี้มีการประกาศใช้ ทุกพรรคการเมืองได้หาเสียงในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะรู้ว่าประชาชนต้องการให้แก้ และรู้ตัวว่า ถ้าไม่แก้ เข้าไป ก็จะทำงานยาก
นายสุทิน ระบุว่า ในสมัยประชุมที่แล้ว เราก็เดินหน้าแก้ทั้งฉบับ สุดท้ายก็มาตกม้าตายแถววาระ 3 และเมื่อมาแก้รายประเด็น ก็ยังไม่พอ เพราะรัฐธรรมนูญฉบับนี้ เราได้ตำหนิว่า ที่มาไม่ชอบ เนื้อหาไม่ชอบ และเป็นประชามติแบบกำมะลอ มัดมือคนชก จนมาวันนี้เห็นแล้ว ว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้ คนที่ผ่านเลือกตั้งมาเป็นอันดับ 1 ไม่ได้ตั้งรัฐบาล
รัฐธรรมนูญฉบับนี้ พยามโฆษณาชวนเชื่อว่าเป็นฉบับปราบโกง นักการเมืองที่สะอาดบริสุทธิ์ มีคุณธรรม จริยธรรม แต่มาวันนี้ ดูหน้าตารัฐบาลแล้ว จริยธรรมเป็นอย่างไร แล้วถ้าไม่มีจริยธรรมสกัดกั้นได้ไหม ซึ่งก็เป็นที่รู้กัน รัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าวที่บอกว่าจะปราบโกง ก็มีการตั้งองค์กรอิสระขึ้นมาเพื่อถอดถอน แล้วถามจริง ๆ ว่าองค์กรอิสระนั้น อิสระจริงหรือไม่ ถ่วงดุลตรวจสอบจริงหรือไม่ หรือว่ามาขี่คออำนาจประชาชน รวมถึง สว. ที่บอกว่าต้องเป็นกลาง และอิสระมาวันนี้เป็นอิสระจริงหรือไม่
นายสุทิน ระบุว่า รัฐธรรมนูญฉบับนี้ยุบพรรคมาไม่รู้กี่พรรค และสร้างผู้นำไทย 3 ปี 3 คน ต่อให้ 3 คนนั้นเป็นเทวดา แก้ปัญหาประชาชนได้หรือไม่ และรัฐธรรมนูญฉบับนี้ กำลังทำให้สภาแห่งนี้ทั้ง สว. และ สส. ขนลุก กับมาตรา 144 ที่เขย่าขวัญอยู่ทุกวันนี้ ที่มีการพูดถึงการโยกงบงบประมาณ ซึ่งมีการหยิบไปฟ้องว่าเป็นการทำผิด ซึ่งบัญญัติโทษเอาไว้หนัก ซึ่งจะตัดสิทธิ์ทางการเมืองและมีการลงโทษทางอาญา หากเป็นไปตามที่กำลังร้องอยู่ในขณะนี้ ความผิดของการโยกงบมาจากชาวบ้าน ตัดสินหมดทั้ง สส. สว. และ ครม. ไม่มีใครเหลืออยู่แม้แต่คนเดียว
“รัฐธรรมนูญอย่างนี้เขียนไว้ส่งเสริมให้ประชาชนมีศักยภาพสูงขึ้น หรือลดทอนให้เป็นเป็ดง่อย แล้วเขาทำอย่างนี้ให้ สส. และ สว. ต้องพะวง แล้วจะไปแก้ไขปัญหาอะไรให้กับชาวบ้านได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่เราไม่ควรกังวล” นายสุทิน กล่าว
นายสุทิน ยังตั้งคำถามว่า รัฐธรรมนูญฉบับปราบโกง ปราบได้กี่ราย ยังเดินลอยหน้าชูตาไปสู่อำนาจสูงสุดด้วยซ้ำไป และที่แย่ไปกว่านั้น โฆษณาชวนเชื่ออีกอัน คือเป็นการเขียนรัฐธรรมนูญให้แก้ยากที่สุด และแก้ไม่ได้ วางกลไกสลับซับซ้อน แล้วจะมีการแก้ไขได้หรือไม่ ซึ่งโดยส่วนตัวนั้น ตนเองไม่ค่อยมีความหวังเท่าไหร่ แต่ก็ไม่ได้นั่งอยู่เฉย ๆ รัฐธรรมนูญฉบับนี้ เป็นเพียงการหาช่างไปสร้างบ้าน หากผ่านวาระ 3 ก็จะได้ช่าง และจะทำไปรูปแบบนั้นก็ยังต้องเดินทางอีก
นายสุทิน ระบุว่า คนที่จะทำรัฐธรรมนูญฉบับนี้ให้สำเร็จ คือแกนนำรัฐบาลอย่างพรรคภูมิใจไทยเท่านั้น พรรคอื่นต้องสนับสนุน โดยในวันนี้เป็นแกนนำรัฐบาลที่ร่วมมือมากขึ้นทุกวัน และอาจจะเป็นเสียงข้างมากในเร็ว ๆ นี้ ซึ่งรัฐสภาเป็นคนชี้ขาด รวมถึง สว. ด้วย แม้จะไม่มีพรรค เราก็เดาใจท่านยาก แต่ก็ต้องพูดความจริงว่า สว. ใครประสานงานได้ดีที่สุด ในบรรดาพรรคการเมืองก็ต้องเป็นพรรคภูมิใจไทย และที่ผ่านมาตนเองก็รู้ใจพรรคภูมิใจไทย จึงกังวลใจว่า ไม่คิดอยากจะแก้ หรือเต็มใจหรือไม่ หรือเพราะมีความจำเป็นต้องแลกด้วย MOA ที่ตัวเองไม่สบายใจก็คือท่านไปไว้ใจคนที่ไม่อยากแก้แต่ไม่ไว้ใจคนที่อยากแก้แบบเรา ”คนลวงเธอรัก คนรักเธอลวง“
นายสุทิน กล่าวทิ้งท้ายว่า อยากบอกทุกคนว่าการ แก้ครั้งนี้ อย่าไว้วางใจ อย่าคิดว่าง่าย ทุ่มเต็มที่แล้ว อย่าคิดว่าง่าย เพราะเราไปเชิญคนที่ไม่ได้อยากแก้มาแก้ เราไปบังคับเขา พร้อมย้ำว่า รัฐธรรมนูญฉบับนี้ จำเป็นต้องแก้ และ สส. สว. ไม่ได้ตั้งหน้าตั้งตาจะแก้รัฐธรรมนูญ เราก็ทำอย่างอื่นด้วย แต่หากคิดว่ารัฐธรรมนูญไม่เอื้อ ก็แก้ปัญหาให้ประชาชนไม่ได้ ท้ายที่สุด อยากฝากข้อกังวลว่า วันนี้เรากำลังร่วมมือกันแก้ไขรัฐธรรมนูญ กับคนที่อยากแก้ หรือคนที่ไม่อยากแก้ เวลาที่เหลือ ขั้นตอนหลังจากนี้ เราก็ช่วยกันกำกับทุกอย่าง เพื่อให้สำเร็จ ถ้าไม่สำเร็จ ตนเองมองเห็นว่า อนาคตประเทศเราข้างหน้า ประชาชนที่รอคอยการแก้ไขปัญหาจากเรา ก็จะมืดมน












