POLITICS

‘จตุพร’ พ้นโทษ น้ำหนักลด 27 กก.เหตุกินมังสวิรัต ชี้ นายกฯ อยู่ไม่ถึง 8 ปี

วันนี้ (14 ต.ค. 64) ที่หน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ถนนงามวงศ์วาน ศาลอาญาอ่านคำวินิจฉัยศาลอุทธรณ์คดีบุกบ้านสี่เสาเทเวศร์ ให้ปล่อยตัวชั่วคราว นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำไทยไม่ทน และประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.)  โดยกำหนดวงเงินประกัน 3 แสนบาท 

โดยก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 8 และ 11 ตุลาคม2564 ทนายความของ นายจตุพร  ยื่นขอประกันตัวคดีบุกบ้านพักสี่เสาเทเวศร์ไปแล้วนั้น แต่ศาลมีคำสั่งยกคำร้อง โดยให้เหตุผลว่าข้อกล่าวหาในคดีนี้เป็นข้อหาร้ายแรง มีอัตราโทษสูง ประกอบกับนายจตุพร จำเลยที่ 1 ต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุกในคดีอื่นมาแล้วหากให้ปล่อยชั่วคราวไป อาจหลบหนีได้ ทั้งจำเลยที่ 1 ถูกจำคุกในคดีอื่นอยู่ในขณะนี้ การปล่อยชั่วคราวในคดีนี้จึงย่อมไม่เป็นประโยชน์ จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวจำเลยที่ 1 ให้ยกคำร้อง

 และเมื่อวันที่ 12 ต.ค. 2564 ทนายความได้ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวอีกครั้ง แต่ศาลยังไม่มีคำสั่งให้ปล่อยตัว และแม้ว่านายจตุพร จะได้รับการพระราชทานอภัยโทษในคดีหมิ่นประมาทนายอภิสิทธิ์ ในวันดังกล่าวแต่ก็จะยังไม่สามารถปล่อยตัวได้ เพราะยังมีการคุมขังในคดีบุกบ้านสี่เสาเทเวศร์ที่ยังรอพิจารณาอยู่

ต่อมาเมื่อวันที่ 13 ต.ค. 2564 ทนายความได้ยื่นขอประกันตัวอีกครั้ง โดยศาลได้รับคำร้องใกล้เวลาปิดทำการทำให้อัยการยุติการพิจารณาชั่วคราว และพิจารณาต่อในช่วงบ่ายวันนี้  จนกระทั่งเมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. ศาลได้มีคำสั่งอนุญาตให้ประกันตัว  

นายจตุพร กล่าวว่า ตนและบรรดาผู้ต้องขังทั้ง 517 คน ของเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครและผู้ต้องขังทั่วประเทศรำลึกในพระกรุณาธิคุณที่เมื่อวันที่ 28 ก.ค. ที่ผ่านมา ได้รับพระราชทานอภัยโทษ โดยผู้ที่ได้รับการปล่อตัวจะต้องได้รับการอบรมโครงการโคกหนองนาโมเดล รุ่นละ 14 วัน ซึ่งตนอยู่รุ่นที่  3 และมีกำหนดปล่อยตัววันที่ 13 ต.ค. 64 แต่วันดังกล่าวศาลอาญามีคำสั่งไม่อนุญาตให้ประกันตัว เพราะยังค้างคดีบุกบ้านสี่เสาเทเวศร์ที่รอการพิจารณา 

ทั้งนี้ ในระหว่างที่ถูกคุมขังอยู่นั้นผู้ต้องขังสามารถถอนประกันตัวในคดีอื่นเพื่อลดวันกักขังได้ และเมื่อใกล้วันพ้นโทษ สามารถยื่นขอประกันตัวได้ และตลอด 14 ปี ที่ถูกดำเนินคดีทางการเมืองมานั้น  ศาลอนุญาตให้ยื่นถอนประกันตัวทุกครั้ง ขณะที่คดีบุกบ้านสี่เสาเทเวศร์นั้น ได้ยื่นประกันตัวถึง 3 ครั้ง  และเหตุผลศาลที่ระบุว่าคดีบุกบ้านสี่เสาเทเวศร์เป็นคดีที่มีอัตราโทษสูง โดยในสำนวนแรกระบุไว้ 2 ปี 8 เดือน เป็นเรื่องที่ฟังไม่ได้ เพราะหากตนถอนประกันตัวเพื่อจะหลบหนีนั้นจะเป็นการวางกับดักให้กับตัวเอง และวันนี้ต้องกราบขอบคุณศาลอุทธรณ์ที่ให้ความเมตตา ซึ่งตลอดเวลา 10 ปีที่ผ่านมานี้ ได้เข้าออกคุกมาแล้ว 5 ครั้งไม่เคยหลบหนีแม้เพียงครั้งเดียว และเคยถูกคุมขังในดีดังกล่าวถึง 3 ครั้ง รวมทั้งสิ้น 14 เดือน และได้รับการลดหย่อนโทษ 1 ใน 3 เหลือ 10 เดือน กับ 20 วัน หากคิดหลบหนีคงไม่เข้าออกคุกถึง 5 ครั้ง 

