POLITICS

‘โรม’ หวังคดีฮั้ว สว.ไม่ใช่เกมต่อรองทางการเมือง

‘โรม’ หวังคดีฮั้ว สว.ไม่ใช่เกมต่อรองทางการเมือง ขอทุกฝ่ายช่วยกันทำเรื่องให้กระจ่าง บอกทุกอย่างต้องเป็นไปตามหลักฐาน หากกลั่นแกล้งทุกคนมีสิทธิ์ต่อสู้

วันนี้ (15 พ.ค. 68) นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีศาลรัฐธรรมสั่ง พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ยุติการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะกำกับดูแลกรมควบคุมคดีพิเศษ (DSI) กรณีการฮั้ว สว.ทำให้มีการมองว่าเป็นประเด็นการเมืองระหว่างพรรคแดงกับพรรคน้ำเงิน

นายรังสันต์ มองว่าต้องเอาข้อเท็จจริง ประเด็นอยู่ที่ว่าหากมีการฮั้ว สว.จริง หน่วยงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบแน่นอนว่าคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เกี่ยวข้อง ถามว่า DSI เข้ามาได้หรือไม่ เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ เป็นเรื่องสำคัญ และการตั้งข้อกล่าวหาของ DSI ไม่ว่าจะเป็นเรื่องฟอกเงินหรือเรื่องอะไรก็ตาม ก็เป็นการตั้งข้อกล่าวหาที่ต้องมีการพิสูจน์ว่าตกลงแล้วเป็นไปตามที่มีการแจ้งข้อกล่าวหาหรือไม่ ไม่ได้หมายความว่าการที่ DSI เข้ามา แล้วจะเท่ากับว่าผู้ที่ถูกกล่าวหาจะกลายเป็นคนผิดร้อยเปอร์เซ็นต์ ต้องมีกระบวนการพิสูจน์ความผิดต่อไป

หากตั้งฐานความผิดถามว่าการพิจารณาคดีหรือการทำหน้าที่ของ DSI หรือของ กกต.สามารถทำได้หรือไม่ก็สามารถทำได้ เพราะต้องอย่าลืมว่าหาก สว.มีการฮั้วจริง ๆ จะส่งผลกระทบอย่างกว้างขวางแน่นอน เพราะเท่ากับว่าคนที่มาเป็น สว.ไม่มีคุณสมบัติ และต้องมีการรับผิดในทางกฎหมายต่อด้วย ดังนั้นตนเองคิดว่าองค์กรที่มีอำนาจหน้าที่นั้นเขาสามารถทำได้ การที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งออกมาเช่นนี้ แน่นอนว่าต้องทำให้เกิดความกังวลว่าสุดท้ายแล้วจะเป็นวาระทางการเมืองอย่างเดียว ๆ หรือไม่ หรือเป็นการกลั่นแกล้งในการต่อสู้กัน ซึ่งตนเองคิดว่าไม่อยากให้เป็นเช่นนั้น แม้ว่าตนเองจะไม่เคยเห็นว่ามีการสั่งให้หยุดปฎิบัติหน้าที่เป็นรายกรมนั้น แต่ตนเองคาดหวังว่าเรื่องการฮั้ว สว.จะมีการสร้างความกระจ่างเกิดขึ้น เพราะเป็นเรื่องที่สังคมจับตามอง หากสุดท้ายจบลงที่เป็นการฮั้วของฮั้ว สว.อีกครั้ง สังคมจะไม่เชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม มาถึงขนาดนี้แล้วเรื่องการฮั้วสว.ต้องมีความชัดเจนให้สังคม

“หวังว่าสุดท้ายแล้วทุกฝ่ายจะพยายามช่วยกันทำให้เรื่องนี้เกิดความกระจ่าง ส่วนประเด็นการเมืองใครจะได้ประโยชน์ต้องเข้าใจว่าในการตัดสินคดีหรือดำเนินคดีอะไรก็ตาม ต้องมีคนได้และเสียเสมอ ซึ่งนั่นไม่ใช่สาระสำคัญ แต่สาระสำคัญอยู่ที่ว่าข้อเท็จจริงพยานหลักฐานเป็นไปตามนั้นหรือไม่” นายรังสิมันต์ กล่าว

เมื่อถามว่า การที่หลายฝ่ายมองว่าเป็นกีฬาสีไปแล้ว ส่วนตัวมองว่าจะได้ข้อเท็จจริงอะไรหรือไม่ หรือสุดท้ายจะเป็นเพียงแค่เกมการต่อรองกับผู้มีอำนาจอย่างเดียว นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ตนเองหวังว่าจะเป็นเกมต่อรองของผู้มีอำนาจ เพราะเราไม่ควรเอาเรื่องกระบวนการยุติธรรมมาใช้ต่อรองเช่นนี้ กระบวนการยุติธรรมมีหน้าที่สร้างความชัดเจน และมีหน้าที่ในการดำเนินการเอาคนผิดมาลงโทษ นี่คือสิ่งที่สังคมคาดหวัง ตนเองลงพื้นที่ประชาชนก็พูดถึงและมีความเป็นห่วงเรื่องนี้ว่าจะมีมวยล้มต้มคนดู

ดังนั้นทุกฝ่ายที่อยู่ในอำนาจหน้าที่ ตนเองรู้ว่าพวกท่านอาจจะมีความคิดบางอย่างในเรื่องทางการเมือง ผลลัพธ์ทางการเมือง แต่ไม่สำคัญเท่าพยานหลักฐานกับข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ฉะนั้นจึงหวังว่าจะไม่เกิดเป็นการฮั้วกันในเรื่องนี้ แต่จะเกิดเป็นความกระจ่างเพื่อให้สังคมเชื่อว่าความยุติธรรมมีอยู่จริง และเชื่อว่าไม่ว่าจะเป็น สส.หรือสว.ก็สามารถที่จะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมได้ หรือหากเป็นการกลั่นแกล้งกันแต่ละคนก็มีสิทธิ์ที่จะต่อสู้คดี แต่ขณะเดียวกันหน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ไม่ว่าจะเป็น กกต.หรือ DSI เขาก็สามารถทำหน้าที่ของเขาได้เช่นเดียวกัน

Related Posts

Send this to a friend