POLITICS

ไทย-สหรัฐฯ เปิดเวทีพัฒนาธุรกิจการค้า Trade Winds ASEAN

นายกรัฐมนตรี-ปลัดพาณิชย์สหรัฐฯ-ทูตสหรัฐฯ เปิดเวทีพัฒนาธุรกิจการค้า Trade Winds ASEAN รับผู้แทนธุรกิจอเมริกันคณะใหญ่ที่สุดสู่กรุงเทพฯ ย้ำ สัมพันธ์ทวิภาคี

วันนี้ (13 มี.ค. 66) พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มาริสซา ลาโก ปลัดกระทรวงพาณิชย์ สหรัฐอเมริกา และ โรเบิร์ต เอฟ. โกเดค เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา ประจำประเทศไทย กล่าวเปิดการประชุม Trade Winds ASEAN ซึ่งเป็นเวทีพัฒนาธุรกิจการค้า ที่ประกอบด้วยคณะผู้แทนธุรกิจอเมริกันคณะใหญ่ที่สุดกว่า 125 แห่ง จาก 20 ภาคอุตสาหกรรม โดยเน้นความร่วมมือทางเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกา ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตลอดจนการพบปะสร้างเครือข่ายและจับคู่ธุรกิจกว่า 850 ครั้ง ตั้งแต่วันที่ 13-15 มี.ค. 66 ณ กรุงเทพมหานคร

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า กิจกรรม Trade Winds ในครั้งนี้ จะเป็นโอกาสยกระดับความเป็นหุ้นส่วน ด้านเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุนระหว่างไทยกับสหรัฐฯ ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นแล้ว และเป็นโอกาสครบรอบ 190 ปี แห่งความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยกับสหรัฐฯ นับตั้งแต่ลงนามในสนธิสัญญาไมตรีและการพาณิชย์ เมื่อปี 2376 ซึ่งมิตรภาพ ความเป็นพันธมิตร และความสัมพันธ์ไทย-สหรัฐฯ ได้ดำเนินมาอย่างเป็นประโยชน์ร่วมกันของทั้งสองฝ่าย และเป็นประโยชน์ต่อภูมิภาค

ในช่วงสองปีที่ผ่านมา ความสัมพันธ์ทวิภาคีไทย-สหรัฐฯ มีความใกล้ชิดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าในช่วงที่ผ่านมาเศรษฐกิจโลกจะได้รับผลกระทบจากโควิด-19 แต่การค้าทวิภาคีระหว่างไทยกับสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2565 การค้าระหว่างกันมีมูลค่า กว่า 65,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้สหรัฐฯ กลายเป็นคู่ค้าสำคัญอันดับที่สองของไทย อีกครั้งในรอบ 15 ปี แสดงถึงความร่วมมือและห่วงโซ่อุปทานที่เข้มแข็งระหว่างกัน และศักยภาพและความพร้อมของไทยในด้านเศรษฐกิจและโครงสร้างพื้นฐานด้านความเชื่อมโยงและโลจิสติกส์

ไทยและสหรัฐฯ มีเป้าหมายและนโยบายที่สอดคล้องกันในการส่งเสริมความเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืน เข้มแข็ง และมีความสมดุล โดยไทยให้ความสำคัญกับนโยบายเศรษฐกิจชีวภาพ – หมุนเวียน – สีเขียว หรือ BCG Economy ซึ่งผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปคได้ร่วมกันรับรองเป้าหมายกรุงเทพฯ ว่าด้วยเศรษฐกิจ BCG และสหรัฐฯ ในฐานะเจ้าภาพเอเปคในปีนี้จะสานต่อการดำเนินการในทิศทางเดียวกัน

นอกจากนี้ ไทยได้ร่วมมือกับสหรัฐฯ และประเทศหุ้นส่วนในกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจอินโด-แปซิฟิก (IPEF) เพื่อส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และเป็นธรรม ซึ่งแผนความเป็นหุ้นส่วนไทย-สหรัฐฯ จะช่วยเสริมสร้างโอกาส ความร่วมมือระหว่างกันในหลายมิติ ได้แก่

1.ความร่วมมือเพื่อเสริมสร้างเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมในอนาคต

2.การพัฒนาเทคโนโลยีสีเขียวและพลังงานสะอาด

3.การเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล

พลเอก ประยุทธ์ ยังกล่าวว่า การจัดกิจกรรม Trade Winds ปีนี้ จะยกระดับการค้าและการลงทุนระหว่างไทยกับสหรัฐฯ ซึ่งรัฐบาลไทยพร้อมสนับสนุนการดำเนินธุรกิจเพื่อเป้าหมายร่วมกันในการสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างสมดุล เข้มแข็ง และยั่งยืนต่อไป

มาริสซา ลาโก ปลัดกระทรวงพาณิชย์ สหรัฐอเมริกา กล่าวว่า เรายินดีอย่างยิ่งที่ท่านนายกรัฐมนตรีเป็นหุ้นส่วนของเรา การที่ท่านมาร่วมงานกับเราที่นี่ แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระดับทวิภาคีของเราที่แนบแน่นและแข็งแกร่งยืนนาน

“การประชุมนี้เป็นประจักษ์พยานของความมุ่งมั่นในรัฐบาลประธานาธิบดีไบเดนและรองประธานาธิบดีแฮร์ริสต่อประเทศไทย และต่อการเสริมสร้างความสัมพันธ์กับประเทศสมาชิกอาเซียน โดยเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิกของเรา” ปลัดกระทรวงพาณิชย์ สหรัฐอเมริกา กล่าว

โรเบิร์ต เอฟ. โกเดค เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา ประจำประเทศไทย กล่าวว่า การค้าระดับทวิภาคีของเรามีมูลค่าเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดถึงร้อยละ 50 ในช่วงสองปีที่ผ่านมา โดยสหรัฐอเมริกาเป็นตลาดส่งออกอันดับหนึ่งของไทย เมื่อเช้านี้ ผู้แทนสหรัฐฯ ได้จัดการประชุมร่วมกับหุ้นส่วนธุรกิจไทยได้สำเร็จ

“ผมมักจะพูดเสมอถึงความสัมพันธ์ระดับทวิภาคีระหว่างสหรัฐฯ กับไทย ว่าเป็นเสมือนผืนผ้าแห่งมิตรภาพที่งดงาม ซึ่งถักทอขึ้นจากสายสัมพันธ์ในหลากหลายด้าน พวกเราร่วมกันถักทอสายสัมพันธ์แห่งมิตรภาพนี้ในทุก ๆ วัน ซึ่งครอบคลุมความร่วมมือทั้งระหว่างภาครัฐบาล ภาคธุรกิจ ภาคการศึกษา ภาคประชาชน และภาคอื่น ๆ อีกมากมาย การประชุมทางการค้าครั้งนี้ ถือเป็นการถักทอสายสัมพันธ์แสนพิเศษระหว่างเราทั้งสองชาติในอีกมิติหนึ่ง” เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา ประจำประเทศไทย กล่าว

Related Posts

Send this to a friend