‘เสรีพิสุทธ์’ มองศาลบิดเบือนทางอื่นไม่ได้ รธน. เขียนหมดวาระนายกฯ ไว้ชัดเจน
เสรีพิสุทธ์’ มองศาลบิดเบือนทางอื่นไม่ได้ รัฐธรรมนูญเขียนหมดวาระนายกฯ ไว้ชัดเจน ซัด ‘มีชัย-วิษณุ-ประยุทธ์’ ต้องมีส่วนรับผิดชอบต่อสังคม
วันนี้ (13 ก.ย. 65) พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวช สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) แบบบัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญ อยู่ระหว่างขั้นตอนการพิจารณาคำร้องให้วินิจฉัยการสิ้นสุดลงของวาระดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา
พล.ต.อ. เสรีพิสุทธ์ กล่าวว่า ผมพูดตั้งแต่การอภิปรายไม่ไว้วางใจแล้วว่า สถานะของ พล.อ. ประยุทธ์ ขณะนี้คือครบการดำรงตำแหน่งความเป็นนายกรัฐมนตรี 8 ปีแล้ว ซึ่งตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 158 จะต้องเป็นนายกได้ไม่เกินกรอบเวลาที่กำหนด ไม่ได้ระบุว่ากี่ครั้ง ฉะนั้น ก็ต้องนับรวมทั้งหมด
ขณะที่มาตรา 264 ระบุชัดเจนว่าคณะรัฐมนตรี ที่สืบเนื่องตั้งแต่ช่วงเวลาก่อนหน้ามีผลต่อเนื่องจนถึงรัฐธรรมนูญ 2560 โดยขอให้มองเพียง 2 มาตรานี้เท่านั้น ไม่จำเป็นที่จะต้องตีความหรือยกประเด็นอื่นแทรกเข้ามาเพราะจะทำให้ประชาชนเกิดความสับสน
พล.ต.อ. เสรีพิสุทธ์ ยังมองว่า นายมีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ที่เป็นผู้ยกร่างรัฐธรรมนูญก็ต้องมีส่วนรับผิดชอบด้วย เพราะถูกจ้างให้มาร่างรัฐธรรมนูญ และยังมีผลประโยชน์จากเบี้ยการประชุมอีก แล้วเขียนรัฐธรรมนูญออกมาเช่นนี้ ก็ไม่ควรอ้างเรื่องของการประชุมว่าเป็นเพียงการหารือในที่ประชุมไม่ใช่มติ
รวมถึง นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ที่ออกมาพูดทำให้ประชาชนเกิดความสับสน ส่วน พล.อ. ประยุทธ์ ก็ต้องมีความรับผิดชอบต่อตัวเองและสังคม ละอายต่อความผิดบ้าง เพราะหาก พล.อ. ประยุทธ์ อยู่ต่อบ้านเมืองก็จะเกิดวิกฤตได้ แต่หากลาออกในตอนนี้ก็ไม่น่าอายเท่าถูกศาลวินิจฉัยให้ออกจากตำแหน่ง
ทั้งนี้ พล.ต.อ. เสรีพิสุทธ์ ยังเชื่อว่าศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยอย่างตรงไปตรงมา เพราะทุกอย่างถือว่ามีความชัดเจนและสังคมก็รับรู้ จะตีความอย่างไรนั้นศาลก็คงบิดเบือนไปทางอื่นไม่ได้












