POLITICS

‘ส.ว.สมชาย’ ชี้ กกต. ควรส่งศาล รธน.วินิจฉัย ปม หุ้นสื่อของ ‘พิธา’ ตั้งนานแล้ว

‘ส.ว.สมชาย’ ชี้ กกต. ควรส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ปม หุ้นสื่อของ ‘พิธา’ ตั้งนานแล้ว เชื่อ ไม่กระทบการโหวตของ ส.ว. เพราะมีวุฒิภาวะ มอง ‘ก้าวไกล’ เหมือน “ขับเครื่องบินชนเพดาน” เผย มีแจกกล้วยแลกโหวต 7+15 หวี คาดล็อบบี้ 30-50 คน

วันนี้ (12 ก.ค. 66) นายสมชาย แสงการ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนถึงประเด็นการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีในวันที่ 13 ก.ค. นี้

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ส่งคำร้องนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคก้าวไกล เรื่องหุ้นสื่อไอทีวี จะสามารถเสนอชื่อเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีได้หรือไม่ นายสมชาย ระบุว่า ในที่ประชุม ส.ว. มีการพูดคุยกันแค่เรื่องเวลาที่ได้รับจัดสรรให้อภิปรายในสภาว่า ส.ว. ได้เวลากี่ชั่วโมง และเราจะจัดสรรอย่างไร ให้สมาชิกได้สื่อสารกับ ส.ส. และประชาชนว่าการตัดสินใจของ ส.ว. แต่ละคนใช้วุฒิภาวะ ใช้ข้อพิจารณาอย่างไร ส่วนเรื่องประเด็นที่ กกต. ส่วนเรื่องไปให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ตนคิดว่าต้องรอศาลรัฐธรรมนูญ คาดว่าน่าจะใช้เวลาถึงสัปดาห์หน้า ซึ่งนายพิธา ยังสามารถมาแสดงวิสัยทัศน์ได้ ไม่เหมือนกับกรณีของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ที่ศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ เชื่อว่าจะโหวตก่อนเวลา 17:00 น.

ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่ กกต. ยื่นเรื่องในวันนี้ มีผลต่อการตัดสินใจเลือกนายพิธา ของ ส.ว. หรือไม่ นายสมชาย ระบุว่า เป็นเรื่องปกติ ที่จริงควรทำตั้งนานแล้ว ไม่ใช่เพิ่งทำวันนี้ เนื่องจากมีผู้ร้องตั้งแต่นายพิธา ยังเป็นผู้สมัคร ส.ส. ซึ่งเป็นหลักเกณฑ์เดียวกับที่นายธนาธรถูกยื่น ซึ่งตนเองก็เคยถูกยื่นในอดีต มีคำวินิจฉัยมาถึง 4 คดีแล้ว ไม่ใช่เรื่องผิดปกติอะไร ทั้งนี้ ต้องแล้วแต่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัน ตนเองยังไม่เห็นคำร้อง ย้ำว่า ไม่ใช่เรื่องเกมการเมือง เนื่องจากไม่มีใครเอาหุ้นไปให้นายพิธาถือ นายพิธา เป็นคนถือเอง เหมือนที่ตนเองเคยถือ และศาลมีคำวินิจฉัย

“ไม่มีนิติสงครามใด ๆ อย่างที่เขาพูดกัน ทำอะไรก็ให้ศาลวินิจฉัย แล้วศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยถึงที่สุด อย่าไปกังวลอะไร” นายสมชาย กล่าว

เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้ ส.ว. เคยออกมาบอกว่าจะพิจารณา ไม่เลือกคนที่มีประวัติ มีคดี โดยจะมีผลต่อการโหวต นายสมชาย กล่าวว่า ก็แล้วแต่คน ในการวินิจฉัย ไปก้าวล่วงไม่ได้ แต่จะดูในหลักการว่าสิ่งที่นายพิธาต้องมี 4 ข้อ คือ มีความซื่อสัตย์ สุจริตหรือไม่ มีวิสัยทัศน์หรือไม่ มีความรอบรู้หรือไม่ และสามารถสร้างแรงบันดาลใจได้หรือไม่ ส่วนหลักการสำคัญในการเป็นคณะรัฐมนตรี ก็เคยพูดแล้วว่าต้องดูความมั่นคงของประเทศ ซึ่งไม่ใช่ความมั่นคงทางทหาร แต่คือความเป็นชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

“เราก็เคยทักท้วงแล้วว่า หลายเรื่องเป็นการขับเครื่องบินชนเพดาน อะไรที่มันสุดโต่งก็ขอให้ลดเพดานลง นโยบายบางเรื่องอาจจะเป็นการพลิกฟ้า คว่ำแผ่นดิน ต้องรอฟังแถลงว่าเขาจะเพดานได้หรือไม่ ไม่ใช่เฉพาะแค่มาตรา 112 โดย มาตรา 112 เราเห็นอยู่แล้วว่า เขียนจนกระทั่งโทษต่ำกว่าคดีหมิ่นประมาทชาวบ้านทั่วไปอีก ในฐานะประมุขของประเทศ ไม่มีประมุขประเทศใด ไม่มีกฎหมายคุ้มกัน ยิ่งพระมหากษัตริย์ในระบอบประชาธิปไตย ตกลงกันตั้งแต่ปี 2475 แล้วยิ่งไปเขียนแบบนั้นไม่ได้ แต่หากจะบอกว่ามาศึกษา ต้องไปดูว่าเจตนารมณ์ตั้งแต่ต้น จนปัจจุบันเปลี่ยนจริงหรือไม่ คุณพิธาคนเดียว หรือ ส.ส. ทั้งพรรคจะเลิกเลย หรือมวลชน องค์กรเครือข่าย อันนี้เป็นปัจจัยหนึ่ง แล้วยังมีปัจจัยเรื่องอื่น ๆ อีก” นายสมชาย กล่าว

