POLITICS

‘พริษฐ์‘ แจง ไม่เห็นด้วยเพื่อไทยเพิ่ม สสร. ที่ไม่ได้มาจากประชาชนหวั่น ถูกผูกขาด

‘พริษฐ์‘ ยัน โหวตตามร่างหลักของ ปชน. แจง ไม่เห็นด้วยเพื่อไทยเพิ่ม สสร. ที่ไม่ได้มาจากประชาชนหวั่น ถูกผูกขาด พร้อมเดินหน้าถกเกณฑ์ กมธ. ยกร่าง ย้ำ ต้องเปิดสมัยประชุมวิสามัญ

วันนี้ (13 พ.ย. 68) นายพริษฐ์ วชิรสินธุ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมลงมติ ในที่ประชุมคณะกรรธิการแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งพรรคประชาชนตัด สสร. ทิ้ง ว่า พรรคประชาชนยืนยัน และลงมติสนับสนุนร่างหลักของพรรคประชาชนตามที่เสนอเข้ามาทุกประการ ซึ่งพรรคประชาชนพยายามออกแบบกลไกให้มีส่วนร่วมกับประชาชนให้ได้มากที่สุด โดยไม่ขัดคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ

นายพริษฐ์ กล่าวว่า พรรคประชาชนจึงเสนอ 2 กลไกขึ้นมา โดยส่วนแรกจะเป็นการเลือกกรรมาธิการยกร่าง ซึ่งจะมาจากสมาชิกรัฐสภา โดยที่ประชุมมีมติเสียงข้างมากเห็นชอบ ขณะที่พรรคเพื่อไทย มีการเสนอ สสร. เข้ามาคั่นกลาง ก่อนเลือก กมธ. ยกร่าง แต่เป็น สสร. ที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งของประชาชนโดยตรง เราจึงเห็นว่าควรคงไว้ตามร่างเดิมของพรรคประชาชน เพราะการเพิ่ม สสร. ที่ไม่ได้มาจากประชาชนเลือกตั้งโดยตรงเข้ามา อาจทำให้ผู้ร่างกับกับประชาชน มีระยะห่างมากขึ้น และกังวลว่าการเพิ่มสสร. ที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งของประชาชน อาจทำให้ กมธ. ยกร่าง ถูกผูกขาดจากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง หรือสีใดสีหนึ่ง ดังนั้น เรายืนยันว่าข้อเสนอของ กมธ. เสียงข้างมากลงมติไม่ให้เพิ่มเข้ามา คือไม่ให้เพิ่ม สสร. ที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งของประชาชน และให้คงไว้ซึ่งกลไกตามร่างประชาชน การไปพาดหัวข่าวว่าตัดสสร. ออกไม่เป็นไปตามข้อเท็จจริง

ส่วนกลไกที่สองคือสภาที่ปรึกษารับฟังความเห็น มีแค่ กมธ. ในสัดส่วนของพรรคประชาชน 8 คนให้คงไว้ซึ่งสภาที่ปรึกษาฯ ที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชน แต่เสียงข้างมาก เห็นว่าให้ตัดสภาที่ปรึกษาฯ ออกไป เนื่องจากมีความกังวลว่าอาจขัดต่อคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ

“พรรคประชาชน ลงมติยืนยันตามร่างของพรรคประชาชนทุกประการ เรื่องแรกเราอยู่มนเสียงข้างมาก ที่เห็นว่าไม่ควรมีการเพิ่ม สสร. ที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งของประชาชน เพราะเป็นการเพิ่มระยะห่าง ระหว่างประชาชน อย่างที่สองเราลงมติยืนยันให้มีสภาที่ปรึกษาที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชน แต่กรรมาธิการจากพรรคอื่น และวุฒิสภาลงมติตัดกลไกเดียวที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชนออก” นายพริษฐ์ กล่าว

นายพริษฐ์ กล่าวว่า วันนี้จะมีการพิจารณาในมาตรา 256/5 ถึงเกณฑ์การคัดเลือก กมธ. ยกร่าง ซึ่งพรรคประชาชนได้เสนอสูตร 20 หยิบ 1 คือนำสมาชิกรัฐสภา 700 คนมาหารด้วย กมธ.ยกร่าง 35 คน หาก สส. สว. รวมตัวกันมา 20 คน ก็จะเสนอ กมธ. ได้ 1 คน ซึ่ง จะไปหลักประกันว่ากมธ. ยกร่าง จะไม่ถูกผูกขาดโดยฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ซึ่งคาดว่าจะมีข้อสรุปในวันนี้ และเห็นว่าทุกพรรคอาจเห็นตรงกันในประเด็นนี้

ส่วนโมเดลเช่นนี้ จะไม่ไปถูกบล็อกในวาระ 2 ของการพิจารณาใช่หรือไม่ นายพริษฐ์ กล่าวว่า เป็นอีกขั้นตอนหนึ่งที่ต้องไปต่อสู้ แต่ตอนนี้ต้องต่อสู้ในชั้น กมธ. ให้ได้มากที่สุด ซึ่งเราพยายามโน้มน้าว กมธ. คนอื่นอย่างเต็มที่ ให้เห็นด้วยกับข้อเสนอของพรรคประชาชน แต่เมื่อเห็นต่างกันก็ต้องพยายามหาทางออก เพื่อคงไว้ซึ่งฉันทามติของรัฐสภา

เมื่อถามว่าจะไม่เป็นหลุมลวง ให้กลับไปใช้ร่างของพรรคภูมิใจไทยใช่หรือไม่ นายพริษฐ์ ระบุว่า สองร่างมีความแตกต่างกันในหลายประเด็น ต้องอธิบายกันไปทีละประเด็น

ส่วนที่นายกรัฐมนตรีบอกว่า จะมีการเปิดประชุมวิสามัญนั้น นายพริษฐ์ กล่าวว่า ก็ต้องเป็นไปตามนั้น หากตามเงื่อนไขการยื่นซักฟอกมาตรา 151 ของพรรคประชาชน คือเราจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจถ้าเกิดถ้าเกิดการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญไม่เสร็จภายในสิ้นปี โดยมีความจำเป็นต้องเปิดสมัยประชุมวิสามัญในวาระ 2 ก่อนวันที่ 12 ธันวาคม ซึ่งยืนยันว่าจะต้องมีการเปิดสมัยประชุมวิสามัญ ซึ่งกรรมาธิการ จะหาข้อสรุปส่งรายงาน และบรรจุสู่ระเบียบวาระได้ทัน

เมื่อถามว่า โมเดลออกมาแบบนี้ ถือว่าผิด MOA หรือไม่ นายพริษฐ์ กล่าวว่า เราต้องทำเต็มที่เพื่อปกป้องร่างของพรรคประชาชน หากมีประเด็นไหนที่เห็นต่าง 2 หลักการที่เรายึดถือคือป้องกันการผูกขาด และการมีส่วนร่วมของประชาชน ท้ายที่สุดร่างจะออกมาอย่างไร กมธ. ทุกคน ก็ต้องตระหนักว่าร่างที่ออกมา ต้องเป็นฉันทามติของสภา และต้องตอบโจทย์ความต้องการของประชาชน

Related Posts

Send this to a friend