POLITICS

‘โรม’ ขออย่าปิดปากฝ่ายค้าน รอเปิดแผลเหวอะ ครม.

‘ก้าวไกล’ ลับมีดซักฟอกเท่าอภิปรายไม่ไว้วางใจ ‘โรม’ ขออย่าปิดปากฝ่ายค้าน รอเปิดแผลเหวอะ ครม.

วันนี้ (15 ก.พ. 66) นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) แบบบัญชีรายชื่อ โฆษกพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนที่อาคารรัฐสภา ก่อนเข้าร่วมการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 28 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) เป็นพิเศษ เพื่อพิจารณาญัตติการอภิปรายทั่วไปเพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 วันแรก

นายรังสิมันต์ เปิดเผยว่า พรรคก้าวไกล เตรียมขุนพลอภิปรายไว้ ประมาณ 5 คน โดยเริ่มจาก นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ตามด้วย นายวรภพ วิริยะโรจน์ ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ ในประเด็นเศรษฐกิจ นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล ในประเด็นสังคม และนายรังสิมันต์ จะอภิปรายในหัวข้อการเมือง

สำหรับหมัดเด็ดในการอภิปรายหนนี้ แม้ตามกฎหมายจะเป็นการซักถามทั่วไป แต่เนื่องจากเป็นครั้งสุดท้ายแล้ว พรรคก้าวไกลจึงยกระดับให้เทียบเท่ากับการอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยเฉพาะเนื้อหาของนายรังสิมันต์ที่เตรียมมาเป็นจำนวนมาก เกี่ยวพันกับการทุจริตคอรัปชัน โดยใช้เวลาเตรียมข้อมูลถึง 3-4 เดือน และมีเวลาอภิปรายถึง 1 ชั่วโมงกว่า ๆ มั่นใจว่ามีหลักฐานชัดเจนในการเอาผิดรัฐบาล จะไม่ได้จบแค่การซักฟอกครั้งนี้ แต่จะต้องมีการเตรียมดำเนินคดีเอาผิดอีกเยอะ

และหากมีการประท้วงหรือเสนอนับองค์ประชุมจากฝั่งรัฐบาล นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ไม่เข้าใจจะทำไปเพื่ออะไร เพราะที่ผ่านมาในการอภิปรายหลายๆ ครั้ง ก็ดำเนินการได้อย่างปกติ แล้วการพยายามปิดกั้นไม่ให้ฝ่ายค้านตรวจสอบรัฐบาล ทำไปด้วยวัตถุประสงค์ใด หรือรัฐบาลกำลังจะยอมรับว่า ตัวเองมีแผลเหวอะหวะเต็มตัว และกลัวว่าประชาชนจะรู้

“ผมอยากให้สภาฯ เป็นเวทีที่ทุกฝ่ายมีโอกาสได้พูด อย่าใช้เวทีนี้ในการปิดปากใคร แต่ควรเป็นโอกาสให้ประชาชนรับรู้ข้อมูล หากรัฐบาลชี้แจงไม่ดีประชาชนก็ไม่เลือกคุณ หากฝ่ายค้านตรวจสอบไม่ดีประชาชนก็ไม่เลือก”

นายรังสิมันต์ ย้ำว่า คณะรัฐมนตรีที่เป็นเป้าหมายในครั้งนี้ มั่นใจแล้วว่า เป็นคนที่มีบาดแผลเยอะมากจริง ๆ และไม่สมควรที่จะบริหารประเทศต่อไป ขอให้รอฟัง ส่วนตัวเห็นว่ารัฐบาลก็ปรามาสฝ่ายค้านมาทุกครั้ง แต่ก็ไม่เคยเห็นรัฐบาลชี้แจงอะไรได้ เข่น เรื่องตั๋วช้าง เป็นต้น ทั้งนี้ ไม่ขอห้ามการปรามาส แต่อย่ามาปิดปากเรา

นายรังสิมันต์ กล่าวทิ้งท้ายว่า หากวันนี้สภาฯ ล่มจริง ก็ขอให้สื่อมวลชนอย่าเพิ่งรีบกลับ ขอให้อยู่ติดตามการนำเสนอต่อไป ถึงแม้อภิปรายจะไม่มีเอกสิทธิ์คุ้มครอง ส.ส. แต่ก็ถือว่าเป็นการทำหน้าที่อย่างเต็มที่ ส่วนใครอยากจะฟ้องร้องก็ห้ามไม่ได้ อยากให้สังคมเข้าใจว่า ไม่มีใครอยากอภิปรายนอกสภาฯ แต่ในเมื่อสภาฯ ล่มจนต้องทำอย่างนั้น ก็สะท้อนว่านี่คือส่วนหนึ่งของปัญหา

Related Posts

Send this to a friend