POLITICS

นายกฯ นำคณะ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อุทกภัยใน จ.อ่างทอง

นายกฯ นำคณะ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อุทกภัยใน จ.อ่างทอง พร้อมมอบถุงยังชีพจำนวน 1,500 ถุง สั่ง ’ภราดร‘ อยู่ “work from อ่างทอง” หากไม่มีงานสำคัญ พร้อมเร่งนำงบที่กำกับดูแลเสนอเข้า ครม. เคาะเงินเยียวยารายเดือน จนกว่าน้ำจะหมด ทดแทนชาวไร่ชาวนาเสียสละพื้นที่รับน้ำ

วันนี้ (12 พ.ย. 68) เวลา 12:30 น. ที่โรงเรียนปาโมกข์วิทยาภูมิ ตำบลป่าโมก อำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย นายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย พล.อ.อดุลย์ บุญธรรมเจริญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม และคณะ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อุทกภัย และมอบถุงยังชีพช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ จำนวน 1,500 ถุง

นายอนุทิน ขึ้นกล่าวกับผู้ประสบภัย โดยขอกราบอภัยกับพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบ และทำให้ต้องผจญกับความยากลำบากจากสถานการณ์น้ำท่วม พร้อมระบุว่า ส่วนหนึ่งเราจะไปโทษธรรมชาติอย่างเดียวก็ไม่ได้ เพราะเราเป็นรัฐบาล ซึ่งเราต้องมีความรับผิดชอบ ในการบริหารสถานการณ์ให้กับพ่อแม่พี่น้องให้ดีที่สุด โดยตนจึงได้ขอให้ นายภราดร ซึ่งเป็น สส.อ่างทองด้วยนั้น ว่า ในช่วงสถานการณ์น้ำท่วม ถ้าไม่จำเป็น ก็จะให้ “work from อ่างทอง” ทำงานจากอ่างทอง ไม่ต้องทิ้งพ่อแม่พี่น้อง ยกเว้นวันสำคัญจริงๆ เช่นการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) แต่หลังจากนั้นให้รีบกลับมาดูแล และแก้ไขสถานการณ์ น้ำท่วมอ่างทอง รวมถึงจังหวัดใกล้เคียง เพื่อใช้เวลาตรงนี้ให้มากที่สุด ซึ่งตนเข้าใจดีว่าเป็นปัญหาที่เกิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า เป็นความทุกข์เรื้อรังของพวกเรา ในฐานะที่เป็นคนลุ่มน้ำเจ้าพระยาด้วยกัน ทรัพย์สินต้องเสียหาย พี่น้องต้องย้ายของหนีน้ำ

“สส.แบด บอกผมตลอดว่าตั้งแต่หัวหน้ามาครั้งที่แล้วน้ำยังไม่ลง พวกผมต้องทำทุกวิธีทางที่จะทำให้มีการระบายน้ำ ให้มากที่สุด ขอให้พี่น้องมั่นใจว่าเราได้ยินทุกคำพูดพยายามหาหนทางช่วยเหลือ ทุกหนทางที่จะทำได้ ผมได้ตัดสินใจว่า ในพื้นที่อ่างทองนอกจากบ้านเรือนพี่น้องแล้วที่ถูกสถานการณ์น้ำท่วม รัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณ ผู้ประสบภัย งบประสบภัยมาช่วยหลังคาเรือนละ 9,000 บาท อันนี้เป็นหน้าที่ของรัฐบาล อย่างที่เรียน 90,000 บาท 900,000 บาท ถ้าพี่น้องแลกได้คงไม่เอาหรอก ทุกท่านไม่ต้องการให้มีมากกว่า และต้องการใช้ชีวิตประกอบทำอาชีพด้วยความเป็นปกติสุข หลายครอบครัวในอ่างทอง เป็นเจ้าของนาเจ้าของไร่ เสียสละนาไร่เป็นพื้นที่รับน้ำ สูญเสียโอกาส ผลิตพืชผลทางการเกษตรทำไร่ทำนา และยังต้องเป็นผู้ที่ เสียสละในการรับน้ำให้น้ำ มาท่วมในพื้นที่ของตัวเอง ไม่ให้ไปกระทบ ทำความเสียหายในเขตเมืองที่ถือว่าเป็นเขตเศรษฐกิจ ให้ได้รับความเสียหาย ตรงนี้ต้องกราบขอบพระคุณทุกท่าน โดยเฉพาะเจ้าของไร่นาที่ยอมสละไร่นาเป็นพื้นที่รับน้ำ” นายอนุทิน กล่าว

