‘สุชาติ’ ติดตามการรับซื้อปาล์มที่ จ.ชุมพร ย้ำผู้ประกอบการรับซื้อในราคาที่เป็นธรรม
‘สุชาติ’ ติดตามการรับซื้อปาล์มที่ จ.ชุมพร ย้ำผู้ประกอบการรับซื้อในราคาที่เป็นธรรม เผย ล้งทุเรียนพร้อมรับซื้อทุเรียนใต้ คาดราคาสูงถึง กก.ละ 170 บาท
วันนี้ (14 มิ.ย. 67) นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้รับมอบหมายจาก นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้ติดตามสถานการณ์ด้านราคาและปริมาณผลปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มในพื้นที่ภาคใต้ที่ จ.ชุมพร พร้อมกำกับให้ผู้ประกอบการรับซื้อผลปาล์มน้ำมันทั้งโรงสกัดและลานเท ปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 ทั้งการแสดงราคารับซื้อตามอัตราการสกัด เครื่องชั่งที่เที่ยงตรง และรับซื้อในราคาที่เป็นธรรม เพื่อไม่ให้เกษตรกรถูกเอารัดเอาเปรียบ
จากนั้นนายสุชาติหารือกับเกษตรกรกลุ่มแปลงใหญ่ทุเรียน จ.ชุมพร ผู้ประกอบการแผงค้า และล้งรับซื้อทุเรียน เพื่อให้เตรียมความพร้อมในการเปิดรับซื้อผลผลิตทุเรียนภาคใต้ที่กำลังจะออกสู่ตลาดในช่วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม โดยล้งเปิดทำการแล้วกว่า 70% ทำให้มั่นใจว่าจะสามารถดูแลผลผลิตทุเรียนที่จะออกสู่ตลาดได้เป็นอย่างดี
นายสุชาติยังตรวจเยี่ยมการค้าในตลาดมรกต ซึ่งเป็นตลาดรับซื้อผลไม้ที่ใหญ่ที่สุดของภาคใต้ และบริษัท เอดีเอส (เฮียน้อย) อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด อ.หลังสวน จ.ชุมพร ขณะนี้การซื้อขายเป็นปกติ และเริ่มมีความคึกคัก แผงค้าในตลาดมรกตเปิดรับซื้อทุเรียนเต็ม 100% ส่วนราคาอยู่ในเกณฑ์ที่ดีกว่าปีที่ผ่านมา โดยเกรด AB ราคาอยู่ที่ 165-170 บาท / กก. เกรด C อยู่ที่ 120-125 บาท/ กก. และเกรด D อยู่ที่ 100-110 บาท / กก.
นายสุชาติ กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงพาณิชย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะติดตามและตรวจสอบการซื้อขายทุเรียนอย่างใกล้ชิด ไม่ให้มีการกดราคารับซื้อ หรือมีพฤติกรรมที่ไม่เป็นธรรมในการซื้อขาย และยังขอความร่วมมือแสดงราคารับซื้อให้ชัดเจน ใช้เครื่องชั่งที่มีมาตรฐานผ่านการตรวจรับรองคุณภาพ โดยสั่งการให้สำนักงานชั่งตวงวัดในพื้นที่ตรวจสอบความถูกต้องของเครื่องชั่งในจังหวัดอย่างเข้มงวด
สำหรับสถานการณ์ผลผลิตทุเรียนภาคใต้ในปี 2567 กรมการค้าภายในรายงานว่าจะมีปริมาณรวม 670,987 ตัน เพิ่มขึ้น 58,567 ตัน และผลผลิตมีคุณภาพดี ออกผลผลิตเป็น 4 ช่วง ทำให้บริหารจัดการง่าย ไม่กระจุกตัว และขณะนี้ได้ประสานผู้ว่าราชการจังหวัด รวมถึงพาณิชย์จังหวัด ให้ช่วยติดตามดูแล โดยเฉพาะการรับซื้อ เพื่อให้เกษตรกรขายผลผลิตได้ในราคาที่เป็นธรรม













