พปชร. ขอบคุณและชื่นชมแพทยสภา พิจารณาตรงไปตรงมา ถือหลักการความถูกต้อง

พปชร. ขอบคุณและชื่นชมแพทยสภา พิจารณาตรงไปตรงมา ถือหลักการความถูกต้อง จ่อเตรียมข้อมูลนายกฯ เดินทางไปอังกฤษ ใช้งบไม่เหมาะสม และโยกงบฯ ขัด รัฐธรรมนูญ มาตรา 144 มาดำเนินการต่อ
วันนี้ (13 มิ.ย. 68) พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย โฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ตามที่คณะกรรมการแพทยสภาได้ประชุมพิจารณาการยับยั้งมติแพทยสภาของสภานายกพิเศษ มีมติด้วยคะแนนเสียงเกินกว่า 2 ใน 3 ของคณะกรรมการที่มีสิทธิลงคะแนนทั้งคณะ ยืนยันตามมติเดิมเมื่อวันที่ 8 พ.ค. 68 โดย มีกรรมการเข้าร่วมประชุม 68 คน จากกรรมการที่มีสิทธิลงคะแนนเสียง 69 คน และกระบวนการต่อไปแพทยสภาจะออกคำสั่งบังคับตามมติต่อไปอย่างเป็นทางการ
กรณีนี้ต้องขอขอบคุณและชื่นชมคณะกรรมการแพทยสภาที่พิจารณาอย่างตรงไปตรงมา ถือหลักการความเป็นจริง ความถูกต้อง มากกว่าประโยชน์ของคนบางคน โดยเฉพาะคำกล่าวของ ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกฯ ที่อยากให้แพทย์สภาดำรงไว้ซึ่งความถูกต้องรักษาไว้ซึ่งจรรยาบรรณวิชาชีพ และวันนี้กรรมการแพทยสภาได้ทำสิ่งเหล่านี้แล้ว ขอส่งเหล่านี้ส่งกลับ กำลังใจที่ส่งมาได้ส่งผลแล้ว ขั้นต่อไปเหลือเพียงรอผลการแจ้งผลการพิจารณาอย่างเป็นทางการไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
พล.ต.ท.ปิยะ กล่าวว่า จากการพิจารณาของแพทยสภาเป็นการตอกย้ำแสดงให้เห็นว่า นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี “ป่วยทิพย์” ไม่ได้ป่วยในภาวะวิกฤติที่ต้องรับการรักษาตัวนานถึง 180 วัน จะทำให้การส่งตัวมารับการรักษา การควบคุมตัวของเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ช่วงเวลาดังกล่าว ตลอดจนการรับโทษจำคุก 180 วัน เป็นไปโดยผิดกฎหมาย และถือว่าไม่มีการควบคุมตัวมาก่อน ทำให้ขาดคุณสมบัติในการขอพระราชทานอภัยโทษ 1 ปีที่เหลือ
ผลการพิจารณายังส่งผลกระทบถึง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เนื่องจากนายกฯ เข้าเยี่ยมและให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนถึงอาการป่วยของนายทักษิณเพื่อให้ประชาชนและศาลฯ หลงเชื่อว่านายทักษิณมีอาการป่วยหนักจริง ตลอดจนการให้สัมภาษณ์ของ นายดนุพร ปุณณกันต์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ที่บอกว่าได้รับแจ้งอาการป่วยจากหัวหน้าพรรค ก็คือ ตัวนายกฯเองว่า นายทักษิณฯ ป่วยเส้นเอ็นเปื่อยยุ่ย ซึ่งเป็นข้อมูลเท็จหลอกลวงประชาชน และศาลฎีกาแผนกคดีอาญา ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
กรณีนี้หากมีผู้ร้องเรียน นายกฯ อาจต้องถูกดำเนินคดีด้วย ขณะนี้พรรค พปชร. จะคอยมอนิเตอร์ คาดว่า ปปช. และศาลฎีกาฯ คงจะมีมาตรการ คำสั่ง และคำพิพากษา ไปในทิศทางเดียวกันกับแพทยสภา เพราะมีองค์กรวิชาชีพได้ดำเนินการสอบสวนและตัดสินเบื้องต้นเป็นแนวทางแล้ว
“กรณีท่านนายกฯ เดินทางไปราชการเกี่ยวกับเปิดช่องทางการค้าอียูที่ประเทศอังกฤษ ทั้ง ๆ ที่ประเทศอังกฤษได้ออกจากอียู หรือเบร็กซิทเกิดขึ้นอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 31 มกราคม 2563 แล้ว โดยใช้งบประมาณทางราชการกว่า 200 ล้านบาทว่าเป็นการใช้งบประมาณซึ่งเป็นภาษีของประชาชนอย่างเหมาะสมหรือไม่ และกรณีการโยกงบประมาณฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ มาตรา 144 ยังเป็นประเด็นที่ พปชร.ให้ความสนใจ และเตรียมคณะทำงานเพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อดำเนินการต่อไป“ พล.ต.ท.ปิยะ กล่าว