POLITICS

‘กฤษดิ์‘ แถลงเหตุย้ายซบ ’กล้าธรรม’ จุดแตกหัก ปชน.เน้นสร้างพรรค ไม่เน้นสร้างคน

‘กฤษดิ์‘ แถลงเหตุย้ายซบ ’กล้าธรรม’ จุดแตกหัก ปชน.เน้นสร้างพรรค ไม่เน้นสร้างคน บอกไปอยู่กับ ’ธรรมนัส‘ เพราะช่วยแก้ไขปัญหาให้ชาวชลบุรีตลอด แจงดราม่าเช็ดรองเท้า ซึ้งจริงเดินหาเสียงคนเดียว ‘ธนาธร’ มาแค่ครึ่งชั่วโมง ลั่น ไม่ลาออก สส.กลัวเปลืองงบแผ่นดิน ประชาชน บุกสภาฯ ท้าให้ลาออกเลือกตั้งใหม่

วันนี้ (13 พ.ค. 68) นางสาวกฤษฎิ์ ชีวะธรรมานนท์ สส.ชลบุรี เขต 6 พรรคประชาชน แถลงข่าวประเด็นประกาศแยกทางกับพรรคประชาชน เตรียมย้ายซบพรรคกล้าธรรม ณ ห้องแถลงข่าว อาคารรัฐสภาว่า ตนเองลำบากใจที่จะมาขอยุติบทบาทกับพรรคประชาชน ตนเองไม่อยากที่จะไปทำงานร่วมกับพรรคอื่นแล้วสังกัดอยู่ในพรรคเดิม อย่างนั้นคือ ‘งูเห่า’ ชัดเจน วันนี้ที่ทำงานกับพรรคประชาชนไม่ได้เพราะอุดมการณ์และแนวทางการทำงานต่างกัน ตนเองกล้าที่จะออกมาพูดว่า ขอให้พรรคขับตนเองออก เนื่องจากได้ยื่นหนังสือให้กับพรรคตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมาแล้ว

สาเหตุที่เลือกแถลงหลังวันที่ 11 พฤษภาคม 2568 เพราะตนเองสนับสนุนทีมเลือกตั้งเทศบาล ไม่อยากให้เรื่องส่วนตัวมากระทบกับพรรค ส่วนสาเหตุที่ยุติบทบาท เนื่องจากพรรคมีเป้าหมายเน้นสร้างพรรค ไม่ได้เน้นสร้างคน เรื่องที่พรรคสนใจแก้ปัญหาการทำงานจึงเป็นประเด็นการสร้างกระแส สร้างความนิยมให้กับพรรคเป็นหลัก โดยไม่ได้มุ่งเน้นผลประโยชน์ประชาชน ทำให้ตนเองไม่สามารถแก้ปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนได้

ตนเองเป็น สส.เขต เป้าหมายสำคัญที่สุดคือ การแก้ปัญหาในพื้นที่ การผลักดันเรื่องที่เป็นปัญหาในพื้นที่เข้าสู่พรรค แต่ก็ไม่เคยได้รับการสนับสนุนอย่างที่ควร ทำให้ตนเองไม่สามารถร่วมงานกับพรรคได้ มีการพูดไม่ให้เกียรติ ไม่เคารพในสถานะทางเพศมีการปล่อยข่าวเรื่อย ๆ ว่าตนเองเป็นงูเห่า ทุกครั้งที่จะมีการเปลี่ยนแปลงของพรรค ทั้งการยุบพรรค หรืออะไรก็แล้วแต่ ทำให้ประชาชนในเขตต้องโทรมาหาทุกครั้งว่า ตนเองเป็นอย่างนั้นหรือไม่ แต่เวลาก็พิสูจน์แล้วว่าตนเองไม่ได้เป็นเช่นนั้น ตนเองเสียใจที่ต้องมายุติบทบาทในวันนี้

โดยประชาชนที่มาร่วมรับฟังแถลงข่าว ได้กล่าวว่า ”แน่จริงก็ลาออก ลองลงสมัครรับเลือกตั้งโดยไม่สังกัดพรรคที่คุณอยู่ พรรคประชาชนไม่ใช่ที่ที่จะให้คุณมาชุบตัว คุณเป็นงูเห่า“

นางสาวกฤษฎิ์ จึงกล่าวว่าขอให้อยู่ในความสงบ แล้วค่อยคุยกัน ถ้าไม่มีอะไรอย่าส่งเสียง ก่อนจะกล่าวต่อว่าเป้าหมายในการทำงานของตนเองตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ไม่เคยเปลี่ยนแปลง ดูในเพจเฟซบุ๊กของตนเองได้ ส่วนที่ว่าทำไมถึงไม่ลาออก เพราะการลาออกจะทำให้สิ้นเปลืองงบประมาณ ต้องเลือกตั้งใหม่ หรือต้องทำเพื่อความสะใจเพื่อ ทำให้ตนเองเท่ แต่มันไร้สาระ เพราะตนเองต้องการทำหน้าที่ สส.ตามที่ประชาชนคาดหวัง ประชาชนในพื้นที่ไม่ได้มีปัญหากับตนเอง ขอให้ลองไปสอบถามคนที่ติดตามการทำงานของตนเองดูว่าเป็นอย่างไร

