POLITICS

‘หมอเปรม’ ยื่นญัตติด่วน ขอสภาฯ ชงศาลวินิจฉัยปมแก้รัฐธรรมนูญ

‘หมอเปรม’ ยื่นญัตติด่วน ขอสภาฯ ชงศาลวินิจฉัยปมแก้รัฐธรรมนูญ ยัน สว.สีขาวไม่ได้ต่อต้าน แต่ต้องทำประชามติก่อน ซัด สว.สีน้ำเงิน กลับไปอ่านหนังสือ หลังก้าวล่วงบีบถอนตัวออกจากญัตติ

วันนี้ (12 ก.พ. 68) นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ สมาชิกวุฒิ (สว.) นำกลุ่ม สว.สีขาว ยื่นหนังสือถึงสภาผู้แทนราษฎร ขอเสนอญัตติด่วน เรื่อง ขอให้รัฐสภามีมติขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจของรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญมาตรา 210 วรรคหนึ่ง (2) ซึ่งมีญัตติขอแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญมาตรา 256 และเพิ่มเติมหมวด 15/1 โดยมีญัตติของนายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน และนายวิสุทธิ์ ไชยณรุน สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย

จากการฟังเสียงของสมาชิกรัฐสภาเห็นว่า มีความเห็นแตกต่างกันอย่างมาก ยากจะหาข้อสรุปได้เพราะการยื่นเพื่อจะขอให้รัฐสภาแก้ไขรัฐธรรมนูญเคยมีมาหลายครั้ง แต่มีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในปี 2564 ชัดเจนว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องมีการทำประชามติ ให้ประชาชนเจ้าของอำนาจอธิปไตยมีความเห็นชอบเสียก่อน

ครั้งนี้จึงมีการยื่นต่อประธานรัฐสภา เพราะเห็นว่าเป็นการข้ามขั้นตอนการทำประชามติ จึงขอให้รัฐสภามีมติทำประชามติก่อน ส่วนจะทำประชามติกี่ครั้งก็ยังเป็นความสับสนที่ เราจึงจำเป็นต้องยื่นตอนนี้ บางส่วนว่าจะต้องทำประชามติสองครั้ง บางส่วนไม่มีข้อสรุปอย่างเป็นทางการ ดังนั้นองค์กรที่จะชี้ขาดจำนวนการทำประชามติคือศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อมีคำวินิจฉัยจะผูกพันทุกองค์กร ทั้งรัฐบาล และรัฐสภา เราจึงขอใช้สิทธิในฐานะสมาชิกรัฐสภา ซึ่งได้มีการลงชื่อครบถ้วนทั้ง สว.และ สส.จำนวนไม่น้อยกว่า 40 คน

นพ.เปรมศักดิ์ ยืนยันว่าจะต้องให้ประชาชนเจ้าของอำนาจประชาธิปไตยเห็นชอบเสียก่อน ซึ่งขั้นตอนเห็นชอบคือการทำประชามติ ยังไม่มีข้อสรุปว่าจะทำประชามติสองชั้นหรือไม่ เพราะฉะนั้นจึงต้องยื่นหนังสือให้เกิดความชัดเจนว่าจะทำประชามติกี่ครั้ง อะไรที่เป็นความคลุมเครือ เป็นหน้าที่ของสมาชิกรัฐสภาเพื่อขอให้ศาลวินิจฉัย เงื่อนไขจึงไม่ซ้ำซ้อนเหมือนกับครั้งก่อน เพราะครั้งก่อนเป็นการยื่นโดยยังไม่มีมติในที่ประชุมรัฐสภา แต่วันนี้เป็นการยื่นหลังจากที่ประธานรัฐสภารับญัตติของนายพริษฐ์ และนายวิสุทธิ์