นายอนุทิน กล่าวต่อว่า ตนได้หารือกับนายภราดร และนายสุรศักดิ์ และนายศักดา ขออนุญาตใช้อำนาจความเป็นนายกรัฐมนตรี จะทดแทนโอกาสที่พ่อแม่พี่น้อง ชาวไร่ชาวนาที่สละพื้นที่ไร่นา และสวน เป็นพื้นที่รับน้ำ โดยจะขออนุญาตเอางบประมาณที่กำกับดูแลอยู่ มาดูแลประชาชนรายเดือน จนกว่าน้ำจะหมดไป เพราะน้ำท่วมมาแล้วหลายเดือน ซึ่งเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะต้องมาเยียวยาพวกท่าน ขอให้นายภราดร เร่งนำเสนอเพื่ออนุมัติโดยเร็ว และไม่ใช่เฉพาะจังหวัดอ่างทอง แต่เป็นทุกที่ที่ชาวบ้านพี่น้องชาวเกษตรกรชาวไร่ชาวนาได้สละ พื้นที่ของตนเองให้เป็นพื้นที่รับน้ำ และทำให้ตัวเองสูญเสีย โอกาสในการสร้างรายได้ ในการผลิตพืชผลทางการเกษตร

อีกทั้ง ยังสั่งการให้หน่วยงานทุกระดับลงพื้นที่ช่วยเหลือพี่น้องเต็มกำลัง โดยเฉพาะกระทรวงมหาดไทยที่อยู่ในกำกับการดูแลของตน หน่วยกู้ภัยการป้องกันบรรเทาสาธารณภัยจะอยู่ในพื้นที่เพื่อคลายทุกข์บรรเทาทุกข์ จัดหาที่พักชั่วคราว และจัดหาของกินของใช้ สิ่งของที่จำเป็นให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ ให้พ่อแม่พี่น้อง ได้สามารถดำรงชีวิตได้ท่ามกลาง ช่วงที่ต้องลำบาก จากการคุกคามของภัยธรรมชาติ แล้วหวังว่า ใกล้สิ้นเดือนปริมาณน้ำฝนทั้งหลายจะเบาบางลงไป ได้มีการวางแผนร่วมกันทำงานเป็นทีม ทั้งสำนักทรัพยากรน้ำ และกรมชลประทานกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในการที่จะหาหนทางระบายน้ำ เปิดปิดประตูระบายน้ำ และจัดการเส้นทางเดินของน้ำ ให้ส่งผลกระทบพี่น้องประชาชนน้อยที่สุด

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า เมื่อเช้าที่ผ่านมา ตนก็ได้ลงนามในคำสั่งนายกรัฐมนตรี แต่งตั้งคณะรัฐมนตรีให้ดูแลพื้นที่เป็นจังหวัดจังหวัด เป็นโซนๆ ไป โดยนายภราดรกำกับสำนักงบประมาณอยู่แล้ว และกำกับดูแลสำนักทรัพยากรน้ำอยู่แล้ว ตนเป็นนายกรัฐมนตรีกำกับดูแลกรมทรัพยากรธรณี กระทรวงทรัพย์กระทรวงเกษตร กระทรวงมหาดไทยทุกกระทรวง ที่จะร่วมงานกันช่วยเหลือพ่อแม่พี่น้อง ซึ่งวันนี้ตนขอให้มั่นใจว่า ครม. ทุกคนตั้งแต่หัวยันท้าย รับทราบดีถึงความลำบากของพ่อแม่พี่น้องประชาชน

จากนั้น นายกรัฐมนตรี ยังได้ไปตรวจดูบริเวณพนังกั้นน้ำแม่น้ำเจ้าพระยา ใกล้กับโรงเรียนป่าโมกวิทยา โดยได้นำมือไป วัดปริมาณน้ำ จากขอบของพนัง พบว่าเหลือเพียงฝ่ามือเดียวก็จะล้นขึ้นมาแล้ว และยังได้นำมือไปกวักน้ำขึ้นมา แล้วพูดว่าน้ำยังใสอยู่

ขณะที่ นายพงษ์นรา เย็นยิ่ง อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง บอกกับนายกรัฐมนตรีว่ายังสามารถนำกระสอบทรายมาวางกั้นเพิ่มเติมบนขอบผนังกั้นน้ำได้อีก 2-3 ชั้น ก่อนจะรายงานว่าตอนนี้มีการปล่อยน้ำ ผ่านมา 2,600 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จึงคิดว่าสถานการณ์ตรงนี้ยังเอาอยู่ และ คิดว่าถ้าปล่อยจากเขื่อนเจ้าพระยาไม่เกิน 3,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที พนังกั้นน้ำตรงนี้ยังรับได้

Related Posts

Send this to a friend