POLITICS

‘วัน อยู่บำรุง‘ น้ำตาคลอยื่นลาออกพรรคเพื่อไทย ยันไม่คิดทรยศแต่อยู่ไปก็ไม่เข้าตา

‘วัน อยู่บำรุง‘ น้ำตาคลอยื่นลาออกพรรคเพื่อไทย บทสนทนาเป็นเหตุ ยันไม่คิดทรยศแต่อยู่ไปก็ไม่เข้าตา จึงไม่หน้าด้านเกะกะผู้ใหญ่ เดินหน้าทำการเมืองต่อ เผย สัมพันธ์ อยู่บำรุง-ชินวัตร เริ่มห่าง

จากกรณีที่ปรากฏภาพนายวัน อยู่บำรุง ร่วมลุ้นผลคะแนนเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ปทุมธานีกับ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้สมัครนายก อบจ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นคู่แข่งกับนายชาญ พวงเพ็ชร์ ว่าที่นายก อบจ.ปทุมธานี ที่พรรคเพื่อไทยให้การสนับสนุนอยู่ จากนั้นนางสาวแพรทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้เรียกนายวันเข้าไปตักเตือน ซึ่งนายวันได้ขอโทษ และขอยื่นใบลาออกจากตำแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข

ล่าสุดวันนี้ (15 ก.ค. 67) นายวัน เดินทางมายื่นหนังสือลาออกจากสมาชิกพรรคเพื่อไทยที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และเปิดเผยว่าเมื่อวันที่ 9 ก.ค. 67 เป็นวันประชุมพรรคเพื่อไทย หลังประชุมเสร็จ ตนเองได้พบกับนางสาวแพรทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ประโยคแรกที่พูดคือ วันนี้พี่มามอบตัว ทราบข่าวมาว่าหัวหน้าพรรค และผู้บริหารไม่สบายใจที่มีภาพของตนเองอยู่ในวันนับคะแนนที่บ้านอาแจ๊ส (พล.ต.ท.คำรณวิทย์)

ขอเรียนกับหัวหน้าพรรคว่าครอบครัวอยู่บำรุงจงรักภักดีต่อพรรคเพื่อไทยมาโดยตลอด ไม่เคยคิดคดทรยศ ตนเองอาจจะคิดไม่รอบคอบ คิดไม่ถึงว่ามีภาพตนเองออกไปในวันนับคะแนน จะทำให้พรรคและผู้บริหารไม่สบายใจ ครอบครัวอยู่บำรุงกับครอบครัวธูปกระจ่างรู้จักมักคุ้นชอบพอกันมาหลายสิบปี ที่ตนเองไปก็เป็นเวลาปิดหีบแล้ว ประมาณ 20.00 น. ไม่มีผลต่อคะแนน เป็นการให้กำลังใจระหว่างอา-หลาน

แต่เมื่ออธิบายก็ไม่มีท่าทีว่าอะไรจะดีขึ้นมา บทสนทนายังมีอีกหลายประโยคที่สื่อมวลชนยังไม่ทราบ เป็นเหตุให้ตนเองต้องขอลาออก เพราะไม่อยากพูดอะไรแล้ว อยู่ตรงนี้ก็ไม่มีประโยชน์

“วันนี้ที่ลาออกจากสมาชิกพรรคเพื่อไทยเพราะเมื่อไม่เข้าตาผู้ใหญ่ ท่านไม่แฮปปี้ ผมก็ไม่สบายใจ ถ้าไม่ลาออกจากสมาชิกพรรค เวลาพรรคมีกิจกรรม ผมก็ต้องไปร่วมงาน ผมคงไม่หน้าด้านพอที่จะไปเกะกะ รกหูรกตาผู้ใหญ่ ผมก็แค่ สส.กทม.สอบตก แต่ที่สอบตก ต้องอย่าลืมว่าพรรคเพื่อไทยได้ สส.กทม.คนเดียว พรรคเพื่อไทยต้องกลับไปพิจารณาว่านโยบายหาเสียงของพรรคเป็นอย่างไร ทำไมถึงได้ สส.กทม. คนเดียว ไม่ใช่ความผิดของผู้สมัคร”

คนเราอย่าเกรงกลัวความเปลี่ยนแปลง แต่จงหาทางรอดกับการเปลี่ยนแปลงให้ได้ เพราะชีวิตต้องเดินต่อไป ไม่ทราบว่ากรณีของตนเองเป็นการเชือดไก่ให้ลิงดูหรือตีวัวกระทบคราด ตนเองรู้ว่าผิดก็ไปมอบตัว อธิบายความแต่ไม่คิดว่าความผิดจะสาหัสสากรรจ์เพียงนี้ มากสุดคงโดนตำหนิติเตือน และคาดโทษ ไม่คิดเลยว่าจะบานปลาย

