สภาฯ ยัน น้ำไม่ได้รั่ว แต่รับพลาดเองที่ไม่ได้เปิดระบายน้ำ มั่นใจจะไม่เกิดเหตุซ้ำ
สภาฯ ยัน น้ำไม่ได้รั่ว แต่รับพลาดเองที่ไม่ได้เปิดระบายน้ำ มั่นใจจะไม่เกิดเหตุซ้ำ สั่งสำรวจทั่วอาคารหาจุดบกพร่อง เพื่อเคลมประกันก่อนหมดอายุอีก 2 ปี พร้อมตั้งกรรมการตรวจสอบของบปี 69 ใช้ซ่อม
วันนี้ (11 ต.ค. 67) ว่าที่ร้อยตำรวจตรีอาพัทธ์ สุขะนันท์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วย นายสาธิต ประเสริฐศักดิ์ รองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะกำกับดูแลอาคารสถานที่ของอาคารรัฐสภา นำคณะสื่อมวลชนตรวจสอบบริเวณชั้น 8 ของอาคารรัฐสภาที่มีการเผยแพร่ข่าวว่าเกิดน้ำรั่ว หลังฝนตกหนักเมื่อค่ำวานนี้ (10 ต.ค. 67) นายสาธิตกล่าวว่า จากข่าวว่ามีน้ำรั่วจากชั้น 8 และชั้น 4 ของอาคารรัฐสภา ทำให้โซฟาเสียหายนั้น ขอชี้แจงว่าตามรูปแบบที่สร้างอาคาร มีจุดรองรับน้ำตั้งแต่ชั้น 11 ที่มีเครื่องยอด และมีสระมรกต ซึ่งสระดังกล่าว หากมีน้ำปริมาณมากจะไหลลงตะแกรงระบายน้ำทิ้งหรือ floor drain ทำให้มีการระบายน้ำจากสระมรกตมาชั้น 8 ซึ่งมีถังรับน้ำ โดยหากน้ำมากก็จะมีตัวระบายไปที่ชั้น 7 ซึ่งเหมือนเป็นสะดืออ่างน้ำที่จะปล่อยระบายลงไป และบริเวณชั้น 8 จะมีปั๊มน้ำอยู่ 3 ตัวที่สามารถปั๊มน้ำเพื่อระบายออกนอกอาคารได้ แล้วปรากฏว่าเมื่อวานนี้ (10 ต.ค. 67) มีฝนตกลงมากะทันหัน ในขณะที่เป็นเวลาเลิกงานแล้ว ข้าราชการเดินทางออกไปหมดทำให้ปริมาณน้ำฝนที่มีจำนวนมากล้นสระมรกต แล้วเข้ามาที่แท้งค์น้ำชั้น 8 แต่ไม่ได้มีการระบายน้ำออกไปข้างนอก ทำให้น้ำล้น ไหลออกมาจากห้องควบคุมแล้วลงไปที่ชั้น 4 โดยยืนยันไม่ใช่อาคารรั่ว แต่เกิดจากระบบที่ออกแบบไว้
นายสาธิตกล่าวต่อว่าตอนนี้มีมาตรการป้องกันแล้ว โดยในช่วงฤดูฝน จะเปิดจุดระบายน้ำ เพื่อให้น้ำที่ถูกกักไว้ระบายออกไป ดังนั้นต่อไปในช่วงฤดูฝน ไม่ว่าฝนจะตกมาอย่างไร เมื่อน้ำมาอยู่ที่ชั้น 8 น้ำก็จะไหลออกไปข้างนอก จะไม่เกิดเหตุการณ์เช่นที่ผ่านมาอีก พร้อมย้ำว่าเหตุการณ์เมื่อวานนี้ไม่ใช่น้ำรั่วแต่เกิดจากระบบน้ำที่เราผิดพลาดเอง ที่ไม่ได้เปิดจุดระบายน้ำให้น้ำระบายไหลออกไป ดังนั้นเมื่อสะดือน้ำไม่ได้เปิดก็ทำให้ปริมาณน้ำมากขึ้น จึงล้นออกมาทำให้เกิดความเสียหาย
นายสาธิตกล่าวว่าได้เรียกทีมช่างเข้ามาเพื่อตรวจสอบ โดยช่างบอกว่าต่อไปนี้ในช่วงฤดูฝนให้เปิดสะดือระบายน้ำ เพื่อให้น้ำระบายออกไป เพราะในช่วงฤดูฝนสระมรกตน้ำไม่แห้งแน่นอน แต่พอถึงฤดูร้อนจะปิดสะดือระบายน้ำไว้เพื่อให้มีน้ำเลี้ยงสระ
“นี่คือสาเหตุว่าทำไมไม่ใช่น้ำรั่ว ที่ต้องชี้แจงไว้เพราะกลัวว่าจะมีพวกนักร้อง เข้ามาร้องว่าสภามีน้ำรั่ว ยืนยันว่า โครงสร้างของอาคารรัฐสภาไม่ได้มีปัญหา แต่เป็นปัญหาของระบบ ที่ทางแบบเขามีมา” นายสาธิตกล่าว
นายสาธิตยังกล่าวถึงกรณีที่ นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีต สส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ ชี้เป้ามีฝ้าถล่มที่บริเวณ ชั้น B2 ของอาคารรัฐสภาว่า ห้อง B2 เป็นห้องที่ไม่เคยใช้งาน แต่เปิดแอร์ ไว้ตลอดเวลา เนื่องจากเป็นแอร์รวม หากปิดต้องปิดทั้งระบบ ทำให้เกิดการสะสมความชื้น จนทำให้ฝ้าถล่มลงมา เนื่องจากไม่ได้มีการเปิดประตูระบายอากาศ ซึ่งเคยเกิดขึ้นที่ชั้น 10 ฝั่งอาคารวุฒิสภามาแล้ว จึงบอกว่าเวลาห้องไหนที่มีการเปิดแอร์ทิ้งไว้ จะต้องมีการเปิดประตูให้ระบบความชื้นระบายออกมา ซึ่งทราบปัญหาตรงนี้แล้ว และฝ่ายบริษัทผู้รับจ้างกำลังติดต่อผู้ดำเนินการให้เข้ามาแก้ปัญหา ยืนยันว่าเราไม่ได้ละเลย แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ใช่ฝ้าถล่ม แต่เกิดจากการที่เราไม่ได้ดูแลรักษาเอง เนื่องจากที่ผ่านมายังไม่มีการเซ็นรับมอบอาคารรัฐสภา และหลังจากนี้จะมีการตรวจสอบทั่วทั้งอาคารรัฐสภาว่ามีจุดใดที่มีปัญหา เนื่องจากขณะนี้ยังอยู่ในระยะเวลารับประกัน 2 ปีและจะหมดอายุในปี 2569
นายสาธิตยังกล่าวอีกว่า นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 รับทราบเรื่องนี้แล้วและได้โทรศัพท์มาหาเพื่อให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ เพื่อพิจารณาของงบประมาณปี 2569 เนื่องจากขณะนี้ยังไม่มีงบประมาณในการ ซ่อมแซมทั้งอาคาร รวมถึงเสาด้านหน้าอาคาร ที่ปัจจุบันเมื่อมองจากภายนอกเข้ามาจะไม่สวยงาม เนื่องจากเป็นสีไม้ธรรมชาติ นายพิเชษฐ์จึงอยากให้มีการทาสี ซึ่งต้องพิจารณาให้ดี พูดคุยกันหลายฝ่าย รวมทั้งสมาชิกด้วย เพราะต้องหาผู้รับจ้างมาดำเนินการ