‘มาริษ’ ประณามกัมพูชาอย่างถึงที่สุด ละเมิดข้อตกลงซ้ำแล้วซ้ำเล่า
กต. เชิญคณะทูตรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวา เข้าฟังเหตุกัมพูชาใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ‘มาริษ’ ประณามอย่างถึงที่สุด ละเมิดข้อตกลงซ้ำแล้วซ้ำเล่า ขอผู้บริจาคสนับสนุนกัมพูชาดำเนินทุกทางให้หยุดวางทุ่นฯ อย่างไร้มนุษยธรรม
วันนี้ (15 ส.ค. 68) กระทรวงการต่างประเทศ จัดบรรยายสรุปแก่คณะทูตกลุ่มรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวาเกี่ยวกับเหตุการณ์การใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลของกัมพูชา โดยมีผู้เข้าร่วม 67 คน จาก 41 ประเทศ 1 องค์กร และ 4 องค์การ
นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวเปิดบรรยายผ่านบันทึกวิดีทัศน์ โดยระบุว่าตนเองเสียดายที่ไม่สามารถมาร่วมการบรรยายสรุปด้วยตัวเองได้ เนื่องจากติดภารกิจเยือนประเทศจีน เพื่อเป็นประธานร่วมการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศ ตามกรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง (Mekong-Lancang Cooperation) หรือ MLC ครั้งที่ 10 ซึ่งการบรรยายสรุปวันนี้จะมุ่งเน้นที่สถานการณ์ทุ่นระเบิดบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา วัตถุประสงค์ของการบรรยายสรุป คือเพื่อให้ข้อมูลที่ครบถ้วนและถูกต้องเกี่ยวกับสถานการณ์ทุ่นระเบิดแก่ประเทศสำคัญ ๆ และองค์กรระหว่างประเทศภายใต้อนุสัญญาออตตาวา ตลอดจนประเทศสมาชิกอาเซียน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราวที่จัดตั้งขึ้นตามการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา (GBC) ครั้งที่ 16 สมัยวิสามัญ ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ และประเทศผู้สังเกตการณ์และองค์กรอื่น ๆ
เป็นเวลากว่า 2 ทศวรรษแล้วที่ประเทศไทยได้ยึดมั่นในพันธกรณีทางกฎหมายภายใต้อนุสัญญาออตตาวาอย่างเต็มที่ จวบจนถึงปัจจุบัน เราได้กอบกู้และส่งคืนพื้นที่มีการวางทุ่นระเบิดกว่าร้อยละ 99 ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 2,500 ตารางกิโลเมตร กลับคืนสู่ชุมชนของเรา อีกทั้งได้ดำเนินการและยังคงให้ความช่วยเหลือผู้รอดชีวิตจากทุ่นระเบิด เพื่อให้พวกเขาสามารถดำรงชีวิตอย่างมีศักดิ์ศรีและปกติสุข ความพยายามร่วมกันของประชาคมระหว่างประเทศในการแก้ไขปัญหาผลกระทบด้านมนุษยธรรมจากทุ่นระเบิดได้รุดหน้าไปมากแล้ว และนี่คือเหตุผลที่เหตุการณ์ทุ่นระเบิดที่ชายแดนไทย-กัมพูชาจึงสร้างความสะเทือนขวัญให้กับพวกเราอย่างมาก และย้ำเตือนเราอีกครั้งว่าไม่ควรมีพื้นที่หรือเหตุผลใด ๆ ในการใช้อาวุธชนิดนี้อีกต่อไป
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ในการประชุม GBC ได้มีการตกลงหยุดยิง ซึ่งไทยได้ปฏิบัติตามข้อตกลงนี้โดยสมบูรณ์ แต่เป็นที่น่าเศร้าใจที่ไม่ถึงห้าวันหลังจากการประชุมฯ ก็เกิดเหตุการณ์ทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดอีก 2 ครั้ง โดยหลักฐานยืนยันอย่างชัดเจนว่าทุ่นระเบิดเหล่านี้เพิ่งถูกวางใหม่โดยกัมพูชา เหตุการณ์ทุ่นระเบิดที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าเหล่านี้ แสดงให้เห็นว่ากัมพูชายังคงจงใจละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย ซึ่งถือเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างร้ายแรงและข้อตกลงหยุดยิงที่ตกลงกันไว้เมื่อเร็ว ๆ นี้ ยิ่งไปกว่านั้นกัมพูชายังจงใจละเมิดพันธกรณีหลักภายใต้อนุสัญญาออตตาวาอีกด้วย
