POLITICS

‘อนุทิน’ สั่งผู้ว่าฯ บังคับใช้กฎหมาย ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงปีใหม่

‘อนุทิน’ สั่งผู้ว่าฯ ทุกจังหวัด บูรณาการหน่วยงานในพื้นที่ บังคับใช้กฎหมายเข้มงวด ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่

วันนี้ (13 ธ.ค. 66) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2566 ซึ่งเป็นการประชุมทางไกลผ่านระบบออนไลน์ (Webex) ไปยังศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนจังหวัดทุกจังหวัด

นายอนุทิน กล่าวว่า ตามที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี มอบหมายให้ตนเป็นประธานคณะกรรมการนโยบายการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนแห่งชาติ จึงมีข้อสั่งการในการป้องกันอุบัติเหตุทางถนน ให้ทุกหน่วยงานดำเนินการดังนี้

1.ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการร่วมกับทุกภาคส่วน ขับเคลื่อนแผนแม่บทความปลอดภัยทางถนน พ.ศ.2565–2570 ลดอัตราผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน 12 คน ต่อแสนประชากรภายในปี 2570 และบรรลุเป้าหมายยุทธศาสตร์ชาติ ‘ผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนลดลง’ พร้อมเร่งระบายการจราจรให้ประชาชนถึงที่หมายอย่างปลอดภัย

2.ให้ผู้ว่าราชการจังหวัด และผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ใช้กลไกตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน พ.ศ.2554 บูรณาการทุกหน่วยงานในพื้นที่ ดึงองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สำนักงานเขต และประชาชน เข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาให้สอดคล้องกับบริบทของพื้นที่ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยกับผู้ใช้รถใช้ถนนทุกกลุ่ม

3.ให้บังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเข้มงวด จริงจัง และต่อเนื่อง ควบคู่กับการสร้างความตระหนัก จิตสำนึก และมีความรับผิดชอบต่อสังคม

4.ช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2567 ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามกรอบแนวทางการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนอย่างเข้มข้น เน้นมาตรการบังคับใช้กฎหมายและมาตรการเชิงรุกในพื้นที่ สร้างความปลอดภัยในการสัญจรให้กับนักท่องเที่ยวและประชาชน

นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กล่าวว่า สถานการณ์อุบัติเหตุทางถนนของไทยกับค่าเป้าหมาย ตามแผนแม่บทความปลอดภัยทางถนน พ.ศ.2565-2570 เป็นกรอบแนวทางการดำเนินงานให้หน่วยงานทุกภาคส่วนในการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน โดยกำหนดค่าเป้าหมายตัวชี้วัดระดับผลลัพธ์ภายในปี พ.ศ.2570 ประกอบด้วย

  1. ลดจำนวนผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนเหลือ 8,474 คน หรือ 12 คนต่อแสนประชากร
  2. ลดจำนวนผู้บาดเจ็บสาหัสจากอุบัติเหตุทางถนนเหลือ 106,376 คน

นายไชยวัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของแผนบูรณาการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลและช่วงวันหยุด พ.ศ.2567 ที่ประชุมเห็นชอบในการใช้เป็นกรอบแนวทางการดำเนินงานในช่วงเทศกาลและช่วงวันหยุด โดยมีข้อสรุปสาระสำคัญ คือการรณรงค์ภายใต้หัวข้อ “ขับขี่ปลอดภัย เมืองไทยไร้อุบัติเหตุ” โดยกำหนดตัวชี้วัดการดำเนินงาน แบ่งเป็น 3 ระดับ ได้แก่ ระดับภาพรวม ระดับหน่วยงาน และระดับพื้นที่

สำหรับการดำเนินการช่วงเทศกาลปีใหม่ และช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ.2567 จะมีมาตรการดำเนินการ 5 มาตรการ ได้แก่

1.ด้านการบริหารจัดการ โดยจัดตั้งศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลทุกระดับ มาตรการลดปัจจัยเสี่ยงโดยใช้แนวทางการจัดทำ ‘ประชาคมชุมชน/หมู่บ้าน’ และการจัดกิจกรรมทางศาสนา ‘1 อำเภอ 1 กิจกรรม’

2.ด้านลดปัจจัยเสี่ยงด้านถนนและสภาพแวดล้อม กำหนดให้ถนนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกเส้นทางเป็นถนนปลอดภัย แก้ปัญหาการเกิดอุบัติเหตุบริเวณทางร่วม และทางแยก

3.ด้านลดปัจจัยเสี่ยงด้านยานพาหนะ กำกับ ควบคุม ดูแลรถโดยสารสาธารณะ ให้ปฏิบัติตามระเบียบกฎหมายอย่างเคร่งครัด

4.ด้านผู้ใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัย รณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้ความรู้เกี่ยวกับมาตรการทางกฎหมาย

5.ด้านการช่วยเหลือหลังเกิดอุบัติเหตุ จัดเตรียมความพร้อมของโรงพยาบาล แพทย์ พยาบาล และหน่วยบริการการแพทย์ฉุกเฉิน

แพทย์หญิงศิริรัตน์ สุวรรณฤทธิ์ ผู้อำนวยการกองป้องกันการบาดเจ็บ ผู้แทนกรมควบคุมโรค กล่าวว่า จากข้อมูลจำนวนและอัตราการเสียชีวิตจากการจราจรทางถนน เดือนมกราคม-กันยายน 2566 มีผู้เสียชีวิตทางถนน จำนวน 12,730 ราย คิดเป็นร้อยละ 19.54 ต่อประชากรแสนคน หากเปรียบเทียบปีที่ผ่านมาในช่วงเวลาเดียวกันมีผู้เสียชีวิตลดลง 80 ราย

ในส่วนของข้อมูลผู้ขับขี่ที่ดื่มแล้วขับจากระบบเฝ้าระวังการบาดเจ็บกระทรวงสาธารณสุข ปี 2561-2565 ยังคงมีอัตราส่วนคงที่ อยู่ในช่วงร้อยละ 20.84-22.28 โดยช่วงเวลาตั้งแต่ 00.00-23.00 น. และ 18.00–23.00 น. มีผู้บาดเจ็บจากการดื่มแล้วขับคิดเป็นร้อยละ 71 ของทั้งหมด

สำหรับอัตราการสวมหมวกนิรภัยและอัตราการบาดเจ็บศีรษะในกลุ่มผู้ใช้จักรยานยนต์ ปี 2560-2566 พบว่าอยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างต่ำ คำนวนจากผู้บาดเจ็บและเข้ารับการรักษา โดยผู้บาดเจ็บและเข้ารับการรักษาที่สวมหมวกนิรภัย คิดเป็นร้อยละ 15.94-18.1 เปรียบเทียบกับผู้ที่ไม่สวมหมวกมีอัตราบาดเจ็บ คิดเป็นร้อยละ 45 จากทั้งหมด

Related Posts

Send this to a friend