’ทักษิณ‘ เผย วันนี้จะบรรยายเรื่อง MOU 44 จวก สื่อกัมพูชา มั่ว
วันนี้ (13 ธ.ค. 67) นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงผลงาน 90 วันของรัฐบาล รวมถึงแถลงแนวนโยบายเมื่อวานนี้ (12 ธ.ค.67) ว่า ชัดเจนดี พูดให้ประชาชนทราบว่า ได้ทำอะไรไปแล้ว บางอย่างก็กำลังจะเสร็จ และให้ประชาชนคาดหวังว่า ปีหน้ารัฐบาลจะทำอะไรต่อ โดยเฉพาะด้านการพลิกฟื้นเศรษฐกิจ โดยในวันนี้ตนเองจะไปบรรยายเรื่องที่ได้คุยกับ น.ส.แพทองธาร ไว้ เพื่อให้ สส.เข้าใจด้านวิชาการมากขึ้น
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า การแถลงนโยบายเหมือนเป็นการต่อยอดนโยบายเดิมที่นายทักษิณเคยทำไว้ นายทักษิณ กล่าวว่า บางอย่างที่ทำไป เมื่อทำไม่เสร็จ และยังเป็นสิ่งที่ทันสมัยอยู่ เช่น เรื่องบ้าน ที่เป็นปัจจัย 4 ของคน ยกตัวอย่างคนยากจนในสลัม เขาก็ฝันว่าพรุ่งนี้จะมีกินหรือไม่ เขาไม่กล้าฝันไปไกลกว่านั้น แต่ถ้าเรามีงานทำ ได้อยู่ในบ้านที่มีความพร้อม สะอาด ปลอดภัย เขาก็จะเริ่มฝันว่าจะสร้างอนาคตให้ลูกเขาอย่างไร เพราะความฝันเป็นตัวขับเคลื่อนสังคม ต้องให้คนไทยฝันในสิ่งที่สูงขึ้น ดังนั้นเรื่องบ้านจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ
สำหรับประเด็นเรื่อง บันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลกัมพูชาว่าด้วยพื้นที่ที่ไทยและกัมพูชาอ้างสิทธิ์ในไหล่ทวีปทับซ้อนกัน หรือ MOU 44 นายทักษิณ กล่าวว่า วันนี้ตนเองจะเล่าให้ฟัง ในฐานะที่ MOU 44 เกิดขึ้นในสมัยที่ตนเป็นนายกรัฐมนตรี ว่าเกิดได้อย่างไร และเพราะอะไร โดยจะบอกให้ฟังว่า เกาะกูดไม่มีใครเถียงว่าเป็นของคนไทยหรือไม่ ซึ่งเป็นของคนไทยล้านเปอร์เซ็นต์
เมื่อถามว่าสื่อจากฝั่งประเทศกัมพูชา ตีความว่า เกาะกูดไม่ใช่ของประเทศไทยนั้น นายทักษิณ ตอบทันทีว่า “ไม่มีหรอก มันมั่ว”
นายทักษิณ กล่าวต่อว่า ทุกวันนี้สิ่งที่เราพูดไปอีกแบบหนึ่ง เขาสามารถปลอมแปลงให้เป็นอีกแบบ โดยใช้ AI ดังนั้นสิ่งที่จะพิสูจน์ได้ว่าจริงหรือไม่ ต้องใช้สายตา ซึ่งทุกคนต้องใช้ไบโอเมตริกซ์ เพราะทุกวันนี้เทคโนโลยีมันน่ากลัว
“บางทีฝ่ายที่ไม่หวังดีก็สร้างเรื่อง บางทีฟังไม่ได้ศัพท์ก็จับไปกระเดียด มองทุกอย่างในแง่ร้าย แต่ความจริงแล้ว MOU 44 ที่แปลว่าข้อตกลง คือเรื่องที่จะคุยในสิ่งที่ยังไม่ได้ตกลงกัน ไม่ใช่ว่าตกลงกันแล้ว ว่ายกเกาะกูดให้เขมรไปแล้ว อันนี้คือ บ้า ไม่มีใครบ้า” นายทักษิณ กล่าว
นายทักษิณ ย้ำว่า MOU 44 คือกรอบว่าจะพูดคุยอะไรบ้าง แต่คุยแล้วไม่ได้จำเป็นต้องจบ แต่ต้องมีกรอบ ไม่เช่นนั้นจะคุยกันเรื่องอะไร โดยวันนี้ตนเองจะบรรยาย และขอให้สื่อนำเนื้อหาไปลงข่าวด้วย ซึ่งตนได้ปรึกษากับนายกฯ และยืนยันว่า ต้องรับฟังทุกฝ่าย แต่ต้องฟังเสียงส่วนใหญ่ ไม่ใช่คนเสียงดัง ถึงจะได้ยินคนเสียงดัง แต่หากเสียงส่วยใหญ่ไม่เอาด้วย ก็ต้องเอาตามเสียงส่วนใหญ่












