POLITICS

ประชุมกมธ.กัญชา-กัญชง นัดแรก เลือก ‘ศุภชัย ใจสมุทร’ นั่งประธาน

กมธ.กัญชา-กัญชง นัดแรก เลือก ‘ศุภชัย’ นั่งประธาน ยืนยัน พิจารณารอบคอบ เร่งผลักดันให้เกิดประโยชน์กับประชาชนสูงสุด

ที่อาคารรัฐสภา วันนี้ (13 มิ.ย. 65) มีการประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติกัญชา กัญชง นัดแรก เพื่อเลือกประธานกรรมาธิการฯ และตำแหน่งต่างๆ ตามข้อบังคับ รวมถึงกำหนดกรอบการพิจารณา และแนวทาง ทั้งนี้ ที่ประชุมมีมติเลือก นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคภูมิใจไทย เป็นประธานกรรมาธิการฯ โดยมีรองประธานกรรมาธิการประกอบด้วย

  • นางพรรณสิริ กุลนาถศิริ ส.ส.สุโขทัยพรรคพลังประชารัฐ
  • นายอนันต์ ศรีพันธุ์ ส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย
  • ศ.กนก วงษ์ตระหง่าน ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์
  • นายธงชัย กีรติหัตถยากร รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข

นายศุภชัย ยืนยันว่าจะทำหน้าที่พิจารณาร่างกฎหมายอย่างรอบคอบ เพื่อให้เกิดประโยชน์กับประชาชนมากที่สุด และทำให้ประชาชนมั่นใจต่อการปลดล็อกพืชกัญชาครั้งนี้ เพราะเป็นเรื่องที่สังคมกำลังจับจ้องอยู่ตลอดเวลา

จากนั้นที่ประชุมได้มีการอภิปรายแสดงความคิดเห็น ต่อพืชกัญชาและกัญชง หลังมีการปลดล็อกอย่างเป็นทางการ โดย ศ.กนก วงษ์ตระหง่าน ในฐานะรองประธานกรรมาธิการ มองว่าพืชกัญชาและกัญชงเป็นพืชเศรษฐกิจที่มีความสำคัญต่อการฟื้นตัวของประเทศ โดยเฉพาะการสร้างรายได้ แต่การให้กัญชาและกัญชงเป็นพืชเศรษฐกิจ จะต้องไม่เป็นประโยชน์เฉพาะคนบางกลุ่มเท่านั้น ควรส่งเสริมและเปิดโอกาสให้เกษตรกรฐานรากได้รับประโยชน์จากพืชเศรษฐกิจชนิดนี้ อย่างเต็มที่ ไม่ปล่อยให้กลุ่มทุนใหญ่ได้ผลประโยชน์เพียงฝ่ายเดียว เพราะจะเป็นการสร้างความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ รวมถึงควรมีมาตรการที่ชัดเจน ให้เยาวชนได้รับความปลอดภัยซึ่งเป็นอีกหัวใจของการพิจารณาร่างกฎหมาย

ส่วนเรื่องสันทนาการที่มีความเป็นห่วงว่าจะส่งผลต่อกลุ่มเยาวชนนั้น เห็นว่าในข้อเท็จจริงวันนี้หลายพื้นที่ หรือบางเวลา มีการใช้กัญชา กัญชงอยู่แล้ว จึงเสนอว่าเพื่อประโยชน์ทางการท่องเที่ยวควรยกเว้นให้เฉพาะบางพื้นที่เช่น กิจกรรมฟูลมูนปาร์ตี้ ที่ เกาะพงัน จ.สุราษฎร์ธานี หรืออย่างที่ จ.ภูเก็ต เป็นที่รู้กันอยู่แล้วว่าใช้เต็มไปหมดเพียงแต่ไม่จับกันเท่านั้นเอง ดังนั้นก็ควรทำให้ถูกต้องตรงไปมา

“ถ้าให้เขาใช้เต็มที่ไปเลยวันเดียวผมคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไรมากมายนักจึงขอเสนอไอเดีย กำหนดเป็นพื้นที่เฉพาะในบางเวลา เพื่อประโยชน์ในการสันทนาการและการท่องเที่ยว” ศ.กนก กล่าว

ด้าน นางพรรณสิริ กุลนาถศิริ รองประธานกรรมาธิการ มองว่าเวลานี้ ควรให้ความสำคัญและส่งเสริมกัญชาทางการแพทย์และการดูแลเป็นหลัก เพื่อไม่ให้เกิดความสับสน เพราะสังคมตั้งคำถามมากมายต่อการปลดล็อกพืชกัญชา ส่วนตัวมองว่าการพูดเพียงปลดล็อกกัญชา เป็นเรื่องที่น่าตกใจ และเป็นคำที่มีผลกระทบมากมายต่อสังคม ทำให้สังคมลืมวัตถุประสงค์ทางด้านการแพทย์

นอกจากนี้สังคมยังไม่ได้ให้ความสำคัญกับการปลดล็อกกัญชง ทั้งที่มีการใช้ประโยชน์จากเส้นใย ในการทำผลิตภัณฑ์ต่างๆ อีกทั้งยังมีสาร CBD ที่เป็นประโยชน์ ควรที่จะผลักดันในทางเศรษฐกิจให้มีความชัดเจน

นางพรรณสิริ กล่าวว่า ควรมีการกฎหมาย ขึ้นมาสร้างความสมดุลระหว่างการนำไปใช้ ประโยชน์กับการควบคุมป้องกันไม่ให้ใช้ในทางที่ผิด ไม่ให้ ส่งผลกระทบต่อเด็กและเยาวชน และทำให้สังคมมีจุดยืน ต่อการใช้ประโยชน์จากกัญชาและกันชงที่ชัดเจน

ขณะที่ นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกกรรมาธิการ มองว่าความกังวล ที่เกิดขึ้นในช่วงสุญญากาศ เวลานี้ อีกด้านหนึ่งก็ทำให้เห็นประโยชน์ จากความพยายามของประชาชน ที่ต้องการเข้าถึง ระบบจดแจ้งของกระทรวงสาธารณสุข มากถึงกว่า 30 ล้านครั้ง และมีการ นำต้นกัญชาออกมาปลูกอย่างเปิดเผย แสดงให้เห็นว่าคนไทย มีการปลูกพืชกัญชาอยู่แล้วจำนวนมาก เพียงแต่ที่ผ่านมากลับไม่มีการยอมรับความจริง

นอกจากนี้ยังพบว่า ปัจจุบันประชาชนยังไม่เข้าถึงข้อมูลของรัฐ โดยเฉพาะข้อมูลตำราทางการแพทย์ต่างๆ ที่จะสามารถใช้ประโยชน์จากพืชกัญชาได้ ส่วนการสูบกัญชา ในทางแพทย์แผนไทย พบว่าเป็นวิธีการรักษา และบำบัดอย่างหนึ่ง ตามภูมิปัญญาดั้งเดิมของคนไทยที่มีการใช้กัญชาเป็นวัฒนธรรมและจากข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ ยังไม่ปรากฎว่ากัญชาจะเป็นสารที่สามารถก่อมะเร็งได้ แต่พบข้อมูลการก่อมะเร็งจากการเผาไหม้เท่านั้น

Related Posts

Send this to a friend