‘อามินทร์’ ห่วงรัฐบาลไม่ยกปัญหาชายแดนใต้ เป็นวาระแห่งชาติ
วันนี้ (11 ก.ย.66) นายอามินทร์ มะยูโซ๊ะ สส.พรรคพลังประชารัฐ จังหวัดนราธิวาส อภิปรายในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ครั้งที่ 5 เป็นพิเศษ ถึงนโยบายเรื่องจังหวัดชายแดนใต้ว่านโยบายของรัฐบาล เป็นนโยบายที่ครอบคลุม และมีแนวทางการทำงานที่ดีที่จะพัฒนาประเทศให้ยั่งยืนในอนาคต มีเพียงเรื่องเดียวที่ยังรู้สึกไม่สบายใจคือ นโยบายด้านความมั่นคง เพราะไม่กล่าวถึงปัญหาความรุนแรงในจังหวัดชายแดนใต้และแนวทางการแก้ไขปัญหาความรุนแรงที่เกิดขึ้นมานานกว่า 19 ปี ทำให้เข้าใจได้ว่ารัฐบาลไม่ได้กำหนดให้ปัญหาความรุนแรงในชายแดนภาคใต้ เป็นวาระสำคัญแห่งชาติที่จะต้องได้รับการแก้ไขจากรัฐบาลโดยเร่งด่วน ทำให้รู้สึกกังวลว่าปัญหาความรุนแรงในชายแดนใต้และกระบวนการเจรจาเพื่อสันติภาพที่รัฐบาลที่ผ่านมาโดยการนำของพลเอกประวิตรวงษ์สุวรรณ จะจางหายไปและไม่ต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตามเชื่อว่ารัฐบาลจะยึดรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 โดยเฉพาะหมวด 5 ว่าด้วยหน้าที่ของรัฐ และหมวด 6 ว่าด้วยแนวนโยบายแห่งรัฐ พร้อมขอให้รัฐบาลมีความจริงใจ ตระหนักรู้ถึงข้อเท็จจริง ความไม่เสมอภาคและความไม่เท่าเทียมของพื้นที่ คนในสามจังหวัดชายแดนใต้คาดหวังกับรัฐบาลชุดนี้มาก เพราะช่วงหาเสียงทุกพรรคการเมืองที่ได้ร่วมรัฐบาลได้หยิบยกปัญหาความรุนแรงในจังหวัดชายแดนใต้ เป็นนโยบายหลัก หวังว่าปัญหาความรุนแรงจะจบลงได้ในรัฐบาลของนายเศรษฐา
นายอามินทร์ กล่าวต่อว่าแนวคิดที่อยากจะเสนอให้รัฐบาลในการสร้างความสุขให้กับจังหวัดชายแดนใต้ คือการลดความเหลื่อมล้ำ ไม่ว่าจะศาสนาใด สถานะใดต้องได้รับความเป็นอยู่ที่เท่าเทียม และรู้สึกว่าได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐอย่างชัดเจน พร้แทยกตัวอย่างความเท่าเทียมในพื้นที่ กรณีที่มีกลุ่มเยาวชนรณรงค์เพื่อรักษาอัตลักษณ์การแต่งกายชาวมลายูปัตตานี เรื่องนี้ถือเป็น Soft Power ที่สามารถสร้างรายได้ให้กับพี่น้องในพื้นที่ แต่กลับถูกดำเนินคดีจากภาครัฐ
“ในทุก ๆ เทศกาลของศาสนาต่าง ๆ วันคริสต์มาสต์ เห็นพิธีกรและนักข่าวใส่ชุดซานตาคลอส ช่วงตรุษจีนใส่ชุดกี่เพ้า ช่วงสงกรานต์ใส่ชุดลายดอกปะแป้ง แสดงออกถึงอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรม แล้วความเท่าเทียมของพี่น้องมุสลิมอยู่ตรงไหน” นายอามินทร์ กล่าว
ส่วนกรณีเยาวชนหลงผิดถูกต้องคดี แม้จะผ่านกระบวนการยุติธรรมทางกฎหมายจนเสร็จสิ้น แต่ยังถูกตีตรามีความผิดติดตัว ทำให้บุคคลเหล่านี้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยความยากลำบาก รู้สึกถึงความไม่เป็นธรรมจึงอยากให้รัฐบาลพิจารณาล้างผิด ลบประวัติคดีความมั่นคงในกลุ่มเยาวชน ให้ได้กลับมาใช้ชีวิตอย่างสันติสุขและเป็นเสาหลักในอนาคต เชื่อว่าการบริหารภายใต้รัฐบาลนี้จะนำความสุข ความรุ่งเรือง ความผาสุขกลับมาสู่จังหวัดชายแดนใต้