‘อนุทิน‘ ย้ำ จุดยืน ‘ภูมิใจไทย‘ ไม่ร่วมโหวตแก้ รธน.

‘อนุทิน‘ ย้ำ จุดยืน ‘ภูมิใจไทย‘ ไม่ร่วมโหวตแก้ รธน. ชี้ ยึดมั่นตามแนวคิดของพรรค ยืนยัน ‘เพื่อไทย‘ ไม่เคยกดดันพรรคร่วมรัฐบาล

วันนี้ (14 ก.พ. 68) ที่อาคารรัฐสภา นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าประชุมร่วมรัฐสภาในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ถึงจุดยืนในการไม่ร่วมแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญตามที่พรรคได้แถลงไปก่อนหน้านี้ ว่า วันนี้ก็เหมือนเดิมเราได้แถลงเป็นที่เรียบร้อยแล้วก็ยังยึดมั่นในแนวความคิดของเรา แต่เรามาที่สภามาประชุมสภามาลงชื่อว่าเราไม่ได้ไปไหน แต่ถ้าเป็นวาระเข้าพิจารณาเราไม่ได้เข้า การตีความของพรรคภูมิใจไทยเราตีความว่ามันมีความเสี่ยง

เมื่อถามว่า เมื่อวาน (13 ก.พ. 68) ก็ได้มีการวิพากษ์วิจารณ์กันเยอะ เรื่องของการแสดงจุดยืนอยากจะแก้แต่พรรคเพื่อไทยก็ไปหนุนญัตติของ นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ส่วนตัวมองอย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า ตนเองมองเฉพาะแนวทางของพรรคภูมิใจไทยเราต้องไม่ไปก้าวล่วงความคิดของพรรคอื่น เพราะมันเป็นคนละพรรคกัน ซึ่งแต่ละคนก็มีสิทธิ์ที่จะตีความหรือมีแนวทางปฏิบัติที่ต่างกัน ตรงนี้ถามพรรคภูมิใจไทยไม่ได้

ส่วนก่อนหน้านี้ที่ สส. ของพรรคเพื่อไทยออกมากดดันให้พรรคร่วมรัฐบาลที่ไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญออกจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาลนั้น นายอนุทิน ยืนยันว่า ไม่เคยมีการกดดันพรรคภูมิใจไทย ส่วนคำพูดที่ออกมาเป็นเพียงคำพูดของ สส. ซึ่งในทางปฏิบัติในการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล การพูดคุยกันต้องเป็นระดับหัวหน้าพรรค หรือเต็มที่ก็เลขาธิการพรรค นอกเหนือจากนี้ไม่ต้องนำมาเป็นสาระอะไร ถ้าไปฟังก็เปลืองพื้นที่สมอง ซึ่งไม่มีความจำเป็น ตนเองพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ก็ไม่เห็นมีอะไรเหมือนกับที่ นายก่อแก้ว พิกุลทอง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย พูดเลยแค่นี้ก็รู้แล้วว่าใครพูดมีน้ำหนัก

เมื่อถามว่า ในวันนี้พรรคเพื่อไทยเรียกพรรคร่วมรัฐบาลหารือร่วมกันแต่ไม่ได้เชิญพรรคภูมิใจไทยเข้าร่วมด้วย นายอนุทิน กล่าวว่า ยังไม่รู้เลยว่ามีการเชิญ แต่ตรงนี้เป็นเรื่องของสภาเมื่อพรรคภูมิใจไทยไม่เข้าประชุมในวาระการพิจารณาก็ไม่ได้รู้สึกอะไรที่จะเชิญหรือไม่เชิญ ผู้สื่อข่าวชอบเอาเรื่องมารวมกัน สภาเป็นเรื่องของสภา รัฐบาลก็เป็นเรื่องของรัฐบาล การแก้ไขกฎหมายเป็นเรื่องฝ่ายนิติบัญญัติ การแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้เป็นเรื่องที่พรรคเพื่อไทย และพรรคประชาชนเสนอร่างเข้ามา ไม่ได้ผ่านคณะรัฐมนตรีเข้ามา ไม่มีการหารือกันมาก่อนภายในพรรคร่วมรัฐบาล

อย่างไรก็ตาม หากสภาล่มซ้ำทางออกของเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า เป็นอำนาจของประธานรัฐสภาที่จะวินิจฉัย พรรคภูมิใจไทยไม่สามารถให้ความคิดเห็นที่อยู่นอกการควบคุมของพรรคได้ ซึ่งหากทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมายพรรคภูมิใจไทยก็พร้อมให้ความร่วมมือ การตรากฎหมายใดๆ เมื่อมีการเสนอร่าง และรับหลักการเรียบร้อยแล้วจะต้องนำเข้ากรรมาธิการเพื่อแปรญัตติ ซึ่งในชั้นนี้พรรคการเมืองใดมีความเชื่อแบบไหนก็ไปโหวตกันในชั้นนี้ก่อนเข้าสู่วาระ 3

ดังนั้น หากร่างรัฐธรรมนูญทั้ง 2 ฉบับถูกส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยก็ต้องรอผลของศาล เพราะพรรคภูมิใจไทยเชื่อว่าการเพิ่มหมวด 15/1 เป็นการแก้ไขทั้งฉบับ ซึ่งจะสุ่มเสี่ยงขัดต่อคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ แต่หากเป็นแค่การแก้ไข ม.256 ไม่ใช่การแก้ไขทั้งฉบับพรรคภูมิใจไทยก็พร้อมลงมติรับหลักการแล้วไปว่ากันในชั้นกรรมาธิการ เพราะเราก็มีทั้งเรื่องที่ยากแก้ และไม่อยากแก้เหมือนกัน

ส่วนที่พรรคประชาชนเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีเรียกพรรคร่วมรัฐบาลมาหาทางออกร่วมกันนั้น นายอนุทิน กล่าวว่า หากนายกฯ เรียกให้พรรคร่วมไปชี้แจง ตนเองก็พร้อมหรือหากนายกรัฐมนตรีเห็นว่าเรื่องนี้ต้องหารือกันระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล หากเรียกมาเราก็ไป แต่นายกรัฐมนตรีคงไม่ได้ขอให้พรรคภูมิใจไทยกลับทันทีเพราะมีการแถลงจุดยืนชัดเจนไปแล้ว เพราะเรื่องนี้ที่เสี่ยงต่อการดำรงอยู่ของ สส. และพรรคภูมิใจไทย ซึ่งก็มีผู้เสนอให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ดี ก็รออยู่ว่าใครจะเป็นคนยื่น