นายวัน ยังเปรียบเทียบกรณีของตนเองกับนายวรชัย เหมะ ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี ที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของนายกฯ กับกรณีของตนเองใครผิดมารยาท หรือมีคนอยู่เบื้องหลังนายวรชัย ที่มีบารมีมากกว่านายกฯ จึงออกมาพูดได้ แต่หากย้อนเวลากลับไปในวันนับคะแนนก็ยังคงตัดสินใจที่จะไปให้กำลังใจ พล.ต.ท.คำรณวิทย์

คนที่ไม่เข้าตาอยู่ไปก็ไม่มีประโยชน์ ที่สำคัญตระกูลอยู่บำรุงประจบสอพลอใครไม่เป็น และไม่ขอเปิดเผยว่าคำพูดของนางสาวแพทองธาร กระทบไปถึง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทยหรือไม่ โดยยืนยันว่าวันที่บอกว่าจะลาออก หัวหน้าพรรคไม่ได้รั้ง และไม่ได้พูดอะไรเลย วันที่ไปพูดคุยด้วยกันไม่ได้คิดจะออก คนเราอยากมีตำแหน่งตนเองก็อยากมีตำแหน่ง ไม่ยึดติดแต่เมื่ออยู่ไปแล้วไม่มีความสุข จะไปเสนอหน้าอย่างไร

นายวัน เปิดเผยอีกว่าวันที่ไปพูดคุยกับนางสาวแพทองธาร มีตนเอง หัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค และผอ.พรรค ร่วมพูดคุย ตนเองเป็น สส.สอบตกคงไม่มีภาษีราคาค่างวดอะไร ตนเองยังทำงานการเมืองต่อไป พรรคใดที่เห็นว่าตนเองมีประโยชน์ก็ลองติดต่อมาเพราะว่าตอนนี้เป็นนักการเมืองฟรีเอเจนท์ ตอนนี้ยังไม่ได้เล็งพรรคใด ยืนยันว่าครอบครัวอยู่บำรุง รักชาติ ศาสนา เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ยังไม่ปิดตำนานใจถึงพึ่งได้ ยังช่วยเหลือสังคมต่อไป ส่วนพรรคก้าวไกลยังไม่มีใครติดต่อมา ไม่รู้ว่ามีประโยชน์กับใครบ้าง แต่ยืนยันว่าไม่ทิ้งการเมืองแน่นอน

เมื่อถามถึงนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย นายวัน ระบุว่าเป็นพี่ที่รักเคารพ เพราะตนเองมีตำแหน่งการเมืองครั้งแรกปี 2551 เป็นผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขปฏิบัติงานกับนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล มีความผูกพัน เมื่อ 2 เดือนก่อนก็ไปเยี่ยมท่าน เคารพกันรู้จักนายอนุทินมาตั้งแต่ปี 2538-2539

ส่วนกรณี ร.ต.อ.เฉลิม ที่อยากให้พรรคเพื่อไทยขับออกนั้น พ่อยังอยู่พรรคเพื่อไทย แต่ท่านอยากให้ขับออก เพราะความรู้เยอะ ความรู้ความสามารถไม่ได้ลดน้อยถอยลง ยังอยากมีบทบาททางการเมือง แต่ยังไม่อยากได้รับโอกาส ทั้งนี้ไม่เห็นคุณพ่อติดต่อกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีมาตั้งแต่หลังการเลือกตั้งปีที่ผ่านมา ทั้งที่ก่อนหน้านี้คุยโทรศัพท์กันบ่อยมากสัปดาห์ละ 2-3 วัน

ส่วนจะกลับไปร่วมงานกับพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายวันระบุว่า เลยไปไกลแล้ว ชีวิตต้องดำเนินต่อไป ต้องมาทบทวนตนเอง ยืนยันว่ายังทำงานการเมืองต่อไป พร้อมกับขอบคุณทุกสิ่งทุกอย่างที่พรรคเพื่อไทยเคยให้โอกาสตนเองตั้งแต่พรรคพลังประชาชนจนถึงพรรคเพื่อไทย ทุกวันนี้ตนเองก็ยังรักพรรคเพื่อไทย รักผู้บริหารพรรคทุกท่านอยู่เสมอ เหมือนเดิมแต่ไม่รู้ว่าผู้ใหญ่ยังรักเอ็นดูตนเองหรือไม่ ตนเองก็ต้องมีทางเดินของตนเอง เมื่ออยู่แล้ว เขาไม่แฮปปี้ ตนเองไม่สบายใจก็ต้องถอยดีกว่า

Related Posts

Send this to a friend