โหวตเตอร์ส้ม จี้ถาม จุดยืนเหตุพิพาทไทย-กัมพูชา ยอมรับไม่พอใจโหวตหนุน ‘อนุทิน’ นั่งนายกฯ

โหวตเตอร์ส้ม จี้ถาม จุดยืนเหตุพิพาทไทย-กัมพูชา ยอมรับไม่พอใจโหวตหนุน ‘อนุทิน’ นั่งนายกฯ แต่เคารพสิทธิ์ ด้าน ‘เท้ง‘ ยันไม่เคยหนุนหลังกองทัพใช้กำลังเกินกรอบ ยึดมั่นสันติภาพ อยากให้ประชาชนสงบสุข

วันนี้ (13 ธ.ค. 68) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงหนึ่งของกิจกรรม “ปิกนิก พรรคประชาชนพบประชาชน ขอโทษจากใจขอไปต่อด้วยกัน” ณ สนามหญ้า มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร กลุ่มสังคมนิยมแรงงาน ชูป้ายเรียกร้องให้ยุติสงครามไทย-กัมพูชา และหยุดหาคะแนนเสียงจากความตาย

โดยตัวแทนกลุ่ม ได้มีการตั้งคำถามถึง นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชนว่า เหตุใดไม่ระดมคนเพื่อต่อต้านสงคราม เหตุใดถึงปล่อยให้กองทัพทำแบบนั้นโดยไม่ใช้กลไกเจรจาที่มีอยู่กดดันให้ถึงสุด ที่มาขอโทษนึกว่าขอโทษที่เลือกนายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นนายกรัฐมนตรี แต่กลับมาขอโทษที่บอกว่าไม่สามารถผลักดันรัฐธรรมนูญได้ คุณพยายามบอกว่าเราต้องการเป็นรัฐบาล แต่ไม่รู้ว่าเป้าหมายโหวตเตอร์เป็นใครบ้าง เป็นฝ่ายชาตินิยมด้วยหรือไม่

ซึ่งมีประชาชนบางส่วนได้ตะโกนบอกว่า ให้ไปถามรัฐบาล ก่อนที่นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร อดีต สส.พรรคประชาชน จะปรามว่าขอให้เขาพูดต่อเพราะเป็นบรรยากาศที่ดี ที่มีการแสดงความเห็นอย่างตรงไปตรงมา เราจัดเวทีนี้เพราะอยากฟังความเห็นที่แตกต่าง เราพูดเสมอว่าเราเป็นพรรคที่ด่าได้

ประชาชนด้อมส้มเขตบางแค จึงตอบกลับว่าคนที่จะดำเนินการได้คือรัฐบาล และนายอนุทินที่มีหน้าที่ออกคำสั่ง โดยยอมรับว่าทุกคนไม่พอใจที่นายณัฐพงษ์โหวตเลือกนายอนุทิน แต่ก็เคารพสิทธิ์ เราไม่ตำหนิ แต่ทุกอย่างถือเป็นประสบการณ์และบทเรียน ซึ่งเรียกเสียงปรบมือจากประชาชนที่มาร่วมกิจกรรมได้เป็นอย่างหนัก

นายณัฐพงษ์ กล่าวตอบคำถามดังกล่าว โดยขอขอบคุณทุกการแสดงความเห็น เข้าใจการแสดงความเห็นที่มีความแตกต่างหลากหลาย สิ่งหนึ่งที่อยากให้ทุกคนคิดคือ ประเทศที่เราอยากเห็นคืออะไร เราอยากได้ประเทศที่เป็นสังคมประชาธิปไตย ทุกคนเคารพสิทธิเสรีภาพการแสดงออก สังคมมีความแตกต่างหลากหลายได้ ทุกพื้นที่จะต้องเป็นพื้นที่ปลอดภัย ให้เราแสดงความคิดเห็นได้ วัตถุประสงค์ของเวทีนี้ เราไม่ได้ต้องการแค่กำลังใจอย่างเดียว เราอยากได้ทุกคำติชม ในฐานะพรรคมวลชนที่ทุกคนมาสะท้อนความเห็น

สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา เราต้องการวิถีชีวิตที่ปกติสุข แต่ก็มีคำถามตามมาว่าอยู่ดี ๆ เรายืนอยู่สงบสุขมีคนมาท้าตีท้าต่อย แอบตบหัวข้างหลัง ไม่ทำอะไรตรงไปตรงมาตามวิธีทางทหารอย่างที่ควรจะเป็น มาทำร้ายเรา สิ่งที่มีความชอบธรรมคือเราต้องป้องกันตนเอง ยืนยันว่าพวกเราไม่เคยมีใครที่ต้องการใช้ความรุนแรง ประเทศไทยไม่ใช่ประเทศอันธพาล แต่ถ้ามีคนมาทำร้ายเรา เราใช้กำลังป้องกันตนเอง

ตนเองมีโอกาสลงพื้นที่ไปรับฟังเสียงประชาชนในพื้นที่อีสานใต้ เขาอพยพกันหลายครั้ง การอพยพไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ เพราะกระทบวิถีชีวิต ประเด็นสำคัญทุกคนอยากให้ปัญหาจบ แต่สำคัญคือจะจบที่ตรงไหน หากเราไม่ใช้สรรพกำลังในการป้องกันตนเองหรือดำเนินการยุทธศาสตร์ไม่ให้กัมพูชาทำร้ายเราได้ฃปัญหาก็ยังจะเรื้อรัง เราต้องใช้กำลังทางการทหารและอยู่ภายใต้กติกาสากล ซึ่งกองทัพกำลังพุ่งเป้าไปที่ภัยคุกคามบรรดาเครื่องยิงจรวดและฐานที่ตั้งทหาร จำเป็นต้องทำ แต่ไม่ควรเลยกรอบจนไปรุกรานประเทศเขา

”อยากจะยืนยันว่าพรรคประชาชนไม่เคยหนุนหลังการใช้กำลังกองทัพที่เกินเลยไปกว่าหลักการป้องกันตนเอง เรายึดมั่นอยากจะให้ทุกคนมีสันติภาพ มีเอนเกมหรือจุดจบที่ทุกคนกลับมาใช้ชีวิตปกติสุขได้ “