POLITICS

อเมริกา ป่วยโควิด-19 ทะลุ 50 ล้านราย บางรัฐเริ่มกลับมาบังคับสวมหน้ากากอนามัยในที่ร่ม

มหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ของสหรัฐฯ เปิดเผยยอดผู้ป่วยโรคติดเชื้อโควิด-19 ในสหรัฐฯ รวมอยู่ที่เกิน 50 ล้านรายแล้ว และยอดผู้เสียชีวิตรวมอยู่กว่า 7 แสน 9 หมื่น ราย

ทั้งนี้ ในรายงานระบุว่าแคลิฟอร์เนียเป็นรัฐที่มีผู้ป่วยโรคโควิด-19 สะสมสูงสุดที่ 5,169,348 ราย ตามด้วยเท็กซัส 4,394,772 ราย ฟลอริดา 3,754,042 ราย นิวยอร์ก 2,854,057 ราย และอิลลินอยส์ที่มีผู้ป่วยสะสมมากกว่า 1.9 ล้านราย

รัฐอื่นๆ ที่มีผู้ป่วยโรคโควิด-19 สะสมเกิน 1.2 ล้านราย ได้แก่ เพนซิลเวเนีย โอไฮโอ จอร์เจีย มิชิแกน นอร์ธแคโรไลนา เทนเนสซี แอริโซนา และนิวเจอร์ซีย์

สหรัฐฯ เป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบจากโรคระบาดใหญ่หนักที่สุดในโลก โดยมีผู้ป่วยสะสมครองสัดส่วนมากกว่าร้อยละ 18 ของผู้ป่วยสะสมทั่วโลก และผู้ป่วยเสียชีวิตครองสัดส่วนมากกว่าร้อยละ 15 ของผู้ป่วยเสียชีวิตทั่วโลก

ทั้งนี้ สหรัฐฯ มีผู้ป่วยโรคโควิด-19 สะสมแตะ 10 ล้านราย เมื่อวันที่ 9 พ.ย. 2020 แตะ 20 ล้านราย เมื่อวันที่ 1 ม.ค. 2021 เกิน 30 ล้านราย เมื่อวันที่ 24 มี.ค. และเกิน 40 ล้านรายเมื่อวันที่ 6 ก.ย.

ในช่วงวันหยุดยาว และการแพร่ระบาดของโอมิครอน สำนักสาธารณสุขรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐฯ ประกาศการกลับมาใช้ข้อบังคับสวมหน้ากากอนามัยในที่ร่มตั้งแต่วันพุธ (15 ธ.ค.) โดยจะใช้เป็นระยะเวลาอย่างน้อยหนึ่งเดือน และอาจมีการออกคำแนะนำเพิ่มเติมตามความจำเป็น หลังจากอัตราการป่วยโรคโควิด-19 เฉลี่ยเจ็ดวันทั่วรัฐแคลิฟอร์เนียเพิ่มขึ้นเกือบร้อยละ 50 และอัตราการรักษาตัวในโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นร้อยละ 14 นับตั้งแต่วันขอบคุณพระเจ้า (25 พ.ย.) ที่ผ่านมา

นอกจากนั้นสำนักฯ ยังปรับปรุงข้อกำหนดการเข้าร่วมกิจกรรมขนาดใหญ่ เช่น คอนเสิร์ต และการแข่งขันกีฬา ซึ่งกำหนดให้มีการแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ผลตรวจโรคแบบแอนติเจนที่เป็นลบภายในหนึ่งวัน หรือผลตรวจโรคแบบพีซีอาร์ที่เป็นลบภายในสองวัน ก่อนเข้าร่วมกิจกรรมเหล่านั้น

ที่มา: สำนักข่าวซินหัว

Related Posts

Send this to a friend