ผู้ว่าฯ กกท.ลั่นลิขสิทธิ์ 1,600 ล้านบาทแพงเกินไปหากฟีฟ่ายืนยันราคานี้ “คงไม่มีการถ่ายทอดสด”

กกท.ลงนาม MOU ร่วม กสทช. รับ 600 ล้านอุดหนุนลิขสิทธิ์บอลโลก ลั่นลิขสิทธิ์ 1,600 ล้านบาทแพงเกินไป หากฟีฟ่ายืนยันราคานี้ “คงไม่มีการถ่ายทอดสด” เร่งต่อรองราคาหวังปิดดีลก่อน 20 พ.ย. ยอมรับมีเอกชนหลายเจ้าพร้อมสนับสนุนแต่เปิดเผยไม่ได้

วันนี้ (14 พ.ย. 65) ที่สำนักงาน กสทช. ได้จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ในการซื้อลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลก รอบสุดท้ายที่ประเทศกาตาร์

นายก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการกีฬาแห่งประเทศไทย เผยว่ากำลังดูความเหมาะสมเพื่อไม่ให้ประเทศไทยจ่ายเงินค่าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย ให้ฟีฟ่า ในราคาที่แพงเกินควร จึงต้องมีการเทียบเคียงกับขนาดเศรษฐกิจ ขนาดตลาดของประเทศเพื่อนบ้านที่ได้ซื้อลิขสิทธิ์ไปก่อนหน้านี้แล้ว เพื่อหาราคาที่เหมาะสม ระมัดระวังให้ใช้เงินภาษีของประชาชนไปอย่างเหมาะสม ซึ่งขณะนี้กำลังพยายามอย่างเต็มที่เพื่อหาข้อยุติกับทางฟีฟ่าโดยเร็วที่สุด

ซึ่งได้ดำเนินการส่งเงื่อนไขทั้งหมดไปที่ฟีฟ่าอย่างครบถ้วนแล้ว เพื่อขอให้ฟีฟ่าพิจารณาราคาที่เหมาะสมยิ่งขึ้น หรือการพิจารณาแบ่งแยกออกเป็นแพคเกจจะทำได้หรือไม่ คาดว่าจะมีคำตอบจากตัวแทนของฟีฟ่าภายในวันนี้ การลงนามในวันนี้เป็นขั้นตอนสำคัญในการเบิกจ่ายเงินสนับสนุนจากทาง กสทช. และขั้นตอนการร่างสัญญาซึ่งได้ส่งให้สำนักงานอัยการสูงสุดพิจารณาตรวจทานแล้ว ส่วนเรื่องเงินได้รับความร่วมมือจากธนาคารกรุงไทยเป็นอย่างดีพร้อมสำหรับการดำเนินการ ตอนนี้รอผลการพิจารณาของทางฟีฟ่าว่าจะตกลงราคาที่เหมาะสมที่สุดกับเราอย่างไร

ส่วนเรื่องสปอนเซอร์ที่จะสนับสนุนเพิ่มนั้น นายก้องศักด ระบุว่า ขณะนี้มีเอกชนหลายรายที่ยืนยันพร้อมให้การสนับสนุนแล้ว แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดใดๆได้ ทั้งจำนวนเอกชนที่ให้การสนับสนุนและจำนวนเงิน

นายก้องศักด ยืนยันว่า หากฟีฟ่ายังยืนยันราคาลิขสิทธิ์ที่ 1,600 ล้านบาทซึ่งเป็นราคาที่มากเกินควร “คงไม่มีการตกลงเกิดขึ้น” ซึ่งเมื่อเทียบกับราคาลิขสิทธิ์ในประเทศอื่นๆ เพื่อนบ้านของเราจะเป็นราคาที่สูงเกินไป ซึ่งหลังจากนี้จะมีการทำงานอย่างต่อเนื่องจนถึงวันที่ 20 พฤศจิกายน เพราะหากหลังจากนั้นโอกาสในการถ่ายทอดคงจะเกิดขึ้นได้ยากแล้ว หรืออาจมีการแบ่งถ่ายทอดรอบถัดไป แต่ในขณะนี้ยังไม่สามารถตอบได้ว่าจะเป็นไปในแนวทางใด

ผู้สื่อข่าวถามว่าหากทางฟีฟ่าไม่ยอมจำหน่ายลิขสิทธิ์ในราคาที่เรารับได้จริงๆ ทางกกท.จะทำอย่างไร นายก้องศักด ตอบว่า หากเป็นเช่นนั้นก็ต้องทำความเข้าใจกับประชาชนว่าภาครัฐได้พยายามอย่างถึงที่สุดแล้ว “หากยังยื่นราคาที่สูงเกินไปก็ต้องยอมรับว่าครั้งนี้จะไม่มีการถ่ายทอดสด” หากการผ่อนผันไม่เกิดขึ้น ซึ่งเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่าฟีฟ่าและประเทศไทยมีเจตนาตรงกันคือการให้คนไทยได้ดูการถ่ายทอดสด คงมีทางออกที่ดีร่วมกันได้

นายก้องศักด เผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายการกีฬาแห่งชาติ ได้กำชับให้ทำงานอย่างเต็มที่ เพื่อให้คนไทยได้มีโอกาสชมฟุตบอลโลก แต่ท่านก็เข้าใจว่าไม่มีเหตุผลจะต้องไปทุ่มเงินซื้อในราคาที่แพงเกินไป

ทั้งนี้นายก้องศักด ยังยืนยันว่า ที่ผ่านมาการกีฬาแห่งประเทศไทย ไม่สามารถเข้าไปแข่งขันในการซื้อสิทธิ์ต่างๆกับภาคเอกชนได้ ฉะนั้นต้องรอให้มั่นใจว่าเอกชนไม่สามารถดำเนินการได้ และเรื่องของการซื้อสิทธิ์เป็นภารกิจเสริมขึ้นมาตามนโยบายเพียงเท่านั้น จึงไม่สามารถดำเนินการได้ในระยะแรก ส่วนในอนาคตจะมีการปรับเกณฑ์อะไรอย่างไรคงต้องรอความชัดเจนอีกครั้งจาก กสทช. ด้วย

ส่วนหลักเกณฑ์การนำเสนออย่างเท่าเทียม(Must Have) ย้ำว่าต้องเปิดโอกาสให้ภาคธุรกิจสื่อสารมวลชนเข้ามาร่วมในเงื่อนไขต่างๆที่กำหนดไว้ แต่ย้ำว่าต้องเป็นธรรม เท่าเทียม

เรื่อง : ทศ ลิ้มสดใส
ภาพ : พุฒิพงศ์ ธัญพันธุ์