‘ดร.เอ้’ ลงพื้นที่ดูจุดเสี่ยงน้ำท่วมเขตบางกอกน้อย จี้รัฐบาลให้คำมั่นมีแผนแก้ปัญาหาระยะยาว
‘ดร.เอ้’ ลงพื้นที่ดูจุดเสี่ยงน้ำท่วมเขตบางกอกน้อย จี้รัฐบาลให้คำมั่นมีแผนแก้ปัญาหาระยะยาว เสนอสร้างประตูกั้นน้ำทะเลหนุน ไม่ใช่แค่ “ขอโทษ เยียวยา กระสอบทราย”
วันนี้ (12 พ.ย. 68) นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ หัวหน้าพรรคไทยก้าวใหม่ พร้อมด้วยนายกิติ วงษ์กุหลาบ รองหัวหน้าพรรคไทยก้าวใหม่ ดร.คมสัน พันธ์วิชาติกุล รองโฆษกพรรคไทยก้าวใหม่ และคณะทำงานพรรค ลงพื้นที่ชุมชนสันติชนสงเคราะห์ มัสยิดอันซอริซซุนนะห์ และชุมชนวัดดุสิตดารามวรวิหาร เขตบางกอกน้อย จุดเสี่ยงน้ำท่วมในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เนื่องจากอยู่ติดคลองบางกอกน้อยและแม่น้ำเจ้าพระยา ทำให้ได้รับผลกระทบจากทั้งน้ำเหนือและน้ำหนุน โดยชุมชนสันติชนสงเคราะห์มีประชาชนพักอาศัยอยู่ราว 240 ครัวเรือน
ขณะที่บริเวณมัสยิดอันซอริซซุนนะห์ พบว่ามีน้ำท่วมขังกระทบต่อการทำศาสนกิจ และเป็นอีกหนึ่งชุมชนที่มีประชาชนอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก รวมถึงกลุ่มเปราะบางด้วย
นายสุชัชวีร์ เปิดเผยว่า ชุมชนสันติชนสงเคราะห์ เป็นข้อพิสูจน์แล้วว่าไม่ว่าชุมชนจะอยู่นอกหรือในเขื่อนกั้นน้ำก็ท่วมหมด เพราะแม่น้ำเจ้าพระยาอยู่สูง น้ำมุดได้ตลอด เมื่อไหลเข้ามาแล้วไม่มีเครื่องสูบน้ำ น้ำจะทะลักเข้ามาอีก สูบออกไปเท่าไรก็ย้อนเข้ามา กระสอบทรายเท่าไรก็ไม่พอ ที่ผ่านมาเราไม่ได้แก้ปัญหาอะไรเลย ทำแบบขอไปที เราแค่ประทังเท่านั้นเอง วิธีแก้ปัญหาน้ำท่วมของประเทศไทยอย่างยั่งยืน ทำได้ 2 ทางคือ 1.ต้องควบคุมระดับน้ำในลุ่มปิง วัง ยม น่านให้ได้ 2.การควบคุมน้ำที่ปากอ่าวไทย
“ถึงเวลาหรือยัง ที่เราจะแก้ปัญหาน้ำท่วมจริง ๆ อย่างมืออาชีพ ไม่ใช่เยียวยา เยียวยา เยียวยา กระสอบทราย 1.5 ล้านล้านสิบกว่าปีคืออะไร”
นายสุชัชวีร์ กล่าวต่อว่าพรรคไทยก้าวใหม่เสนอให้สร้างประตูควบคุมน้ำที่ปากอ่าว เพราะปัจจุบันเราระบายน้ำเหนือไม่ได้ เพราะน้ำทะเลหนุนสูง น้ำจึงค้างอยู่ในพื้นที่ลุ่มแถวจังหวัดอ่างทอง สิงห์บุรี พระนครศรีอยุธยา นนทบุรี และปทุมธานี หากมีความพยายามระบายน้ำอีก กรุงเทพมหานครคงท่วมหัว ดังนั้นเงินที่ผลาญไปทุกปี ควรมาสร้างระบบป้องกันน้ำทะเลหนุนที่ปากแม่น้ำเจ้าพระยา ปากแม่น้ำบางปะกง และปากแม่น้ำท่าจีน พอน้ำทะเลสูงปิดประตูเพื่อให้น้ำเหนือมารอ พอน้ำทะเลลดก็ค่อยเปิด โดยแนวคิดดังกล่าวอาจจะต้องใช้เวลาเป็นสิบปี แต่ปัจจุบันยังไม่มีการศึกษาและออกแบบ
สำหรับการรับมือสถานการณ์น้ำของกรุงเทพมหานคร นายสุชัชวีร์ มองว่าข้าราชการทำสุดความสามารถ แต่ขอแนะนำด้วยใจบริสุทธิ์ให้ผู้นำกรุงเทพมหานครเป็นปากเป็นเสียง ต้องผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงร่วมมือกับรัฐบาลในการแก้ปัญหาระยะยาว ส่วนที่นายกรัฐมนตรีลงพื้นที่น้ำท่วมในวันนี้ โดยกล่าวว่าปัญหาสถานการณ์น้ำเกิดจากการตัดสินใจระบายน้ำตามช่องทางต่าง ๆ ย้ำว่าพรรคไทยก้าวใหม่ไม่ต้องการเติมความขัดแย้ง แต่ประชาชนต้องเลิกทน รัฐบาลควรจะมาพร้อมกับแผนการแก้ปัญหา แม้วันที่เกิดปัญหาจะไม่ใช่รัฐบาลก็ตาม
“อย่าทำอย่างเดิม อย่าเยียวยา กระสอบทราย ขอโทษ ปีหน้าก็เป็นแบบนี้ วันนี้ควรจะบอกว่าแม้จะไม่เสร็จในรัฐบาลผม แต่จะผลักดันให้เกิดขึ้น“
นายสุชัชวีร์ กล่าวว่าในระยะเวลาเหลืออยู่ของรัฐบาลนี้คาดหวังว่าให้รองนายกฯรัฐมนตรีที่รู้เรื่องน้ำจริง ๆ มีบทบาทในการแก้ปัญหา โดยให้คำมั่นสัญญาว่าอีก 5 ปีจะไม่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก ไม่ใช่ขอโทษ เยียวยา กระสอบทราย
















