POLITICS

ฝ่ายค้าน เปิดยุทธการ เด็ดหัวสอยนั่งร้าน ยื่นซักฟอกนายกฯ กับ 10 รมต.

ฝ่ายค้าน เปิดยุทธการ เด็ดหัวสอยนั่งร้าน ยื่นซักฟอกนายกฯ กับ 10 รัฐมนตรี ซัดแรง นายกฯ พิการทางสมอง คาด เปิดอภิปรายสัปดาห์ที่ 3 เดือนกรกฎาคม

วันนี้ (15 มิ.ย.65) พรรคร่วมฝ่ายค้าน นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ผู้นำฝ่ายค้าน ยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตามมาตรา 151 ต่อนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร

โดยนายชวน เปิดเผยว่า หลังจากนี้จะใช้เวลาพิจารณาญัตติภายใน 7 วัน ก่อนบรรจุในระเบียบวาระ โดยทั่วไปจะมีปัญหาเกี่ยวกับลายเซ็น ของผู้เข้าชื่อประมาณ 2-3 ท่าน สำหรับการอภิปรายไม่ไว้วางใจมีมาทุกปี วิปฝ่ายค้าน และวิปรัฐบาลจึงทราบดีว่า ต้องเตรียมตัวอย่างไร ทั้งนี้ในเวลา 14.00 น. จะมีการหารือกรอบเวลาในการอภิปรายร่วมกับวิป 3 ฝ่ายด้วย

นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ผู้นำฝ่ายค้าน กล่าวว่า วันนี้มาพร้อมกับ 7 พรรคฝ่ายค้าน ประกอบด้วย เพื่อไทย ก้าวไกล เสรีรวมไทย ไทยศรีวิไลย์ เพื่อชาติ ประชาชาติ และพลังปวงชนไทย ซึ่งได้ร่วมกันเข้าชื่อ 182 รายชื่อ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151 ขอเปิดอภิปรายทั่วไปแบบลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ประกอบด้วย นายกรัฐมนตรี 1 ท่าน และ รัฐมนตรี 10 ท่าน

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในข้อกล่าวหาผิดพลาดบกพร่องล้มเหลวในการบริหารราชการแผ่นดิน, จงใจฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ และมาตรฐานจริยธรรม, ปล่อยปละละเลย และละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ, ไม่ปฏิบัติตามคำแถลงนโยบายต่อรัฐบาล, บริหารราชการแผ่นดินโดยละเลยสิทธิมนุษยชน และทำลายผู้เห็นต่าง, ปล่อยปะละเลยทำลายระบอบประชาธิปไตย และรัฐสภา อีกทั้งยังมีภาวะความเป็นผู้นำที่ฝ่ายค้านใช้ในญัตติว่า “พิการทางสมอง”

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ มุ่งเน้นที่ความไม่ซื่อสัตย์สุจริต เอื้อพวกพ้อง เห็นแก่ประโยชน์ ปล่อยปละละเลยให้มีการคอรัปชั่น

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ข้อหาสำคัญคือ บริหารราชการแผ่นดินล้มเหลวผิดพลาดบกพร่อง สนับสนุนหรือทำให้เกิดขบวนการทำลายการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และระบบรัฐสภา ใช้เงินทองจัดการให้ได้มาซึ่งอำนาจ และผู้สนับสนุนพรรค

พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี จงใจไม่ปฏิบัติตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญและกฎหมาย ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ เอื้อประโยชน์ สนับสนุนการแสวงหาผลประโยชน์

พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ข้อกล่าวหา ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ขาดซึ่งธรรมาภิบาล บริหารราชการแผ่นดืนผิดพลาดบกพร่องล้มเหลว เอื้อประโยชน์ สนับสนุนให้มีการทุจริต ประพฤติมิชอบ

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการคมนาคม ข้อกล่าวหา ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ใช้ตำแหน่งในการแสวงหาผลประโยชน์เพื่อตนเองและพวกพ้อง

นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ข้อกล่าวหา การบริหารราชการแผ่นดินล้มเหลวอย่างร้ายแรง ปล่อยปละละเลยให้เกิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ทำให้ประเทศชาติได้รับความเสียหาย เป็นผู้ที่มีพฤติกรรมสุ่มเสี่ยงขาดมาตราฐานทางจริยธรรม เสื่อมเสียศีลธรรมอันดี

นายจุติ ไกรฤกษ์ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ข้อกล่าวหา ไม่มีความซื่อสัตย์เป็นที่ประจักษ์ ล้มเหลว ไร้ความรู้ความสามารถด้านการพัฒนาสังคม ปล่อยให้พี่น้องประชาชนไร้ซึ่งที่อยู่อาศัย และใช้งบมุ่งหาผลประโยชน์เพื่อพวกพ้อง

นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ข้อกล่าวหาไม่มีความซื่อสัตย์เป็นที่ประจักษ์ ทุจริตต่อหน้าที่ ปล่อยปละละเลยให้มีการทุจริต และแสวงหาผลประโยชน์ให้ตนเอง พสกพ้อง และภาคเอกชน ไม่ดูแลรักษาผลประโยชน์ต่อประเทศชาติ

นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ข้อกล่าวหา ไร้ความรู้ความสามารถในการบริหารราชการแผ่นดิน พฤติกรรมส่อไปทางทุจริตต่อหน้าที่ ไม่ซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ จงใจปฏิบัติหน้าที่ขัดต่อบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ ฝ่าฝืนจริยธรรมอย่างร้ายแรง สนับสนุนให้มีการทุจริตในทางมิชอบ

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นผู้ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ เอื้อประโยชน์ และแสวงหาผลประโยชน์เรื่องแรงงาน

นายแพทย์ชลน่าน กล่าวต่อว่า ทั้งหมดเป็นไปเพื่อเด็ดหัวนายกรัฐมนตรี และสอยนั่งร้านรัฐมนตรีทั้ง 10 คน ผ่านกลไกสภาผู้แทนราษฎร คาดว่าจะมีเสียงพอที่จะโหวตไม่ไว้วางใจ และจะใช้สภาประชาชนเป็นผู้พิจารณาตัดสินในสนามเลือกตั้งครั้งหน้า

ส่วนช่วงเวลาอภิปรายคงต้องหลังการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ตำรวจ และกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้ง วันที่ 24 มิ.ย.65 หรือ 1 ก.ค.65 ช่วงเวลาที่เหมาะสมจะเป็นสัปดาห์ที่ 3 ของเดือน ก.ค. คาดว่าจะใช้เวลาอภิปราย 5 วัน

Related Posts

Send this to a friend