เกณฑ์ใหม่ขออภัยโทษ ต้องรับโทษมาแล้ว 1 ใน 3 หรือ จำคุกมาแล้วไม่น้อยกว่า 8 ปี
วันนี้ (12 เม.ย. 65) นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ประจำวันที่ 12 เมษายน 2565 ว่า ครม.รับทราบรายงานของกระทรวงยุติธรรมเกี่ยวกับการอภัยโทษ ซึ่งเป็นการปรับปรุงแนวทางการจัดชั้น เลื่อนชั้นนักโทษ เพื่อให้มีแนวทางที่ชัดเจนขึ้น โดยเป็นการรับข้อเสนอแนะจากคณะกรรมการตรวจสอบการดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยการอภัยโทษที่ตั้งโดยนายกรัฐมนตรี มีข้อสรุปดังนี้
1) ยังไม่มีความจำเป็นแก้ไขพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษเป็นการทั่วไป พ.ศ.2564
2) นักโทษที่จะได้รับอภัยโทษ ไม่ว่าจะลดโทษหรือปล่อยตัว ต้องผ่านระยะปลอดภัย คือ ต้องรับโทษมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 หรือรับโทษจำคุกมาแล้ว 8 ปี แล้วแต่ระยะเวลาใดถึงก่อน ไม่ว่าจะเป็นนักโทษชั้นใด จากนั้นจะพิจารณาอายุ สุขภาพ การจัดชั้น เพื่อลดโทษ ยกเว้นแต่เป็นการถวายฎีกาเฉพาะราย
3) วางหลักเกณฑ์ใหม่ที่เข้มขึ้นเกี่ยวกับการลดโทษคดีร้ายแรงในความรู้สึกของสังคม เช่น คดียาเสพติด คดีทุจริต คดีที่ศาลให้ประหารชีวิตโดยให้การลดโทษและปล่อยตัว
4) การจัดชั้นนักโทษดี ดีมาก เยี่ยม จะเข้มขึ้นและมีกฎเกณฑ์มากขึ้น
5) มีการเตรียมการล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 30 วัน และต้องวางแผนระยะยาวล่วงหน้า
6) การออกพระราชกฤษฎีกาอภัยโทษฯ ยังคงมีความจำเป็นอยู่ตามโอกาสตามสมควร เพื่อจูงใจให้นักโทษมีความหวัง ไม่ก่อการจราจล ลดความแออัดในเรือนจำ นำไปสู่การคืนคนดีกลับสู่สังคม และแสดงถึงพระมหากรุณาธิคุณ
ทั้งนี้ ที่ประชุม ครม. ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งปรับปรุงแก้ไขให้เป็นไปตามรายงานฉบับนี้ และเร่งสร้างการรับรู้แก่สังคม












