‘คำนูณ’ ข้องใจที่มางบประมาณ นโยบายดิจิทัลวอลเล็ต ห่วงเหมือนโครงการจำนำข้าว
‘คำนูณ’ จี้รัฐบาลไขข้อข้องใจที่มางบประมาณ นโยบายดิจิทัลวอลเล็ต ห่วงเป็นเหมือนโครงการจำนำข้าว
วันนี้ (11 ก.ย. 66) นายคำนูณ สิทธิสมาน สมาชิกวุฒิสภา (สว.) อภิปรายถึงนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาทว่าเป็นนโยบายที่ชาญฉลาด กล้าหาญ แต่แฝงความสุ่มเสี่ยงก่อให้เกิดความโต้แย้งมากมาย โดยในเอกสารคำแถลงนโยบาย 14 หน้า มีการใช้คำว่า “จุดชนวน กระตุ้น กระตุก” เป็นจุดเริ่มต้นที่เปรียบเสมือนกระดุมเม็ดแรกของนโยบาย ซึ่งหากผลักดันสำเร็จจะเกิดการใช้จ่ายมโหฬารในรอบ 6 เดือนด้วยจำนวนเงินที่เท่ากับงบลงทุนใน 1 ปีงบประมาณ
ทั้งนี้การที่พรรคเพื่อไทยขึ้นมาเป็นแกนนำรัฐบาล เป็นเรื่องสำคัญ เพราะเป็นการเปิดหน้าใหม่ของภูมิรัฐศาสตร์การเมืองไทย พรรคเพื่อไทยลงทุนไปสูงมาก เทหมดหน้าตัก ซึ่งไม่ใช่หน้าตักของรัฐบาลชุดนี้ แต่เป็นหน้าตักของประเทศไทย จึงขอตั้งคำถามว่างบประมาณมาจากไหน โดยพรรคเพื่อไทยแถลงชัดเจน พร้อมกับเอกสารที่ชี้แจงกับ กกต. เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2566 ว่าเงินทั้งหมดจะมาจากการบริหารระบบงบประมาณตามปกติ และการบริหารระบบภาษี 4 ทาง สรุปได้ว่าจะเป็นโครงการที่อยู่ในงบประมาณและน่าจะเป็นงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567
โดยไม่กี่วันก่อนหน้านี้รัฐมนตรีท่านหนึ่ง ออกมาให้ข่าวในทำนองที่ว่า ที่มาของเงินอาจจะเป็นการใช้ระบบที่ให้หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจปฏิบัตินโยบายของรัฐ ตาม พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง พ.ศ.2561 มาตรา 28 ให้รัฐวิสาหกิจทำไปก่อนแล้วรัฐจะตั้งงบประมาณจ่ายคืนในภายหลัง เปรียบเสมือนโครงการจำนำข้าวเมื่อ 10 กว่าปีก่อน
นายคำนูณ กล่าวต่ออีกว่า งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 ต้องเลื่อนออกมา ท้ายที่สุดจะได้ใช้จริง ๆ เมื่อไร เพราะโครงการนี้ที่บอกว่าจะเริ่มใช้ในเดือนมีนาคม 2567 จึงขอตั้งคำถามถึงที่มาของเงินว่า จะเป็นเงินในงบประมาณหรือเป็นโครงการนอกงบประมาณ เมื่อรวมกับโครงการเร่งด่วนที่ 1 เรื่องแก้ปัญหาหนี้สินและพักหนี้ จะต้องใช้เงินอีกเท่าไร
“ผมเป็นห่วงว่าเมื่อแหล่งที่มาของงบประมาณมีปัญหา มีความเป็นไปได้หรือไม่ว่าจะแตะสินทรัพย์อื่นของประเทศ เช่นทุนสำรองระหว่างประเทศ เหมือนที่ในอดีตรัฐบาลพรรคของท่านได้แถลงนโยบายว่าจะบริหารสินทรัพย์ของประเทศให้เกิดประโยชน์สูงสุด และมีแนวคำคิดที่จะตั้งกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ แต่ในที่สุดก็ไม่สามารถตั้งได้ เพราะมีความคิดเห็นที่แตกต่าง”












