POLITICS

ที่ปรึกษา ป.ป.ช. ตั้งข้อสังเกตปาล์มล้นโรงงานสกัด

อาจฮั้วเพื่อกดราคา ด้านเครือข่ายชาวสวนปาล์ม เตรียมยื่นหนังสือถึงนายกฯ

นายวศิน สิริเกียรติกุล ที่ปรึกษาประธานกรรมาธิการ ป.ป.ช. ตั้งข้อสังเกต กรณีช่วงก่อนเทศกาลปีใหม่ โรงงานสกัดน้ำมันปาล์มส่วนใหญ่ต่างพร้อมใจกันหยุดรับซื้อผลปาล์มดิบ ซึ่งเป็นการหยุดเร็วกว่าทุกปี ก่อนจะทยอยเปิดรับซื้อในวันที่ 3 – 4 ม.ค.ที่ผ่านมา ส่งผลให้เกษตรกรที่มีรอบเก็บเกี่ยวในช่วงปีใหม่ และมีผลปาล์มสุกเต็มที่ ต้องเร่งเก็บเกี่ยวพร้อมกัน จนผลผลิตล้นตลาด รวมถึงกรณีโรงงานสกัดบางแห่ง ลดกำลังการผลิต

นายวศิน มองว่าการกระทำในลักษณะนี้ของกลุ่มโรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม อาจเล็งเห็นแล้วว่า จะเป็นประโยชน์ต่อกลุ่มโรงงานสกัด หรืออาจเข้าข่ายฮั้วกันเพื่อกดราคารับซื้อปาล์มจากเกษตรกร จึงขอให้กระทรวงพาณิชย์ ตรวจสอบกรณีที่เกิดขึ้นอย่างจริงจัง เป็นการบิดเบือนกลไกตลาด หรือกดราคาเอาเปรียบเกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน หรือไม่

ด้านนายปรีชา สุขเกษม ตัวแทนเครือข่ายชาวสวนปาล์มสงขลา เปิดเผยว่า ราคาปาล์มน้ำมันขณะนี้ ลดลงเหลือกิโลกรัมละ 3 บาทเศษ ทำให้เกษตรกรเดือดร้อนอย่างหนัก จึงเตรียมระดมชาวสวนปาล์ม เดินทางเข้ายื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในวันอังคาร ที่ 17 ม.ค. นี้ ที่ศาลากลางจังหวัดสงขลา โดยเสนอให้นำน้ำมันปาล์มไปทำไบโอดีเซล ตรวจสอบการลักลอบนำเข้าน้ำมันปาล์มจากประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงหามาตรการรองรับวันหยุดยาวของโรงงานผลิตและลานรับซื้อผลปาล์ม

ด้าน พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กนป.) สั่งการให้ พล.ต.อ.ธรรมศักดิ์ วิชชารยะ ในฐานะประธานอนุกรรมการ เร่งตรวจสอบสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งจากการตรวจสอบ พบว่ากรณีโรงสกัดปาล์มน้ำมันและลานเทในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ชุมพร นครศรีธรรมราช ตรัง และกระบี่ จำนวน 22 โรงงาน และพ่อค้าลานเทหยุดรับซื้อปาล์มทะลายในระยะนี้ ทำให้รถส่งปาล์มที่ออกจากสวนปาล์มติดคิว เนื่องจากมีการชะลอการรับซื้อ และถูกกดราคาอย่างไม่เป็นธรรม

ทั้งที่ ราคาน้ำมันปาล์มดิบในตลาดโลกยังคงทรงตัวอยู่ที่ระดับ 3,900 – 4,100 ริงกิต/ตัน หรือคิดเป็น กก.ละ 32 บาท ส่วนสต๊อกน้ำมันปาล์มดิบภายในประเทศจากจากระบบเรียลไทม์ของกรมการค้าภายใน พบว่าระดับสต๊อคล่าสุด อยู่ที่ 3.08 แสนตัน หรือ 32.2% ของความจุของแทงค์น้ำมันปาล์มทั่วประเทศ ที่มีอยู่เกือบ 500 แทงค์ และจุน้ำมันปาล์มได้กว่า 9.58 แสนตัน

พล.ต.อ.ธรรมศักดิ์ เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร ได้รับทราบบัญชีรายชื่อโรงสกัดปาล์มใน 5 จังหวัด ประกอบด้วย โรงงานใน จ.สุราษฎร์ธานี 7 โรง , จ.กระบี่ 8 โรง , จ.นครศรีธรรมราช 4 โรง , จ.ตรัง 2 โรง และ จ.ชุมพร 1 โรง ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ประกอบการในสมาคมฯ ที่รวมกลุ่มใกล้ชิดสนิทสนมกัน คาดว่าจะมีผู้อยู่เบื้องหลัง ในฐานะประธาน กนป. ที่กำกับดูแลมาตรการปาล์มน้ำมันทั้งระบบ จึงได้สั่งการให้ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการจังหวัดที่เกี่ยวข้อง บูรณาการตรวจสอบและสืบสวนข้อเท็จจริงถึงสาเหตุที่เกิดขึ้นในขณะนี้

หากพบเข้าข่ายการกระทำความผิดกฎหมาย ให้พิจารณาดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ตามบัญชีรายชื่อผู้ประกอบการ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของชาวสวนปาล์มในขณะนี้ และเร่งแก้ไขปัญหาข้อขัดข้องและสร้างการรับรู้ในการตัดปาล์มน้ำมัน และการรับซื้อของโรงงานและลานเท โดยเฉพาะหากพบมีการสร้างสถานการณ์เพื่อสร้างความปั่นปวน และฮั้วกดราคารับซื้อ

ปาล์มน้ำมัน จัดเป็นสินค้าควบคุมตามประกาศ กกร. ตาม พรบ.ว่าด้วยสินค้าและบริการ มาตรา 24 หากพบมีการกระทำที่เข้าข่ายฐานความผิด โดยทำให้เกิดการปั่นป่วนซึ่งราคาสินค้าหรือบริการ ตามมาตรา 29 มีบทกำหนดโทษ จำคุกถึง 7 ปี และปรับ 1.4 แสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ

Related Posts

Send this to a friend