POLITICS

ศ.ปิ่นแก้ว ระบุมาเฟียจีนระดับบอสหนีไปอยู่เมืองพะอันหมดแล้ว

ศ.ปิ่นแก้ว ระบุมาเฟียจีนระดับบอสหนีไปอยู่เมืองพะอันหมดแล้ว จี้รัฐตรวจสอบเส้นทางการเงิน ออกมาตรการ Sanction

วันนี้ (14 ก.พ. 68) ศ.ปิ่นแก้ว เหลืองอร่ามศรี อาจารย์ประจำภาควิชาสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เขียนข้อความลงเฟซบุ๊กถึงกรณีที่กองกำลังกะเหรี่ยง BGF สำรวจคัดแยกชาวต่างชาติที่ทำงานในชเวโก๊กโก่ ว่าบิ๊กบอสจีนระดับนำหลบไปอยู่ที่เมืองพะอันกันหมดแล้ว ที่กวาดต้อนกันมามีแต่ระดับพนักงานระดับล่าง ที่น่าสังเกตคือในขณะที่ชเวโก๊กโก่ ระส่ำระสาย เพราะไม่ใช่แค่ไม่มีไฟฟ้าใช้ แต่น้ำก็เริ่มขาดแคลน เพราะไม่มีไฟฟ้าที่จะเดินเครื่องสูบน้ำ แต่ KK Park กลับเงียบสนิท และที่สำคัญ KNU วางตัวเฉย ลอยตัวเหนือสถานการณ์อยู่ตอนนี้

ศ.ปิ่นแก้วกล่าวว่า ประเทศไทยมี พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ มี พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน แต่เราไม่เคยนำมาใช้กับองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติไซเบอร์ ไม่ว่าจะกลุ่มย่าไถ้ที่ดำเนินการค้ามนุษย์อยู่ในชเวโก๊กโก่ กลุ่มตงเหม่ยใน KK Park รวมไปถึงองค์กรคอลเซ็นเตอร์ต่าง ๆ นับพันแห่งที่เช่าที่ทำธุรกิจผิดกฎหมายในชายแดนไทย พม่า ตลอดจนผู้นำของกองกำลังชนกลุ่มน้อยกะเหรี่ยง ไม่ว่าจะเป็น BGF หรือ DKBA (Democratic Karen Buddhist Army) ก็ตาม ทั้งที่อังกฤษ สหรัฐฯ และแคนาดา ได้ประกาศให้ทั้งบุคคลและองค์กรต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมไซเบอร์ และการค้ามนุษย์ ที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนและฉ้อโกงเงินจำนวนมหาศาลของประชาชนในโลก เป็นอาชญากรไปตั้งนานแล้ว

ศ.ปิ่นแก้วกล่าวว่า การประกาศดังกล่าว มีผลตามมาด้วยมาตรการ sanction บุคคล และกลุ่มองค์กรเหล่านั้น ไม่ว่าจะเป็นการยึดทรัพย์สิน บัญชีธนาคารที่อาชญากรเหล่านี้มีในประเทศที่ทำการ sanction ห้ามอาชญากรเหล่านี้เดินทางเข้าประเทศที่ทำการ sanction และห้ามคนในประเทศ ประกอบธุรกรรมใด ๆ กับอาชญากรเหล่านี้

“ในบรรดาอาชญากรที่ถูก sanction มีเสอ จื้อเจียง ประธานบริษัทย่าไถ้ที่ติดคุกอยู่ในไทยตอนนี้ และหม่อง ชิดตู่ ผู้นำกองกำลังกะเหรี่ยง BGF ที่ไม่เพียงมีหุ้นส่วนอยู่ในกิจการชเวโก๊กโก่ แต่ยังเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ามนุษย์ขนาดใหญ่ในพื้นที่เมียวดีซึ่งอยู่ภายใต้การปกครองของตนเองอีกด้วย การที่ไทยไม่ยอมประกาศรายชื่ออาชญากรเหล่านี้ ไม่ยอมแม้แต่จะออกหมายจับ ทำให้อาชญากรเหล่านี้ ไม่เพียงแต่ลอยนวล แต่ยังคงสามารถใช้ทรัพย์สินที่มีอยู่ในไทยได้อย่างสบายใจเฉิบ เสอ จื้อเจียง ที่แม้จะอยู่ในคุก แต่ยังสามารถใช้บัญชีและเงินของเขา ซื้อความสะดวกสบายในคุกได้อย่างสุขสำราญ หม่องชิตตู่ที่มีบัญชีและทรัพย์สินมหาศาลในธนาคารไทย ก็ไม่ได้เดือดร้อนอย่างใด จากมาตรการกดดันที่เกิดขึ้นอยู่ในตอนนี้ แถมยังพยายามฟอกขาวตัวเอง เล่นละครเป็นผู้นำการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในชเวโก๊กโก่เสียอีก เช่นเดียวกับผู้นำ DKBA และกลุ่มจีนเทาต่าง ๆ ต่างรีบกระโจนเข้าวงการฟอกขาว ปล่อยตัวเหยื่อมาเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อลดแรงกดดันกันพอเป็นพิธีออกสื่อกันเป็นแถว” ศ.ปิ่นแก้ว ระบุ

ศ.ปิ่นแก้วระบุด้วยว่า การตัดไฟ ตัดเน็ต เป็นมาตรการที่ดีที่รัฐไทยเริ่มมาถูกทาง แต่ไม่พอ และยังไม่ได้เป็นการจัดการกับปัญหาที่ต้นตอ เพราะอาชญากรตัวเอ้ยังคงลอยนวล แถมฟอกขาวตัวเอง เล่นปาหี่สวมบทปราบปรามอาชญากรรมทั้งที่ตัวเองเป็นอาชญากรไปได้เรื่อย ๆ

“ดิฉันหวังว่า รัฐไทยจะจริงจังกับการปราบปรามอาชญากรรมนี้ ใช้กฎหมายที่เรามีให้เต็มที่กว่าที่เป็น ทั้งกฎหมายป้องกันและปราบปรามการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ และกฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ประกาศให้บุคคลเหล่านี้เป็นอาชญากรและออกมาตรการ sanction ทางการเงิน อย่างเป็นระบบเสียที มาตรการตัดเส้นทางการเงินและยึดทรัพย์สินอาชญากรเหล่านี้ สามารถทำได้ทันที”
ศ.ปิ่นแก้ว กล่าว

Related Posts

Send this to a friend

Thailand Web Stat