’นพ.พรหมินทร์‘ รับ หากทำคำชี้แจงศาล รธน. ไม่ทัน ต้องขอเลื่อน
’นพ.พรหมินทร์‘ รับ หากทำคำชี้แจงศาล รธน. ไม่ทัน ต้องขอเลื่อน อุบ ตอบ ‘วิษณุ‘ ร่วมทีมกฎหมาย บอก ใครมีข้อเสนอดีรับฟังหมด ยันมีหลักฐาน – พยานพร้อม และอยู่ร่วมในวงสนทนา ย้ำ ‘แพทองธาร‘ ทำด้วยเจตนาดี รักษาผลประโยชน์ของประเทศ
วันนี้ (14 ก.ค. 68) นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการขอขยายเวลายื่นเอกสารชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ว่า ขณะนี้กำลังเตรียมการอยู่ หากทำไม่ทันก็ต้องขอเลื่อน
ส่วนจะมี นายวิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกรัฐมนตรี เข้ามาช่วยด้วยหรือไม่นั้น นพ.พรหมินทร์ กล่าวว่า วันนี้ข้อเท็จจริงต้องมาก่อน หากวันนี้ที่ปรึกษาด้านกฎหมายมีข้อเสนอแนะดี ๆ ก็พร้อมรับฟังทั้งหมด โดยทีมกฎหมาย เป็นทีมของนายกรัฐมนตรี จะมาจากทางไหนก็แล้วแต่
ส่วนจะใช้จุดไหนในการชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญ นพ.พรหมินทร์ กล่าวว่า ความเป็นจริง เจตนาที่รักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติ และสื่อสารกันให้ชัดเจน และแม้กระทั่งกระบวนการที่ผ่านมา เราถูกเขาใช้ประโยชน์จากวิธีการต่าง ๆ เป็นวิธีที่ไม่เหมาะสม เช่น การนำคลิปสนทนาส่วนตัวมาเผยแพร่ แต่หากไปฟังในเนื้อหา จะพบว่าเจตนาทั้งหมด เป็นการรักษาผลประโยชน์ของชาติด้วยวิธีการสื่อสารกับคนที่ไม่ได้เป็นตัวแทนของรัฐบาล
ส่วนที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกมาพูดว่าเป็นการโทรมาโดยอาศัยจังหวะที่นายกรัฐมนตรีอยู่คนเดียว จะใช้ข้อมูลส่วนนี้เป็นข้อชี้แจงด้วยหรือไม่ นพ.พรหมินทร์ กล่าวว่า ตนเองอยู่ในเหตุการณ์วันนั้น นางสาวแพทองธารได้รับการติดต่อ และเลื่อนนัดมา 2 – 3 ครั้ง ทำให้เกิดความไม่สบายใจ จึงมีการพูดคุยและติดต่อมาที่ตนเอง ให้ไปติดต่อนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อให้เข้าร่วมการพูดคุย ซึ่งระหว่างรอ นายเคลียง ฮวด ได้ระบุว่าเรื่องนี้จบไม่ได้ ต้องขอหารือกับสมเด็จฯ ฮุน เซน ก่อน จึงมีการต่อสายไปยังสมเด็จฯ ฮุน เซน จากนั้นก็รอ และได้มีการส่งภาพสมเด็จฯ ฮุน เซน นอนอยู่ เราจึงบอกให้ปลุก เพราะเป็นเรื่องใหญ่ แต่เขาไม่ได้ทำตาม พร้อมย้ำว่า สมเด็จฯ ฮุน เซน ไม่ได้เป็นตัวแทนรัฐบาล
ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่า แสดงว่าการที่นายทักษิณ ระบุว่าไม่ได้พูดกับผู้นำกัมพูชาจะเป็นหนึ่งในข้อชี้แจงต่อศาลด้วยใช่หรือไม่ นพ.พรหมินทร์ ระบุว่า ตนเองว่าเราเล่าข้อเท็จจริงทั้งหมด ก็จะเห็นเจตนา เพราะนางสาวแพทองธาร เห็นในเรื่องของการคุยกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้งกระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงกลาโหม แม้กระทั่งการรับสายส่วนตัว หรือการไปคุยต่อนอกเวลา ซึ่งปกติก็คุยกันอยู่ พร้อมยืนยันว่า การต่อสายครั้งนั้น นางสาวแพทองธาร ไม่ได้รับปากอะไรเลย เพียงแต่บอกว่าจะไปหารือแล้วกลับมาคุยกัน แต่ปรากฏว่ามีการปล่อยคลิปดังกล่าวออกมาระหว่างที่ประชุมกันอยู่ที่บ้านพิษณุโลก
เมื่อถามว่าแสดงว่า นพ.พรหมินทร์ นายภูมิธรรม และนายมาริษ จะเป็นพยานในประเด็นนี้ได้ใช่หรือไม่ นพ.พรหมินทร์ กล่าวว่า แน่นอนที่สุดว่าถ้าหากมีความจำเป็นที่จะต้องยืนยัน เชื่อว่ามีหลักฐานครบว่าไปคุยกันที่ไหน อย่างไร มีพยานเยอะแยะ สำหรับเรายืนยันเจตนา และที่สำคัญคือหารือใกล้ชิดกับผู้เกี่ยวข้องโดยเฉพาะกองทัพตลอด ไม่ได้มีอะไรอย่างที่เขากล่าวหา