สำหรับประเด็นแตกหัก นอกจากปัญหาการทำงานในส่วนจังหวัดที่มีปัญหามาโดยตลอดแล้ว ยังมีเรื่องร้องเรียนที่ตนเองร้องเรียนไปที่พรรค แต่ไม่ได้รับการแก้ไขปัญหาตามกระบวนการและขั้นตอน การทำงานในสภาฯ การยื่นประเด็นไม่ได้รับการตอบรับให้ตั้งเป็นประเด็นในคณะกรรมาธิการฯ สุดท้ายที่เป็นประเด็นแตกหักคือ ตนเองอภิปรายขอบคุณพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่เสด็จฯ ไปทรงสร้างอ่างเก็บน้ำบนเกาะสีชัง ทั้งนี้ตนเองได้ขออนุญาตเป็นตัวแทนราษฎรในการเข้าเฝ้า และขอให้กระทรวงมหาดไทยทำงบประมาณเพื่อวางท่อประปาต่อน้ำจากเกาะสีชังเพื่อไปยังอ่างเก็บน้ำ แต่เมื่อตนเองหารือจบก็มี สส.ท่านหนึ่งมาต่อว่าว่า เหมาะสมหรือไม่ที่พูดเช่นนี้

ตนเองจึงยืนยันว่าเหมาะสม เรื่องนี้เป็นผลกระทบกับตนเองตลอดมา พรรคมีการต่อว่าเนื่องจากเป็นเพื่อน สส.ส่วนมากไม่พอใจกับการที่ตนเองหารือในวันนั้น เพื่อน สส.ไม่กล้าคุยด้วยนาน ๆ เพราะกลัวว่าจะเป็นการวางตัวไม่เหมาะสม กลัวพรรคไม่ส่งลงสมัครในครั้งต่อไป และยังมีอีกหลายเรื่องที่ไม่อยากอธิบาย

ส่วนที่บอกว่าตนเองจะเข้ามากอบโกย นางสาวกฤษฎิ์ ถามว่าตนเองกอบโกยอะไร ตั้งแต่เลือกตั้งว่าในจังหวัดชลบุรีมีใครทุ่มกำลังทรัพย์ ตั้งสำนักงาน ซื้อสำนักงานเพื่อให้ประชาชนขี่มอเตอร์ไซค์มาพบปะได้สะดวก ให้เด็ก ๆ ได้เรียนคณิตศาสตร์-ภาษาอังกฤษในช่วงปิดเทอม เงินภาษีที่พ่อแม่พี่น้องประชาชนที่โอนให้กับพรรค ตนเองไม่เคยได้ใช้สักบาท ไม่เคยตัดเงินจากพรรคมาทำกิจกรรมในพื้นที่

ทั้งนี้เรื่องความหวังของพี่น้องประชาชน ตนเองเข้าใจ เพราะตนเองเคยมีความหวังว่า พรรคจะเป็นความหวังเดียวที่เปลี่ยนแปลงประเทศชาติได้ แต่เมื่อเข้ามาแล้วกลับผลักดันอะไรไม่ได้ ฉะนั้นความผิดหวังที่มีอยู่ในใจมากมาย จึงเป็นเหตุให้ตนเองทำหนังสือยุติบทบาทกับพรรค

หลังจากนั้นพรรคได้เรียกตนเองไปคุยว่าจะมีการแก้ไขเรื่องต่าง ๆ ตนเองจึงบอกว่าการแก้ไขไม่ได้ช่วยอะไรเพราะเลยเวลาที่จะแก้ไปแล้ว จึงเรียกร้องให้พรรคขับตนเองออกเพื่อเห็นแก่ประโยชน์ปวงชน จะได้ไปทำประโยชน์ให้กับประชาชนชาวศรีราชาอย่างที่ตั้งใจไว้อย่างแท้จริง

นางสาวกฤษฎิ์ กล่าวถึงประเด็นที่เลือกพรรคกล้าธรรม โดยระบุว่าหากติดตามการทำงานผ่านเพจ เฟซบุ๊ก ตนเองทำงานประสานงานกับรัฐมนตรีหลายคน ซึ่งได้รับการตอบรับจากร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ช่วยแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนมาโดยตลอดถึง 2 ครั้ง ซึ่งประชาชนที่ชลบุรีมองว่าสิ่งนี้เป็นเรื่องสำคัญในการเปิดอ่างเก็บน้ำ การจะเลือกพรรคไหนต้องเลือกพรรคที่สนับสนุนการแก้ปัญหาให้กับประชาชนอย่างแท้จริง

ทำให้ประชาชนที่มาร่วมรับฟังการแถลงข่าวเกิดความไม่พอใจ นางสาวกฤษฎิ์ จึงกล่าวว่าพวกคุณที่พูดอยู่รู้จักศรีราชามากแค่ไหน ได้ติดตามเพจตนเองหรือไม่ ช่วงนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาโต้แย้งกัน ตนเองมีจุดยืนแน่นอน ขอให้พรรคขับออก ส่วนเรื่องประชาชนจะตัดสินใจอย่างไร เชื่อว่าชาวศรีราชาเข้าใจตนเอง ตนเองไม่เคยคิดว่าตนเองสำคัญ แค่อาสามารับใช้พี่น้องประชาชน ยังมี สส.หลายคนที่ไม่มีความพร้อมและทำงาน แต่ตนเองอยู่ในสถานะที่พร้อมทำงานเพื่อประชาชนถึงได้ลงสมัครในวันนั้น เรื่องที่ตนเองผลักดันก็ผลักดันมาโดยตลอด ไม่เคยเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ก่อนเป็น สส.

