POLITICS

เป็นไปด้วยดี! ‘โรม’ เผย หลังพา กมธ.ความมั่นคงฯ เข้าหารือ ผบ.ตร.

เป็นไปด้วยดี! ‘โรม’ เผย หลังพา กมธ.ความมั่นคงฯ หารือ ผบ.ตร. แก้ปัญหายาเสพติด – ส่วยรถบรรทุก และช่วยคนไทยในเล้าก์ก่าย

วันนี้ (13 พ.ย. 66) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดน ยุทธศาสตร์ชาติ และการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร และคณะ พร้อมด้วย พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ภายหลังร่วมหารือในหลายประเด็น

นายรังสิมันต์ เปิดเผยว่า เป็นการพูดคุยกันที่ดีมาก และเป็นการเริ่มต้นที่ดีสำหรับ กมธ.ความมั่นคงฯ ของเรา ที่จะต้องขอความช่วยเหลือจากตำรวจอีกหลายเรื่อง โดยเราได้เห็นภาพรวมของการทำงานด้านความมั่นคงของ ตร. ซึ่งคณะ กมธ. ได้มีคำถาม หรือข้อเสนอแนะว่ามีเรื่องใดที่จะให้ กมธ. ช่วยในฐานะฝ่ายนิติบัญญัติ เช่น การพิจารณางบประมาณ

นอกจากนี้ เรายังได้ติดตามคดีของ นายอุปกิต ปาจรียางกูร สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ที่ได้รับแจ้งว่า กองบังคับการปราบปรามยาเสพติด 3 เป็นหน่วยงานรับผิดชอบ ที่จะต้องประสานไปยังสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.) และสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) เพื่อตรวจสอบรายละเอียดทรัพย์สิน เพื่อเตรียมยึดทรัพย์ต่อไป

ขณะที่ภารกิจการช่วยเหลือคนไทยออกจากพื้นที่สู้รบ ในเล้าก์ก่าย ประเทศเมียนมานั้น เราได้มีการติดตาม และประสานงานกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่าเบื้องต้นในวันที่ 16 พ.ย. นี้ ตร.ต้องส่งผู้เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้โดยตรงมาพูดคุยต่อไป พร้อมยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่ใช่การมาตรวจสอบหรือจับผิดกัน แต่หลักการอยู่ที่การช่วยเหลือคนไทยออกมาให้ได้ เพราะสถานการณ์ในเมียนมาขณะนี้ ค่อนข้างน่าหนักใจ ซึ่ง ผบ.ตร.มีแนวทางว่าเราจำเป็นต้องร่วมมือกับประเทศอื่น เพื่อช่วยเหลือคนไทยต่อไป ถือเป็นทิศทางที่ดี และขอให้มั่นใจว่าเราพยายามทำทุกวิถีทาง บูรณาการความร่วมมือทุกฝ่ายในการช่วยเหลือกลับมาสู่มาตุภูมิได้อย่างปลอดภัย

สำหรับเรื่องยาเสพติด เราได้รับข้อมูลว่า ยาเสพติดถือเป็นภารกิจสำคัญของเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ต้องยอมรับว่าไม่ใช่เรื่องง่าย ส่วนหนึ่งพบว่าเป็นปัญหาเรื่องข้อจำกัดในเรื่องกำลังพล และทรัพยากร รวมถึงได้สอบถามถึงข้อมูลส่วนบุคคลและประวัติอาชญากรรมที่หลุดออกไป ซึ่งจะต้องมีการสอบสวนต่อไปว่าเกิดจากสาเหตุใด

อย่างไรก็ดี เชื่อว่า การทำงานในอนาคตคงจะเห็นประโยชน์อย่างแน่นอน และจะทำให้ปัญหาของประชาชนที่มีอยู่ถูกแก้ไขโดยเร็วที่สุด

ส่วนการจัดการปัญหาส่วย ก็ได้รับคำชี้แจงว่า เรื่องการบรรทุกน้ำหนักเกินเป็นไปตามที่ปรากฏในข่าว ส่วนการตั้งคณะกรรมการสอบสวนต้องรอรายละเอียดเพิ่มเติมอีกครั้ง

ด้าน พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวว่า กระบวนการดำเนินคดีเป็นความรับผิดชอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาล เอาผิดตาม พ.ร.บ. จราจรทางบก ซึ่งมี พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. ดูแลในเรื่องนี้อยู่ ส่วนประเด็นเจ้าหน้าที่รัฐมีส่วนในการเรียกรับผลประโยชน์หรือไม่นั้น ได้มอบหมายให้ทางสำนักงานจเรตำรวจแห่งชาติเป็นผู้กำกับดูแล เบื้องต้นทาง กทม. ตรวจสอบยังไม่พบ แต่ในส่วนของตำรวจ เราจะลงรายละเอียดถึงเส้นทางการเงิน หากพบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้อง ก็ต้องว่าไปตามพยานหลักฐาน เพราะอาชญากรรมทิ้งร่องรอยเสมอ ซึ่งเรื่องนี้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้กำชับให้ทำงานอย่างเป็นรูปธรรม

สำหรับความคืบหน้ากรณีรถบรรทุกน้ำหนักเกินในพื้นที่ สน.พระโขนง ทางสำนักงานจเรตำรวจแห่งชาติจะรายงานเพิ่มเติมเข้ามาช่วงบ่ายวันนี้ ยืนยันทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย พยานหลักฐานต้องชัดเจน โดยย้ำว่า กรณีที่เกิดขึ้นไม่จำเป็นต้องมีเรื่องส่วยเข้ามาเกี่ยวข้องเสมอไป ต้องมองสองเรื่องแยกออกจากกัน เพราะหากไม่ผิดเรื่องส่วย ก็ยังถือว่าผิด พ.ร.บ.จราจรทางบก

ทั้งนี้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ย้ำว่า ได้พูดคุยกับประธานคณะกรรมาธิการฯ ทุกเรื่อง การมาของคณะกมธ.ความมั่นคงฯ ในวันนี้ไม่ได้มีการจับผิดแต่อย่างใด แต่นายรังสิมันต์ เป็นคนที่เข้าใจปัญหาในวงการตำรวจหลายเรื่อง และต้องการที่จะเข้ามาเป็นกระบอกเสียงช่วยแก้ปัญหาให้กับประชาชน

Related Posts

Send this to a friend