‘จุรินทร์’ ขอบคุณคนชมคืนฟอร์มฝ่ายค้าน บอกทำเต็มความสามารถทุกหน้าที่

ชี้ เรื่องนโยบายมีหลายประเด็นไม่ชัดเจน ทั้งนโยบายแรงงาน – การแก้ไขปัญหาราคาพืชผลทางการเกษตร และที่มางบประมาณดิจิทัล วอลเล็ต ย้ำ ทำงานกับก้าวไกลไม่มีปัญหา
วันนี้ (12 ก.ย. 66) ที่อาคารรัฐสภา นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) พรรคประชาธิปัตย์ และรักษาการหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงภาพรวมการอภิปรายของฝ่ายรัฐบาลเมื่อวานนี้ (11 ก.ย. 66) ว่า ขอบคุณที่รัฐบาลฟังสิ่งที่ตนเองพูดเรื่องของการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่ขอให้ไปแก้ไขให้ชัดเจนเพื่อคลายความกังวล เพราะในนโยบายเขียนแค่ว่าจะไม่แก้ไขในหมวด 2 ว่าด้วยเรื่องสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีอยู่แล้วตนเองสนับสนุน แต่ในนโยบายไม่ได้ระบุว่าจะไม่แก้ในหมวด 1 ด้วย ซึ่งหมวด 1 ก็มีความสำคัญ เพราะระบุไว้ว่าประเทศไทยปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข และประเทศไทยเป็นราชอาณาจักรอันหนึ่งอันเดียวกันแบ่งแยกไม่ได้ ต้องระบุให้ชัดเจนว่า ถ้าแก้รัฐธรรมนูญ จะไม่แตะทั้งหมวด 1 และหมวด 2 ซึ่งเมื่อวานนี้นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้ออกมารับรองว่าจะไม่แตะต้องหมวดดังกล่าว ถือว่ามีความชัดเจนขึ้น
ส่วนนโยบายอื่นๆ นายจุรินทร์ กล่าวว่า ยังมีความคลุมเครือ ไม่ใช่คำตอบสุดท้าย คำตอบหลายนโยบายยังไม่ตรงปก เช่น นโยบายค่าแรง นโยบายแก้ไขปัญหาราคาพืชผลทางการเกษตร นโยบายปริญญาตรี 25,000 บาท ซึ่งทั้งหมดยังขึ้นอยู่กับเงื่อนไขว่าถ้าเศรษฐกิจดีขึ้น ก็จะทำได้ตามลำดับ แต่ไม่ได้หมายความว่าทำอย่างไร ทำเมื่อไร เหมือนที่พูดไว้ตอนหาเสียง รวมถึงนโยบายด้านการเกษตรที่ตนเองได้ถามว่าถ้าไม่ทำจำนำข้าวกับประกันรายได้เกษตรกร จะมีนโยบายอะไรที่เป็นรูปธรรมมาทดแทน ก็ยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจน มีแค่พักหนี้เกษตรกร ซึ่งเหมือนเป็นแค่ยาแดง หนี้เกษตรกรก็ยังคงมีอยู่ ส่วนเรื่องเงินดิจิทัลวอลเล็ต ก็มีคำตอบเพียงว่าจะไม่กู้ และจะไม่เอาเงินกองทุนต่าง ๆ มาใช้ จึงมีคำถามตามมาว่าจะเอาเงินที่ไหนมาใช้ ยังไม่มีความชัดเจน ก่อนย้ำว่า “ตนเองวิจารณ์ตามเนื้อผ้า เพราะทุกคนต้องการคำตอบ”
อีกเรื่อง คือ งบประมาณ ซึ่งนายจุรินทร์ เล่าว่าตนเองเป็นคนถามในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีก่อนพ้นคำแหน่งว่างบประมาณปี 67 จะเหลือให้รัฐบาลไปทำนโยบายได้เท่าไร ซึ่งผู้อำนวยการสำนักงบประมาณก็ตอบชัดว่าเหลือไม่เกิน 200,000 ล้านบาท ซึ่งนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตใช้งบประมาณกว่า 500,000 ล้านบาท ซึ่งถ้าเอาก้อนที่เหลือมาใช้ทั้งหมดก็จะไม่เหลืองบประมาณไว้ทำนโยบายอื่น อีกทั้งยังต้องหาเพิ่มอีกหลายแสนล้านบาท
นายจุรินทร์ กล่าวอีกว่าการที่ถามไม่ใช่ต้องการกดดัน เป็นสิทธิที่ประชาชนต้องรู้ เพราะตอนหาเสียงเป็นหน้าที่ของพรรคการเมืองที่ต้องแจ้งนโยบายต่อ กกต.แต่ทำไมวันนี้ตอบให้ชัดเจนไม่ได้ ตนเองก็ทวงถามแทนประชาชน ไม่ได้มีเจตนาอะไรพิสดารไปกว่านั้น ประชาชนควรมีสิทธิรับรู้
ส่วนที่หลายฝ่ายออกมาชื่นชมการทำหน้าที่ของตนเองในนามฝ่ายค้านนั้น นายจุรินทร์ ขอบคุณ พร้อมบอกว่าตนเองมีหน้าที่อะไรก็ทำเต็มที่ สุดความสามารถเสมอ ตอนเป็นรัฐบาลก็คิดว่าเป็นคนหนึ่งที่ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ในฐานะรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีในรัฐบาลอย่างเต็มความสามารถ เรารู้ว่ามีหน้าที่อะไร ต้องทำอะไร เมื่อมาเป็นฝ่ายค้าน ตนเองก็มีหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาลแทนประชาชน ทวงถามหาคำตอบให้ประชาชน ยืนยันจะทำหน้าที่เต็มที่ ไม่ต้องกังวล ตนเองซื่อสัตย์ต่อการทำหน้าที่เสมอ ขอบคุณสำหรับการชื่นชม
นายจุรินทร์ ยืนยันถึงการทำงานร่วมกับพรรคก้าวไกลว่าไม่มีปัญหา เป็นวิถีทางประชาธิปไตยตามระบบรัฐสภา พรรคการเมืองที่ไม่เป็นรัฐบาลก็ต้องมารวมกันเป็นฝ่ายค้าน ไม่สามารถเลือกได้เหมือนพรรคร่วมรัฐบาล แต่เราก็ต้องตระหนักว่าเมื่อมาเป็นฝ่ายค้าน ก็ต้องจับมือกันตรวจสอบรัฐบาลแทนประชาชน ถ้าไม่จับมือกัน น้ำหนักการตรวจสอบก็จะหายไป และเมื่อน้ำหนักหายไป คนขาดทุนคือประชาชน
นายจุรินทร์ กล้าวทิ้งท้ายว่า ไม่มีปัญหาพรรคประชาธิปัตย์ตระหนักในภารกิจ และเชื่อว่าพรรคก้าวไกลก็เช่นกัน ทำงานร่วมกันได้ ยกเว้นจุดยืนบางเรื่องที่เคยพูดไปแล้ว