ในช่วงถามตอบมีประชาชนถามถึงเหตุการณ์ที่ประชาชนช่วยเช็ดรองเท้าในช่วงหาเสียง นางสาวกฤษฎิ์ ระบุว่า ครั้งนั้นนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ช่วยหาเสียงเพียงแค่ 30 นาทีเท่านั้น นอกนั้นตนเองเดินทุกบ้าน จนเจอพี่คนที่เช็ดรองเท้ามาพูดคุยว่าไปพบชาวบ้านให้ทำความสะอาดรองเท้าบ้าง ที่ตนเองซาบซึ้งร้องไห้ เพราะเดินหาเสียงมาคนเดียว ไม่มีแกนนำ มาคนเดียว

สำหรับการร่วมงานกับพรรคกล้าธรรมนั้น วันนี้จะไปขอใบสมัครพรรคกล้าธรรมไว้ก่อน เพื่อรอการขับออกจากพรรคประชาชน ขณะที่กระแสข่าวที่มีการเสนอเงิน 55 ล้านบาท เงินเดือน 250,000 บาทและรถตู้หรูนั้น ตนเองขอให้ไปถามคนที่พูดออกมา ย้ำว่าตนเองใช้เวลานานในการตัดสินใจ ต้องเข้าโรงพยาบาลกว่า 2 รอบ

ส่วนเรื่องการถามความเห็นของประชาชนในพื้นที่ ตนเองไม่ได้ตั้งใจที่จะออกจากพรรคประชาชน แต่เป็นเหตุด่วน จึงไม่ได้มีการสอบถามความเห็นประชาชน แต่อยากบอกว่ามันมีเหตุจะต้องออก

นางสาวกฤษฎิ์ ปฏิเสธที่จะตอบคำถามเรื่องอุดมการการแก้ไขกฎหมายอาญามาตรา 112 บอกว่าไม่อยากพูดถึง เพราะตนเองไม่ได้มุ่งไปในประเด็นนี้ ส่วนการตัดสินใจครั้งนี้จะเป็นการจบชีวิตทางการเมืองหรือไม่ ความจริงตนเองตั้งใจจะลาออก แต่เมื่อดูสถานการณ์หลายอย่าง ไม่รู้ว่าจะยุบสภาในวันสองวันนี้หรือไม่ ตนเองก็ไม่รู้ว่าจะลาออกให้เสียงบเลือกตั้งใหม่ทำไม ซึ่งตนเองก็ยังยืนยันว่าตอนนี้จะทำงานให้พี่น้องประชาชน ส่วนการเลือกตั้งสมัยหน้า เดี๋ยวเอาไว้ว่ากัน

ผู้สื่อข่าวถามทิ้งท้ายว่า การขอใบสมัครพรรคกล้าธรรม ได้ปรึกษา กกต.หรือไม่ นางสาวกฤษฎิ์ ระบุสั้น ๆ ว่า “ขอเอาไว้เฉย ๆ “ จากนั้นเดินออกจากเวทีแถลงข่าว ผ่านประตูด้านข้างของห้องแถลงข่าว เพื่อหลีกเลี่ยงประชาชนที่มาประท้วง

สำหรับบรรยากาศก่อนการแถลงข่าว มี สส.พรรคประชาชน ลงมาสังเกตการณ์ คือ ครูจวง นายปารมี ไวจงเจริญ สส.บัญชีรายชื่อ รวมถึงประชาชน ที่มาดักรอสังเกตการณ์ ก่อนรุมต่อว่า นางสาวกฤษฎิ์

ช่วงหนึ่งประชาชนได้ยืนประจันหน้ากับนางสาวกฤษฎิ์ ที่ยืนอยู่บนโพเดียม พร้อมกับต่อว่านางสาวกฤษฎิ์ทำให้เกิดความชุลมุน จนเจ้าหน้าที่ตำรวจสภา ต้องเข้ามาควบคุม และขอความร่วมมือให้ประชาชนอยู่ในความสงบ โดยประชาชนก็ได้ตะโกนแทรก ตลอดการแถลงข่าวของนางสาวกฤษฎิ์ เป็นระยะ

ช่วงท้ายการแถลงข่าวนางสาวกฤษฎิ์ ได้เลี่ยงการเผชิญหน้ากับกลุ่มประชาชน โดยการหลบเดินออกทางประตูข้างห้องแถลงเชื่อมขึ้นไปยังบนอาคารรัฐสภา ทันที

Related Posts

Send this to a friend