‘โรม’ จี้รัฐบาล ต้องแสดงถึงอธิปไตยต่อประเทศเพื่อนบ้าน

ปมเรือประมงไทยถูกยิง-ว้าแดงตั้งฐานทัพล้ำแดน ชี้ การกระทำเกินกว่าเหตุเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ เตรียมประชุม กมธ.ความมั่นคง หาแนวทางแก้ไข
วันนี้ (13 ธ.ค. 67) ที่อาคารรัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ เปิดเผยก่อนประชุมคณะกรรมาธิการฯ พิจารณาปัญหาเรือประมงไทยถูกเรือรบเมียนมายิง ความคืบหน้าการช่วยเหลือลูกเรือประมง และพิจารณาปัญหาการตั้งฐานทัพว้าล้ำแดนไทย
ในการประชุมครั้งนี้ ได้เชิญบุคคล และผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม ได้แก่ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้บัญชาการทหารเรือ เลขาธิการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ แม่ทัพภาคที่ 3 และเจ้ากรมแผนที่ทหาร
นายรังสิมันต์ กล่าวว่า กรณีเรือประมงเราให้ความสำคัญเรื่องการช่วยเหลือทั้ง 4 คน ที่อยู่ภายใต้การควบคุมว่าจะได้มีอิสรภาพเมื่อไหร่ ส่วนกรณีว้าแดงที่มีข่าวลือต่าง ๆ คาดว่าวันนี้จะได้ฟังแนวทางที่ชัดเจนจากหน่วยงานรัฐ และกองทัพ ว่าจะมีแนวทางการดำเนินการอย่างไร
ส่วนที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ระบุว่าอาจจะได้ตัวประกันหลังปีใหม่ เบื้องต้นเราอยากให้เขาได้กลับประเทศไทยโดยเร็วที่สุด แต่ยังมีเรื่องของความเสียหายด้วย เนื่องจากเครื่องมือที่ใช้ในการทำประมงมีราคาค่อนข้างสูง หากเกิดเหตุเช่นนี้แล้วต้องคุยถึงการเยียวยาให้กับชาวประมงกรณีที่เขาไม่ได้ทำผิด และต้องมีการพูดคุยกันว่าเหตุใดจึงถูกกระทำเช่นนี้
นอกจากนี้ ยังต้องพูดคุยถึงบทบาทของประเทศไทยที่มีต่อประเทศเพื่อนบ้านด้วย ต้องแสดงออกว่าเราเป็นประเทศหนึ่งที่มีอธิปไตยเป็นของตัวเอง เป็นประเทศที่มีอำนาจศูนย์กลาง ซึ่งการกระทำที่เกินกว่าเหตุเป็นสิ่งที่เรายอมรับไม่ได้ และต้องมีคุยกันด้วยว่าท่าทีของประเทศไทยจะเป็นอย่างไร เช่นเดียวกับกรณีว้าแดง เนื่องจากยืดเยื้อมานาน ไม่ใช่แค่เรื่องการล้ำดินแดน แต่ยังมีเรื่องของการปกป้องประเทศ และยาเสพติด
ดังนั้น ในการประชุมอาจต้องมีการลงลึกในรายละเอียด ซึ่งเป็นเรื่องฝ่ายความมั่นคงเพื่อให้เราได้ข้อมูลทั้งหมดอาจจะไม่ได้เปิดให้คนทั่วไปได้เข้าฟัง แต่จะให้โฆษกคณะกรรมาธิการฯ ทำหน้าที่แถลงข่าวภายหลังการประชุม ในช่วงบ่ายวันนี้ ย้ำว่า จะพยายามชี้แจงเพื่อให้เกิดความโปร่งใสมากที่สุดในการทำหน้าที่ของทุกฝ่าย