นายสมชาย ระบุต่อว่า ทั้งเรื่องความมมั่นคงในเรื่องราชอาณาจักรเป็นหนึ่งเดียว หรือความคิดเรื่องร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ รวมถึงโครงสร้างการเมืองในหลายแบบที่นำเสนอจะเป็นอย่างไร ตนเห็นว่าคนหนุ่มสาวควรจะเป็นผู้นำในการเดินหน้าต่อ แต่หลายเรื่องหากเดินต่อไปแล้ว มีความเสี่ยง คิดว่า ส.ว. ก็จะเอาตรงนี้มาพิจารณามากกว่า ส่วนคนอื่นอาจพิจารณาคุณสมบัติประกอบด้วยก็เกิดขึ้นได้

นายสมชาย ยังระบุอีกว่า ตนเองได้รับข้อความมาสองวันแล้ว จากผู้ใหญ่ในแวดวงการเมือง เตือนให้ระมัดระวัง ว่ามีขบวนการที่พยายามจากพรรคก้าวไกล ซึ่งตนคิดว่านายพิธา และแกนนำพรรคอาจไม่เห็นด้วยที่มีผลประโยชน์ มีการติดต่อทาบทามให้ได้ผลประโยชน์จากการเลือกแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคก้าวไกล แต่กรณีที่ ส.ว บางคนออกมาเปิดเผยว่า ถูกทาบทามไม่ให้โหวตนายพิธา เรื่องนี้ไม่ได้ข่าว มองว่าเป็นตรรกะที่ประหลาด ไม่น่าเป็นไปได้

“เมื่อเช้าก็เห็นออกรายการวิทยุโทรทัศน์หลายที่ ว่ามีไลน์หลุดจาก ส.ว. ว่ามาทาบทามว่าจ่ายเงิน ให้กล้วย แลกกับการไม่โหวตให้คุณพิธา ผมถามว่าแบบนี้ใครได้ประโยชน์ ไม่น่าเป็นไปได้ แต่ถ้าจะโหวตให้คุณพิธา ผมก็ไม่เชื่อว่าคุณพิธาจะทำได้ แต่อาจมีกลุ่มไม่หวังดี พยายามทำให้วุ่นวาย ถามว่ามีหรือไม่ ก็เรียนตรง ๆ ว่ามีข้อมูลที่สมาชิกมาเล่าให้ฟัง” นายสมชาย ระบุ

นายสมชาย กล่าวต่อว่า ผมเชื่อมั่นใน ส.ว. 250 คนที่ได้รับการโปรดเกล้าฯ โดยมาจากการสรรหา ยืนยันว่าทุกคนจะปฏิบัติหน้าที่ โดยไม่มีเรื่องอามิสสินจ้าง ส.ว. จะไม่รับสินบนใด ๆ ใครจะปฏิเสธจริงจังหรือไม่ ผมไม่ทราบ แต่ยืนยันว่า ส.ว. ไม่มีแม้แต่คนเดียวที่จะไปรับผลประโยชน์แบบนี้ ถ้าไปทำเช่นนั้นมันขายชาติ สาเหตุที่ออกมาเปิดเผยขบวนการข้างต้น เพราะเชื่อว่ามีกลุ่มที่ไม่หวังดี

ผู้สื่อข่าวถามว่า คนที่ได้รับติดต่อล็อบบี้มีจำนวนเท่าไหร่ นายสมชาย กล่าวว่า ผมไม่ทราบ แต่บอกได้คร่าว ๆ ว่า 7+15 กล้วย 7 หวีมัดจำ ถ้าสำเร็จมี 15 หวี จริงเท็จไม่ทราบ แต่ตัวเลขที่ส่งมาเท่าที่เห็นก็มี 30 – 50 อยู่ ผมก็ยังไม่เชื่อว่าจะมีใครทำ เพราะอาชญากรรมทิ้งร่องรอย

ผู้สื่อข่าวถามว่าภาพลักษณ์ของ ส.ว. ที่ออกมา มีคนบอกว่ามีการวิ่งเต้นจากหลายฝั่ง นายสมชาย กล่าวว่า เป็นเรื่องธรรมดา เนื่องจากมีคนอยากได้เสียง ก็มีทั้งไปพบที่บ้าน ติดต่อทางโทรศัพท์ ขอพบผ่านครอบครัว คนสนิท แม้แต่งานศพก็ยังไปล็อบบี้ ยังมีการใช้วิธีแบบเดิม ใช้มวลชน บวกกับโซเชี่ยล ตนคิดว่าเรื่องนี้ ส.ว. ก็คงทำตามหน้าที่ ตามภาระตัวเอง อดทนหนักแน่น ไม่หวั่นไหวใด ๆ ทั้งสิ้น อาจจะยากลำบากหน่อย แต่ก็มีประชาชนมอบคะแนนเสียงให้ ส.ว. ลงประชามติ 15 ล้านเสียง ถ้าปิดสวิตซ์ได้คงปิดสวิตซ์ตัวเองไปแล้ว

Related Posts

Send this to a friend