‘ปชน. จัดปิกนิกขอโทษจากใจ ‘เท้ง‘ พร้อมเดินหน้าเลือกตั้ง ตั้งเป้าคว้าเก้าอี้ สส.เกินครึ่งสภาฯ

พรรคประชาชน จัดปิกนิกขอโทษจากใจ ขอไปต่อด้วยกัน ‘เท้ง‘ พร้อมเดินหน้าสู้ศึกเลือกตั้ง ตั้งเป้าคว้าเก้าอี้ สส.เกินครึ่งสภาฯ ลั่น หากทำการเมืองตรงไปตรงมาแล้วดูโง่ พร้อมยอมโง่ต่อ เพื่อทำให้ประเทศดีขึ้น

บรรยากาศกิจกรรม “ปิกนิกพรรคประชาชนพบประชาชน ขอโทษจากใจขอไปต่อด้วยกัน” วันนี้ (13 ธ.ค 68) ที่สนามหญ้า มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร 4 ผู้นำพรรคอนาคตใหม่ พรรคก้าวไกล และพรรคประชาชน ประกอบด้วย นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล นายชัยธวัช ตุลาธน อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล และนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน นั่งล้อมวงเพื่อขอโทษประชาชนที่ไม่สามารถผลักดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญได้สำเร็จ

ประชาชนที่เป็นโหวตเตอร์ ได้แสดงความคิดเห็นหลากหลาย ทั้ง การไม่เห็นด้วยที่นายณัฐพงษ์ โหวตเลือกนายอนุทิน ชาญวีรกุล เป็นนายกรัฐมนตรี รวมถึงการให้พรรคประชาชนแสดงจุดยืนเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ทั้งนี้ส่วนใหญ่ไม่ได้ต้องการคำขอโทษ แต่ขอให้นำมาเป็นบทเรียนในการเลือกตั้งครั้งถัดไป

นายณัฐพงษ์ กล่าวในช่วงท้ายของกิจกรรมว่าวิธีที่จะชนะอุปสรรคได้คือ เสียงของประชาชนคนไทยทุกคน หากการเลือกตั้งครั้งหน้าเราสามารถได้เสียงของคนส่วนใหญ่ในประเทศ เราได้ สส.เกินครึ่งหนึ่งในสภาฯ ตนเองยังมองไม่เห็นว่าจะมีอะไรที่มาฉุดรั้งไม่ให้พรรคประชาชนเข้าไปสร้างการเปลี่ยนแปลงได้ ถึงเวลาเราไม่ได้เป็นรัฐบาลจะมีอุปสรรคอะไรมาเตะพวกเราให้หกล้มอีก หากสถานการณ์ถึงสถานการณ์นั้นจริง ๆ เราจะเกี่ยวแขนกันแล้วไปอยู่หน้าสภาฯ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีเราเตรียมไว้แล้ว 3 คน จะเล่นเราทุกทางอีกหรือ หากถึงจุดนั้นเราก็ต้องสู้

พวกเราต้องการสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ไม่มีการนองเลือด การเมืองคือสงครามที่ต้องไม่มีการนองเลือด เราเลือกที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงจากระบบ ทุกคนรู้ว่าการทำพรรคอนาคตใหม่จนมาถึงพรรคประชาชน ไม่ใช่เป็นการวิ่งระยะสั้นแต่เป็นการวิ่งมาราธอนระยะยาว เราเห็นว่าการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นแล้วเรื่อย ๆ และมันขยายมากยิ่งขึ้น สำหรับการเลือกตั้งครั้งหน้าที่ไม่มีอำนาจ สว. ประชามติมาพร้อมกับการเลือกตั้งที่เราสามารถรณรงค์เอาเสียงของประชาชนที่เลือกให้เราถล่มทลายมาลงเสียงประชามติอย่างถล่มทลายด้วย เพื่อเดินหน้ารัฐธรรมนูญฉบับใหม่

เมื่อไรก็ตามที่เลือกตั้งครั้งหน้า เราสามารถทำให้ภาพแบบนี้ได้ เข็มนาฬิกาของประเทศเดินหน้าต่อแน่นอน พรรคประชาชน ไม่ได้มาทำลายล้างแต่ต้องการสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ดีกว่า ในการเลือกตั้งครั้งหน้าเราอยากให้ทุกคนเห็นว่าทางรอดของประเทศ หากไม่กำจัดเรื่องสีเทา ทำให้ประเทศไทยเท่าเทียมกัน ไม่พัฒนาเศรษฐกิจให้เท่าทันโลก เราจะไม่มีทางรอด เราคือทางรอดสุดท้ายของประเทศนี้

“ผมฟังแล้วรู้สึกเศร้าเกินไป แต่ผมอยากเปลี่ยนการเมืองให้ดีขึ้น การเมืองอย่างตรงไปตรงมา ถ้าใครบอกว่าการทำแบบนี้ดูไร้เดียงสา ดูโง่ แต่สำหรับผมถ้าทำการเมืองตรงไปตรงมาแล้วดูโง่ ผมพร้อมยอมโง่ต่อไปเพื่อทำให้มันดีขึ้น มันคือจิตวิญญาณในการทำงานการเมืองของเรา” นายณัฐพงษ์ กล่าว