POLITICS

‘นพดล’ แจง ระเบียบราชทัณฑ์เป็นมาตรฐานสากล ไม่เลือกปฏิบัติ

‘นพดล’ แจง ระเบียบราชทัณฑ์เป็นมาตรฐานสากล ไม่เลือกปฏิบัติ ขอให้มุ่งหลักนิติธรรม เดินหน้าสู่การปรองดองสมานฉันท์

นายนพดล ปัทมะ สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่ากรณีที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) การตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร เดินทางไปโรงพยาบาลตำรวจ เมื่อวันที่ 12 ม.ค. 2566 เพื่อไปดูชั้น 14 ถือเป็นสิทธิ การที่กลุ่มบุคคลต่าง ๆ หยิบยกประเด็นเรื่องนี้ขึ้นมา ตนเองเห็นว่าในขณะนี้บ้านเมืองต้องเดินหน้าสู่การปรองดอง สมานฉันท์ และการจะดูเรื่องใดต้องดูป่าทั้งป่า ไม่ใช่แค่ต้นไม้ต้นเดียว ซึ่งเรื่องนี้มีที่มาที่ไป ในประเด็น นายทักษิณ ชินวัตร ขอตั้งข้อสังเกตดังนี้

1.หลังการรัฐประหารปี พ.ศ. 2549 มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สิน (คตส.) ซึ่งมีกรรมการที่เป็นปฏิปักษ์ทางการเมืองกับนายทักษิณมาสอบคดี ขัดหลักนิติธรรมอย่างชัดเจน ตนถามว่าเคยออกไปคัดค้านการละเมิดหลักนิติธรรมนี้หรือไม่

2.กฎกระทรวงและระเบียบของกรมราชทัณฑ์เรื่องผู้ต้องขัง การพักโทษ และการเปลี่ยนสถานที่คุมขัง บังคับใช้ทั่วไป ไม่ใช้กับคนหนึ่งคนใดโดยเฉพาะ ไม่มีการเลือกปฏิบัติ และสอดคล้องหลักสากล

3.ระเบียบเกี่ยวกับการเปลี่ยนสถานที่คุมขัง คือระเบียบกรมราชทัณฑ์ว่าด้วยการดำเนินการสำหรับการคุมขังในสถานที่คุมขัง พ.ศ.2566 ออกสมัยรัฐบาลที่แล้ว ตอนออกก็ไม่เห็นคนคัดค้าน ตนเองไม่เชื่อว่ารัฐบาลเก่ามุ่งช่วยเหลือนายทักษิณ เนื่องจากเป็นไปตามมาตรฐานสากล ต่างประเทศก็ทำเช่นนี้

4.เชื่อมั่นว่าเจ้าหน้ากรมราชทัณฑ์และโรงพยาบาลตำรวจ จะปฏิบัติตามระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ยึดมั่นความเสมอภาค ไม่เลือกปฏิบัติ เพราะระเบียบนี้ใช้กับผู้ถูกคุมขังทุกคน ไม่ว่าจะนามสกุลอะไร

“ระเบียบราชทัณฑ์ใช้กับทุกคน เราพร่ำพูดถึงหลักนิติธรรม แต่ไม่ควรใช้กับบางคนบางเวลา แต่ต้องใช้กับทุกคนตลอดเวลา และอย่าดูเฉพาะนิติธรรมที่เป็นคุณกับฝ่ายตัวเอง อดีตนายกฯ ได้ทำประโยชน์มากมาย เช่น โครงการ 30 บาทรักษาทุกโรคที่เป็นตำนานตลอดไป ได้เวลาที่เราควรมีความเมตตาปรารถนาดีต่อกัน เพื่อพาบ้านเมืองเดินหน้า ส่วนนักการเมืองก็ขอเชิญมาต่อสู้เชิงนโยบาย เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน และแก้ปัญหาประเทศดีกว่า” นายนพดล กล่าว

Related Posts

Send this to a friend