POLITICS

นายกฯ ย้ำยกระดับ SME Startup และวิสาหกิจชุมของไทย ให้พัฒนาอย่างต่อเนื่อง

นายกฯ ประชุมบอร์ดบีโอไอ ย้ำยกระดับ SME Startup และวิสาหกิจชุมของไทย ให้พัฒนาอย่างต่อเนื่องเข้มแข็งอย่างยั่งยืน ลงไปสู่เศรษฐกิจฐานรากเกิดประโยชน์กับประชาชนแท้จริง

นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้ (12 ต.ค.65) พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ครั้งที่ 5/2565 ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมีนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เข้าร่วมด้วย

นายกรัฐมนตรีย้ำต่อที่ประชุมว่า รัฐบาลพยายามทำอย่างเต็มที่ในการขับเคลื่อนการส่งเสริมการลงทุนในทุกด้านทั้งการปรับปรุง พัฒนา เปลี่ยนแปลงให้ทันกับสถานการณ์ที่เกิดในปัจจุบันและอนาคต เพื่อให้ทุกอย่างสามารถดำเนินการได้ตามแผนและเป้าหมายที่กำหนดไว้ ทั้งนี้ จากภาพรวมของร่างยุทธศาสตร์ฯ ดังกล่าว และข้อเสนอแนะต่าง ๆ ของคณะกรรมการ เชื่อว่าจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงในอนาคต แต่สิ่งสำคัญคือต้องทำงานในเชิงรุก เพื่อให้ดึงดูดกิจการใหม่ ๆ ที่มีศักยภาพเข้ามาในประเทศไทยให้มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งให้ Game Changer เกิดขึ้นในประเทศไทย รวมถึงพิจารณาถึงศักยภาพและบริบทต่าง ๆ ของแต่ละประเทศในอาเซียนมีเพื่อนำมาพัฒนาศักยภาพของไทยให้มีขีดความสามารถในการแข่งขันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

รวมทั้งได้ชื่นชมเกี่ยวกับแนวทางการดำเนินการยกระดับ SME Startup และวิสาหกิจชุมชนของไทยให้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและเข้มแข็งอย่างยั่งยืน พร้อมย้ำให้มีการพัฒนาแบบพุ่งเป้า โดยเฉพาะการดำเนินการในรูปแบบของ Sandbox ที่เป็นการเปิดโอกาสให้ SME Startup และวิสาหกิจชุมชนของไทยที่มีศักยภาพได้เข้ามานำเสนอแนวคิดและร่วมแข่งขันกันอย่างเป็นธรรม เพื่อภาครัฐสนับสนุนทุนให้ในการดำเนินนำไปสู่การพัฒนาต่อไป

นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำถึงการส่งเสริมการลงทุนและการขับเคลื่อน EEC ขณะนี้มีความก้าวหน้าและพัฒนาตามแผนโดยลำดับ ทั้งนี้ การส่งเสริมการลงทุนนอกจากในพื้นที่ EEC แล้ว ขอให้เน้นไปถึงระเบียงเศรษฐกิจตะวันตก ตะวันออกด้วย เพื่อให้ลงไปสู่เศรษฐกิจฐานราก SME และ Start up ตลอดจนใน SEC ภาคใต้ในเรื่องสิทธิประโยชน์ส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่ดังกล่าวให้เป็นไปอย่างเหมาะสมและเกิดประโยชน์กับประชาชนในพื้นที่อย่างแท้จริง

ทั้งนี้ ที่ประชุมได้พิจารณาร่างข้อเสนอยุทธศาสตร์การส่งเสริมการลงทุน 5 ปี (พ.ศ. 2566-2570) โดยนายกรัฐมนตรีย้ำให้นำข้อสังเกตและข้อเสนอแนะของที่ประชุมไปประกอบการพิจารณาดำเนินการปรับปรุงรายละเอียดของร่างข้อเสนอยุทธศาสตร์การส่งเสริมการลงทุน 5 ปี (พ.ศ. 2566-2570) ให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น แล้วนำเสนอที่ประชุมพิจารณาอีกครั้งโดยเร็ว เพื่อเร่งขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ใหม่ BOI ทันที เพื่อนำไปสู่การขับเคลื่อนการปฏิบัติและการทำงานให้เกิดผลเป็นรูปธรรมอย่างต่อเนื่องตามแผนที่กำหนดไว้ และปรับให้สอดคล้องและทันกับสถานการณ์

Related Posts

Send this to a friend