POLITICS

นายกฯ พร้อมดึงงบประมาณเยียวยาน้ำท่วมซ้ำซาก

นายกฯ พร้อมดึงงบประมาณเยียวยาน้ำท่วมซ้ำซาก ร่วม กระทรวงเกษตรฯ สร้างโครงการผันน้ำ – ระบายน้ำ ยัน หากเสนอ พร้อมอนุมัติทันที ก่อนยุบสภาฯ ปัดเป็นเมกะโปรเจกต์ แต่ทำแล้วประเทศต้องได้ประโยชน์ระยะยาว

วันนี้ (12 พ.ย. 68) เวลา 15:00 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ภายหลังการลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อุทกภัย จ.อ่างทอง และพระนครศรีอยุธยา ถึงแนวทางการแก้ไขปัญหา ว่า ได้เห็นในสิ่งที่เราต้องเร่งดำเนินการคือ การระบายน้ำให้พ้นจากเขตจังหวัดลุ่มน้ำเจ้าพระยาให้มากที่สุด เพราะตอนที่ตนนั่งเฮลิคอปเตอร์ เห็นว่า มีพื้นที่ที่น้ำยังสามารถระบายออกได้ทางภาคตะวันออก ตนจึงได้สั่งการ นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ให้เร่งประสานกับทางกรมชลประทานต่อไป ซึ่งทุกหน่วยจะต้องปฏิบัติตาม เพราะถือเป็นข้อสั่งการนายกรัฐมนตรีแล้ว

ส่วนหากมีการเฉลี่ยแล้ว ประชาชนที่รับความเดือดร้อนจะได้รับค่าเยียวยาคนละเท่าใด นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จะพยายามจัดสรรให้ได้มากที่สุด เพื่อทดแทนความเดือดร้อนให้กับประชาชน ซึ่งจะดูเป็นรายเดือน ไม่ใช่ระบบเหมาจ่าย โดยขึ้นอยู่กับความเดือดร้อนของแต่ละพื้นที่ ส่วนรายละเอียดนั้น ได้มอบหมายให้ นายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี หาแนวทาง และเร่งนำเสนอให้คณะรัฐมนตรีรับทราบ เช่นเดียวกับพื้นที่เกษตร และพื้นที่บ้านเรือนของประชาชน ก็จะได้รับการเยียวยาทั้งหมดด้วย ไม่ว่าจะอยู่ในส่วนไหนก็ตาม

ผู้สื่อข่าวถามถึงการที่บอกว่าการระบายน้ำจะอยู่ในระดับไม่เกิน 2,900 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ก็ต้องพยายามให้เต็มที่ เพราะหากดูจากพยากรณ์อากาศและการไหลของน้ำ จะเห็นว่า 2,900 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ยังปลอดภัย ฉะนั้นจะต้องพยายามให้อยู่ในระดับนี้

ส่วนจากการประเมินหากระบายน้ำ 2,900 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที พื้นที่ที่รับน้ำยังมีอยู่ใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เรื่องนี้ขอให้ ผู้อำนวยการ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ได้ชี้แจง เพราะมีเรื่องของรายละเอียดแนวเขตและสถานที่ จึงจำเป็นต้องเร่งอนุมัติโครงการต่างๆ เพื่อแก้ไขปัญหาในระยะยาว เนื่องจากในหนึ่งปีเราต้องจ่ายค่าชดเชย เยียวยาให้กับประชาชนที่ประสบอุทกภัยทั่วประเทศประมาณ 3-4 หมื่นล้านบาท หากติดต่อกันมาหลายปีก็รวมเป็นแสนล้านบาท

“ถ้าเรานำเงินงบประมาณหลาย แสนล้านบาทที่จ่ายชดเชยไป แต่ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาในระยะยาว เพราะเงิน 9,000 บาท แลกกับน้ำไม่ท่วม ผมเชื่อว่าเขายอมแลกบ้านน้ำไม่ท่วมมากกว่า เพราะยังมีโครงการดีๆอีกมากมายที่พร้อมรอการอนุมัติแล้ว แต่ก็มีปัญหาด้านการเมือง เดี๋ยวใครอนุมัติก็จะได้คะแนนเสียง เอาประชาชนเป็นตัวประกัน เราไม่เอาแล้ว” นายอนุทิน กล่าว

นายกรัฐมนตรี ย้ำอีกว่า จะเร่งโครงการที่เป็นประโยชน์กับประชาชนและประเทศ เช่น โครงการป่าสัก อ่าวไทย และโครงการแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อให้มีความสามารถในการผันน้ำและระบายน้ำมีประสิทธิภาพมากขึ้นอีกเท่าตัว รวมถึงโครงการอื่นๆที่เป็นการแก้ไขปัญหาในระดับพื้นที่ ดังนั้นหากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์นำเสนอขึ้นมา ตนจะเร่งอนุมัติก่อนที่จะยุบสภา

ส่วนโครงการนี้จะใช้ระยะเวลาเท่าไรนั้น นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จะแบ่งเป็นหลายๆ เฟส แต่จะแล้วเสร็จเมื่อใด ก็ขึ้นอยู่กับการอนุมัติ

สำหรับโครงการดังกล่าวถือว่าเป็นเมกะโปรเจกต์ใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี ตอบว่า ไม่ถือว่าเป็นโปรเจคอะไรทั้งนั้น ถ้าทำแล้วประเทศได้ประโยชน์ในระยะยาว ประชาชนไม่เดือดร้อน ตรงนี้ก็คือเมกะโปรเจคสำหรับตน ไม่ใช่เมกะโปรเจคในเรื่องของงบประมาณ

Related Posts

Send this to a friend