ประเทศไทยขอประณามการกระทำเหล่านี้อย่างรุนแรงที่สุด การกระทำเหล่านี้บ่อนทำลายความสมบูรณ์ของอนุสัญญาออตตาวา และเจตนารมณ์ของปฏิญญาเสียมราฐ-อังกอร์ ซึ่งได้รับการรับรองภายใต้การปกครองของกัมพูชาในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2567 การกระทำเหล่านี้ยังถือเป็นการละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง ซึ่งเป็นหลักการที่ตนเชื่อว่าทุกท่านในที่นี้ยึดมั่นอยู่
“ก่อนเกิดสถานการณ์ชายแดนระหว่างไทยและกัมพูชา นายกรัฐมนตรีไทยได้เสนอต่อนายกรัฐมนตรีกัมพูชาเกี่ยวกับปฏิบัติการกวาดล้างทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรม ซึ่งนายกรัฐมนตรีกัมพูชาได้ให้ความเห็นชอบแล้ว อย่างไรก็ตาม ฝ่ายกัมพูชาได้ชะลอการดำเนินการ ซึ่งมาตรการเหล่านั้น หากดำเนินการก็อาจสามารถป้องกันความสูญเสียอันน่าเศร้าที่เพิ่งเกิดขึ้นได้ ที่สำคัญกว่านั้น ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาพยายามขัดขวางการปฏิบัติการกวาดล้างทุ่นระเบิดของไทยตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาซ้ำแล้วซ้ำเล่า แม้จะมีการเรียกร้องให้ปฏิบัติตามและร่วมมืออย่างต่อเนื่อง แต่ก็เป็นที่น่าเสียดายที่กัมพูชาไม่ได้ตอบสนอง” นายมาริษ กล่าว
นายมาริษ กล่าวต่อว่า ข้อกังวลเหล่านี้ไม่เพียงแต่มีความสำคัญโดยตรงต่อประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังมีความสำคัญต่อชุมชนนานาชาติ โดยเฉพาะผู้บริจาคที่ให้การสนับสนุนกัมพูชาด้วยความจริงใจอีกด้วย ดังนั้น ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประชาคมระหว่างประเทศดำเนินการทุกวิถีทางเพื่อให้แน่ใจว่ากัมพูชาจะหยุดการใช้ทุ่นระเบิดอย่างไร้มนุษยธรรม และปฏิบัติตามพันธกรณีทางกฎหมายภายใต้อนุสัญญาออตตาวาและกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศอย่างเคร่งครัด
ดังที่ท่านทราบ ประเทศไทยได้แจ้งเรื่องนี้ต่อเลขาธิการสหประชาชาติ และผ่านทางเลขาธิการฯ เพื่อขอคำชี้แจงจากกัมพูชาตามมาตรา 8 วรรค 2 ของอนุสัญญาออตตาวา เราจะดำเนินการเรื่องนี้ต่อไป เราขอเรียกร้องประเทศสมาชิกอาเซียน – ในฐานะคณะสังเกตการณ์ชั่วคราว (Interim Observer Team) ให้พิจารณาประเด็นนี้อย่างถี่ถ้วนในการไปสำรวจพื้นที่ในอนาคต เพื่อที่บริเวณชายแดนจะปลอดภัยเพื่อประโยชน์ของพลเรือนของทั้งสองประเทศ ผมยังอยากขอเชิญท่านร่วมการลงพื้นที่บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ในวันพรุ่งนี้ (16 ส.ค. 68) เพื่อสังเกตการณ์สถานการณ์ทุ่นระเบิดด้วยตัวท่านเอง สุดท้ายนี้ ผมขอยืนยันความมุ่งมั่นของประเทศไทยต่อพันธกรณีตามอนุสัญญาออตตาวา และการหยุดยิง
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในการบรรยายสรุปครั้งนี้ กัมพูชาได้ส่งเจ้าหน้าที่ประจำสถานเอกอัครราชทูตกัมพูชา ประจำประเทศไทย เข้าร่วมรับฟังด้วย