นายจตุพร กล่าวอีกว่า ส่วนคดีหมิ่นประมาทนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีนายกรัฐมนตรีนั้น ได้รับโทษ จำคุก  97 วัน พร้อมกล่าวขอบคุณทุกกำลังใจที่มารอตอนรับในวันดังกล่าว ทั้งที่อยู่หน้าเรือนจำและที่อยู่ที่บ้าน ซึ่งตอนนี้อายุเข้า 57 ปี และแฮปปี้เบิร์ดเดย์ในคุกมาแล้วถึง 2 ครั้ง  และการเข้าคุกครั้งนี้มีความตั้งใจกินมังสวิรัติก่อนเข้าคุก 7 วัน และตลอดการถูกคุมขังในเรือนจำเหมือนเป็นการมาบวช 1 พรรษาโดยน้ำหนักลดลงไป 27 กิโลกรัม ทั้งนี้ยังมีการพูดติดตลกว่าหากใครต้องการลดน้ำหนักก็สามารถปรึกษาได้ 

นอกจากนี้ นายจตุพรได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับวาระการดำรงนายกรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่า หลายคนอาจติดใจการวินิจฉัยวาระการดำรงตำแหน่งนายกฯ 8 ปี  แต่ตนเองมั่นใจว่าอย่างไรพล.อ.ประยุทธ์ก็อยู่ไม่ถึงวันนั้น ตอนนี้ประเทศกำลังเข้าสู่สภาววิกฤต เพราะประชาชนมีความเดือดร้อนแสนสาหัส และสถานการณ์ทางการเมืองในอดีตที่ผ่าน นักเคลื่อนทางการเมืองจะชอบประโยคที่ว่า “ไม่ฆ่าน้อง ไม่ฟ้องนาย ไม่ขายเพื่อน” แต่การเมืองปัจจุบันกลับ “ฆ่าพี่ ฆ่าน้อง ฟ้องนาย และขายเพื่อน” อย่างไรก็พาประเทศไปไม่รอด 

ทั้งนี้ยังได้กล่าวถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ผ่านมาว่า ได้เห็นอะไรหลายๆ อย่าง พล.อ.ประยุทธ์รู้แก่ใจที่สุด ว่าตัวเองกำลังอยู่ในสถานการณ์แบบไหน ตลอดเวลา 7 ปีที่ผ่านมา เชื่อมั่นว่าคนไทยต่างเข็ดหลาบไปตามๆ กัน และมองว่าถึงเวลาที่ พล.อ.ประยุทธ์ จะรักษาบ้านเมืองมากกว่าเล่นเกมการเมือง และควรเสียสละให้กับบ้านเมืองบ้าง เพราะบ้านเมืองก็ให้โอกาส พล.อ.ประยุทธ์ อย่างที่ใครไม่เคยได้รับมาในประวัติศาสตร์ทางการเมือง โดย พล.อ.ประยุทธ์ กำลังจะเดินไปถึงจุดใกล้จุดจบฃ หากทุกคนเอาประโยชน์ของชาติมาเป็นหลักและเสียสละ เราก็จะนำพาและรักษาชาติบ้านเมืองเอาไว้ได้ และเชื่อว่าอีกไม่กี่วันตนจะตามทันในสถานการณ์บ้านเมือง สิ่งสำคัญที่สุดคือหากผู้คนรู้จักเสียสละเพื่อบ้านเมือง ประเทศก็จะพ้นวิกฤต แต่ตราบใดที่บุคคลเป็นใหญ่กว่าบ้านเมือง บ้านเมืองนั้นไม่สามารถที่จะรักษาเอาไว้

Related Posts

Send this to a friend