’จุรินทร์‘ ประกาศลาออกจากรักษาการหัวหน้าพรรค ปชป.

’จุรินทร์‘ ประกาศลาออกจากรักษาการหัวหน้าพรรค ปชป. หลังกองทุนพัฒนาการเมืองฯ ผุดชื่อ ‘นราพัฒน์’ นั่งรักษาการแทน ‘ราเมศ’ ชี้ เป็นเอกสารคาดเคลื่อน ไม่ได้มีเจตนาร้าย ด้าน ’นราพัฒน์‘ พร้อมลงชิงแคนดิเดตหัวหน้าพรรคตามเดิม

วันนี้ (14 พ.ย. 66) นายนราพัฒน์ แก้วทอง รักษาการองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ก่อนประชุมกรรมการบริหารพรรคถึงกรณีจะลงชิงแคนดิเดตหัวหน้าพรรคคนใหม่ว่ายังมีความตั้งใจเดิมหรือไม่ นายนราพัฒน์ ระบุว่า ก็ยังมีความตั้งใจเหมือนเดิมที่จะเข้ามาช่วยปรับปรุงพรรคให้มากยิ่งขึ้น แต่ขอประชุมดูรายละเอียดก่อน

เมื่อถามว่า ได้มีการพูดคุยกับคนที่สนับสนุนตนเองหรือไม่ นายนราพัฒน์ กล่าวว่า ก็ยังคุยกันเหมือนเดิม ซึ่งเสียงส่วนใหญ่ก็สนับสนุนให้ลงชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคเหมือนเดิม

ขณะที่ นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า วันนี้เป็นการประชุมของกรรมการบริหารพรรคชุดรักษาการ พร้อมแจ้งว่านายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ ได้ลาออกจากตำแหน่งรักษาการหัวหน้าพรรค โดยแจ้งผ่านกลุ่มไลน์ของพรรค ซึ่งนายจุรินทร์ ยืนยันว่า ได้ดำรงตำแหน่งรักษาการหัวหน้าพรรค เป็นไปตามข้อบังคับพรรคประชาธิปัตย์ทุกประการ เหตุมาจากกองทุนเพื่อพัฒนาพรรคการเมือง ได้มีการระบุชื่อ นายนราพัฒน์ แก้วทอง เป็นรักษาการหัวหน้าพรรค

ต่อมา ได้มีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลดังกล่าว เพื่อไม่ให้มีข้อสงสัยของข้อกฎหมายในประเด็นให้การจัดประชุมใหญ่วิสามัญ เป็นไปอย่างราบรื่น ซึ่งนายจุรินทร์แสดงเจตจำนงว่าขอลาออกจากตำแหน่งรักษาการหัวหน้าพรรค เมื่อช่วงก่อนการประชุมจะเกิดขึ้นในเวลา 14:07 น.

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่านายนราพัฒน์เป็นรักษาการหัวหน้าพรรคแทนเลยหรือไม่ นายราเมศ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้ขึ้นเป็นรักษาการหัวหน้าพรรค อาจจะต้องมีการประชุมกับกรรมการบริหารพรรคเพื่อพูดคุยในเรื่องนี้ก่อน โดยกรรมการบริหารพรรคจะเป็นผู้เลือกรักษาการกรรมการบริหารพรรค เพื่อพิจารณาวันเวลา ในการประชุมใหญ่วิสามัญพรรค

นายราเมศ ยังชี้แจงเกี่ยวกับเอกสารของกองทุนเพื่อพัฒนาพรรคการเมือง ที่ประกาศเมื่อวันที่ 21 ก.ย. 66 ซึ่งเป็นเอกสารภายในที่แจ้งข้อมูลพรรคการเมืองที่ยังดำเนินการอยู่

สำหรับใครที่เป็นผู้ยื่นเอกสารกองทุนฯ เพื่อเปลี่ยนแปลงให้นายนราพัฒน์เป็นรักษาการหัวหน้าพรรค นายราเมศ กล่าวว่า เป็นการให้ข้อมูลของกองทุนฯ ส่วนจะเป็นเอกสารที่ผิดพลาดของกองทุนฯ หรือไม่ ตนไม่สามารถตอบแทน แต่ในวันที่ 12 ต.ค. 66 ได้มีการเปลี่ยนแปลงข้อมูล เว้นว่างตำแหน่งรักษาการหัวหน้าพรรคไว้ พร้อมกล่าวว่า ตำแหน่งรักษาการหัวหน้าพรรค เมื่อนายจุรินทร์ได้ลาออก ข้อบังคับได้ระบุไว้ชัดว่า ให้คณะกรรมการบริหารพรรคทั้งคณะ พ้นจากตำแหน่งไปด้วย แต่ข้อบังคับพรรคก็ได้ระบุไว้อีกว่า คณะกรรมการบริหารพรรคที่พ้นจากตำแหน่ง แต่ก็ยังคงรักษาการเพื่อที่จะส่งมอบ กรรมการบริหารชุดใหม่

นายราเมศ กล่าวอีกว่า ส่วนที่มีชื่อของนายนราพัฒน์ในเอกสารของกองทุน เชื่อว่าเป็นข้อมูลที่คาดเคลื่อนไม่ได้มีเจตนาร้าย เป็นหน้าที่ของพรรคที่เราต้องมาพูดคุยกันในส่วนของข้อบังคับพรรค และเป็นเรื่องที่ไม่ใช่พึ่งเกิดกรณีถกเถียงขึ้น แต่ เราได้มีการประชุมกรรมการบริหารพรรค เมื่อวันที่ 21 มิ.ย. 66 ก็ได้ยกประเด็นนี้มาเพื่อพูดคุยกัน โดยในที่ประชุมคะแนนเสียงมีมติว่านายจุรินทร์ ยังดำรงตำแหน่งรักษาการหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์

ซึ่งเมื่อนายจุรินทร์ลาออก พรรคได้แจ้งไปยัง กกต. ซึ่ง กกต.ได้แจ้งหนังสือกลับมาว่าคณะกรรมการบริหารพรรค 32 คนต้องพ้นจากตำแหน่งด้วย แต่ลำดับแรกชื่อที่เขียนไว้เป็นชื่อของนายนราพัฒน์ เพราะเวลาเลือกตั้งรองภาคเหนือจะขึ้นมาเป็นลำดับที่หนึ่ง

นายราเมศ กล่าวว่า เมื่อเห็นเอกสารของกองทุนฯ ที่มีชื่อของนายนราพัฒน์ ทางพรรคได้โต้แย้งกลับไป โดยทำหนังสือถึงนายทะเบียนพรรคการเมือง แต่กฎหมายได้ระบุไว้ว่าให้เป็นไปตามข้อบังคับพรรคการเมือง ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ ชัดเจนว่าหัวหน้าพรรคต้องทำหน้าที่รักษาการตามข้อบังคับพรรคทุกประการ

ส่วนตำแหน่งรักษาการที่เว้นว่างยังไม่ใช่นายนราพัฒน์ ซึ่งจะมีการพูดคุยกันในที่ประชุมกรรมการบริหารพรรค ก่อนที่จะเข้าสู่ระเบียบวาระกำหนดวันเวลาสถานที่ในการประชุมใหญ่วิสามัญพรรค