หลายคนมองว่าเป็นเกมสกัดแก้ไขรัฐธรรมนูญ นพ.เปรมศักดิ์ ยืนยันว่าไม่ได้เป็นเกม เพราะตนเองเห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ สว.กลุ่มสีขาวไม่มีใครต่อต้าน อยากให้ทำทุกขั้นตอนเข้าตามตรอกออกตามประตู เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาภายหลัง การกระทำการใด ๆ โดยไม่คำนึงถึงขั้นตอน หากมีความเสียหายเกิดขึ้นใครจะรับผิดชอบ เราเป็นวุฒิสภาจะต้องมีวุฒิภาวะในการแก้ปัญหา ไม่อยากให้ใครมองว่าเราไปขัดขวา เเพราะเราส่งเสริมการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพียงแต่ต้องทำให้ทุกขั้นตอน

ส่วนจะทันเวลาแก้ไขรัฐธรรมนูญภายในปี 2570 หรือไม่นั้น การแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่จำเป็นต้องบอกว่าให้ทันการเลือกตั้ง คนที่กำหนดว่าต้องแก้รัฐธรรมนูญให้ทันปี 2570 เป็นความคิดแบบเผด็จการ จะไปทึกทักเอาได้อย่างไร เพราะรัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุดจะทำเป็นแบบเล่นขายของแก้กฎหมายเล็ก ๆ ไม่ได้ มีพรรคการเมืองที่พยายามกำหนดให้ได้ไปตามใจของตนเอง

ส่วนที่มีการวิเคราะห์ว่ามีพรรคการเมืองอยู่เบื้องหลังในการยื่นครั้งนี้ นพ.เปรมศักดิ์ ย้ำว่าตนเองมีความคิดอิสระ ไม่มีใครควบคุมการทำงานที่เป็นประโยชน์ของประชาชนได้ ส่วน สว.สีน้ำเงินจะทำอย่างไรก็สุดแล้วแต่ ขอไม่ก้าวล่วง มีแต่ สว.สีน้ำเงินที่มาก้าวล่วงพวกตนเอง มีแต่บีบให้ สว.ถอนตัวจากญัตติ ซึ่งมีแค่จำนวนหนึ่งเท่านั้นที่ถอนไป เราก็ไม่ว่า เพราะท่านอาจจะเข้าใจผิดว่าลงชื่อประชุมมีความผิด ซึ่งเป็นการให้ข้อมูลข่าวสารไม่ถูกต้อง เพราะการลงชื่อเข้าประชุมเป็นสิทธิ์ของ สว.ไม่ใช่ว่าลงมติแล้วจะถูกถอดถอนหรือมีความเสี่ยงตามที่เป็นข่าว อยากเตือนว่าคนที่ให้ข้อมูลที่ผิดพลาดไปบอกว่าการเข้าประชุมเป็นความผิด มีความเสี่ยงขอให้กลับไปอ่านหนังสือใหม่

ถ้าคุณไม่เข้าประชุม เป็นการไม่มีความรับผิดชอบทางการเมืองต่อประชาชน ประชาชนเขาให้มาทำงาน นักการเมือง การทำงานก็คือการประชุมร่วมรัฐสภา สส. สว. แล้วมีความผิดได้อย่างไร แต่ไม่เข้านี่แหละผิด ไม่ลงมติก็ต้องถามว่าทำไม การลงมติทำได้ 3 แบบ คือ เห็นด้วย ไม่เห็นด้วย หรืองดออกเสียง ไม่เห็นจะมีปัญหาอะไรเลย ส่วนการพยายามโยงพวกเราให้กับเข้ากับพรรคการเมือง เป็นการกระทำเก่า ๆ เลิกทำเถอะ ลูกไม้ทางการเมืองแบบนี้เด็กอนุบาลเขาก้าวตามทันแล้ว ใครคิดไม่ตรงกับตนเองก็หาว่ามีเบื้องหลัง คนที่กล่าวว่าการประชุมรัฐธรรมนูญเป็นการกระทำที่อาจหมิ่นเหม่ สุ่มเสี่ยง นี่คือการกระทำที่น่าละอายมากกว่า เพราะเป็นการให้ข้อมูลที่ผิดต่อสาธารณชน

Related Posts

Send this to a friend