POLITICS

‘ดร.เอ้’ ชี้ 14 ปี งบแก้น้ำท่วมแสนล้านละลายลงน้ำ พร้อมเสนอ 4 ทางออก

‘ดร.เอ้’ ชี้ 14 ปี งบแก้น้ำท่วมแสนล้าน “ละลายลงน้ำ” พร้อมเสนอ 4 ทางออก ถึงเวลาปฏิรูประบบจัดการน้ำแห่งชาติอย่างจริงจัง

นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ หรือ “ดร.เอ้” หัวหน้าพรรคไทยก้าวใหม่ ตั้งคำถาม หลังประเทศไทยใช้งบประมาณนับ “แสนล้านบาท” เพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมมาตลอด 14 ปี แต่สถานการณ์ยังคงเหมือนเดิม โดยระบุว่า “ถ้าใช้งบเป็นแสนล้าน แต่น้ำยังท่วมเหมือนเดิม หยุดทำ แล้วเก็บงบไปทำอย่างอื่นดีกว่าไหม?”

ดร.เอ้ กล่าวย้อนถึงเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ปี 2554 ซึ่งเป็นภัยพิบัติครั้งประวัติศาสตร์ของประเทศ ก่อนจะใช้งบประมาณกว่า 120,000 ล้านบาท ในปีถัดมาเพื่อฟื้นฟู เยียวยา และวางระบบป้องกันน้ำท่วม แต่ตลอด 14 ปีที่ผ่านมา “น้ำก็ยังท่วมเหมือนเดิม” ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด

“จะบอกว่าไม่ทำอะไรเลยก็คงไม่ใช่ เพราะที่ผ่านมาเราทำมากมายหลายร้อยโครงการ ใช้งบไปมหาศาล แต่ชาวบ้านก็ยังต้องยกของหนีน้ำขึ้นที่สูงทุกปี”

หัวหน้าพรรคไทยก้าวใหม่ ตั้งคำถามว่า ประเทศไทยใช้งบประมาณในการแก้ปัญหาน้ำอย่าง ”คุ้มค่า“ หรือไม่? จริงๆ ไม่ต้องห่วงเลยว่าเราจะไม่มีงบพอที่จะลงทุนในโครงการแก้ปัญหาน้ำ ด้วย “หลักวิศวกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัย” เพราะที่ผ่านมา เราได้ ”ละลายเงิน” ลงแม่น้ำไปมหาศาล แต่ไม่ได้อะไรกลับมาเลย จึงถึงเวลาปฏิรูประบบจัดการน้ำแห่งชาติอย่างจริงจังแล้ว

เริ่มต้นที่ว่า ถ้าเรามอง “น้ำ” ด้วยมุมมองใหม่ไม่ใช่แค่ภัยธรรมชาติ แต่คือ “บททดสอบความสามารถของรัฐ” พรรคไทยก้าวใหม่ จึงขอเสนอ 4 ทางออก “ปฏิรูประบบจัดการน้ำแห่งชาติ” ได้แก่

1.สร้างประตูน้ำกันน้ำทะเลหนุน (Sea Barrier System) เหมือนประเทศเนเธอร์แลนด์ เวนิส หรือสิงคโปร์ เพื่อป้องกันน้ำทะเลหนุนแม่น้ำเจ้าพระยา รองรับผลกระทบโลกร้อนและระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้น ซึ่งประเทศไทย “ยังไม่ได้เริ่มศึกษาและออกแบบเลย”

2.บูรณาการผังเมืองกับระบบน้ำ (Smart Water + Smart City)เมืองต้องระบายน้ำได้จริง ไม่ใช่พัฒนาโดยขวางทางน้ำ ทั้งนิคมอุตสาหกรรม บ้านจัดสรร หรือสนามกอล์ฟ ต้องอยู่บนฐานข้อมูลภูมิประเทศและทิศทางน้ำ

3.ตั้งกองทุนจัดการน้ำแห่งชาติ เพื่อให้การบริหารโปร่งใส ตรวจสอบได้ ลงทุนในระบบป้องกันเชิงรุก “ก่อนเกิดปัญหา” ไม่ใช่รอภัยพิบัติแล้วค่อยเบิกงบฉุกเฉิน

4.ใช้ AI และ Big Data บริหารน้ำทั้งระบบ ใช้เทคโนโลยีช่วยพยากรณ์พื้นที่เสี่ยง บริหารน้ำในเขื่อนแบบเรียลไทม์ ไม่ใช่ “รู้ตอนน้ำท่วมแล้วค่อยเตือน” หรือเร่งระบายน้ำเมื่อระดับน้ำเกินจุดวิกฤติ

ดร.เอ้ ย้ำว่า ทั้งหมดนี้ ประเทศไทยมีงบประมาณ “เพียงพอ” ที่จะทำได้ ถ้าเทียบกับเงินที่ใช้แก้ปัญหาแล้วละลายหายไปทุกปี น้ำท่วมไม่ใช่เรื่องเวรกรรม แต่มันคือ “ระบบบริหาร” ที่เราต้องกล้าปรับใหม่ทั้งชุด ไม่ใช่ปล่อยให้ชาวบ้านลอยคอรอ “โชคดี” เผื่อว่าน้ำจะท่วมไม่มากและลดเร็วกว่าปีก่อน แล้วปีหน้าค่อยมาวัดดวงชะตากันอีกทีว่าจะรอดหรือจะล่ม ดังนั้น คนไทยต้อง “เลิกทน” กับเรื่องแบบนี้อีกต่อไป

Related Posts

Send this to a friend