นายกฯ ห่วงราคาสินค้าอุปโภคบริโภคปรับกระทบค่าครองชีพ ปชช.

สั่ง พาณิชย์-พลังงาน หารือผู้ประกอบการตรึงราคาสินค้าจำเป็นเร่งด่วน

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยกรณีสินค้าหมวดอาหารสดหลายประเภททยอยปรับราคาขึ้นว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แสดงความห่วงใยและได้เร่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงพลังงาน เร่งติดตาม หารือกับผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น เพื่อตรึงราคาสินค้าในการช่วยลดภาระค่าครองชีพให้แก่ประชาชน

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากมาตรการช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วน หลายหน่วยงานได้เร่งดำเนินการเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน โดย กระทรวงพาณิชย์ได้มีการหารือกับบริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ตรา “มาม่า” ไม่ให้มีการปรับขึ้นราคามาม่าซองประเภทที่เป็นสินค้ามวลชน และเป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมในท้องตลาดทั้งประเทศ เพื่อลดภาระค่าครองชีพให้แก่ประชาชน

ขณะที่กระทรวงพลังงาน โดยคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) มีมติตรึงราคาก๊าซหุงต้ม (LPG) ต่ออีก 2 เดือน ที่ราคา 318 บาทต่อถังขนาด 15 กิโลกรัม จากเดิมที่จะสิ้นสุดวันที่ 31 มกราคม 2565 เป็นวันที่ 31 มีนาคม 2565 พร้อมทั้งขอความร่วมมือ บมจ.ปตท. (PTT) พิจารณาช่วยเหลือส่วนลดราคาก๊าซ LPG แก่ผู้มีรายได้น้อยที่เป็นร้านค้า หาบเร่ แผงลอยอาหาร ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่ ปตท.ดำเนินการอยู่ ต่อไปจนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2565 และขอให้คงราคาขายปลีกก๊าซ NGV ที่ 15.59 บาท/กิโลกรัม และคงราคาขายปลีกก๊าซ NGV โครงการ “เอ็นจีวี เพื่อลมหายใจเดียวกัน” ให้กับผู้ประกอบอาชีพขับขี่รถแท็กซี่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ที่ 13.62 บาท/กิโลกรัม ต่อไปอีกเป็นระยะเวลา 1 เดือน โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2565 ถึงวันที่ 15 มีนาคม 2565

นายธนกร เพิ่มเติมว่า สถานการณ์ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคที่ปรับตัวสูงขึ้น มาจากกลไกราคาน้ำมันตลาดโลกที่ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง ส่งผลต่อต้นทุนการผลิต ต้นทุนสินค้า และค่าขนส่ง ซึ่งรัฐบาลได้เร่งวางมาตรการทั้งระยะสั้น-ยาว เร่งติดตามหน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องเพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น เบื้องต้น จะเป็นการขอความร่วมมือกับผู้ประกอบการและภาคเอกชน เพื่อให้ตรึงราคาสินค้าบางส่วนที่มีความจำเป็นต่อการดำรงชีวิตของประชาชน ไม่ให้กระทบต่อค่าครองชีพ