POLITICS

เศรษฐา วางเป้าหมายรื้อโครงสร้างความมั่นคงให้สอดคล้องบริบทโลก

‘เปลี่ยนระบบเกณฑ์ทหารเป็นแบบสมัครใจ’ ลดกำลังนายทหารสัญญาบัตรระดับสูง ปรับอัตรากำลัง กอ.รมน. ปราบยาเสพติด ผู้เสพคือผู้ป่วย ตัดตอนยึดทรัพย์ผู้ค้าและผู้ผลิต

วันนี้ (11 ก.ย. 66) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี แถลงนโยบายรัฐบาลเกี่ยวกับความมั่นคง เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี นำความปลอดภัย สร้างศักดิ์ศรี และนำความภาคภูมิใจมาสู่คนไทยทุกคน

นายเศรษฐา กล่าวว่า คุณภาพชีวิตที่ดีข้อที่หนึ่ง คือการมีความมั่นคงทั้งภายในและภายนอก สอดคล้องกับสภาวะของโลก รัฐบาลจะสนับสนุนให้มีการปรับโครงสร้างของหน่วยงานความมั่นคงให้มีความทันสมัยและตอบสนองต่อการคุกคามและภัยความมั่นคงรูปแบบใหม่ในศตวรรษที่ 21 และเป็นกลไกสำคัญในการพิทักษ์เอกราช สร้างความมั่นคง และความปลอดภัยในทุกพื้นที่ของประเทศ รวมทั้งการสนับสนุนการพัฒนาและแก้ไขปัญหาภัยคุกคามและภัยพิบัติ เพื่อช่วยเหลือประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพ

นายเศรษฐา ยังกล่าวว่า รัฐบาลจะร่วมกันพัฒนากองทัพให้เป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาศักยภาพของประเทศพร้อมกับประชาชน โดยจะเปลี่ยนรูปแบบการเกณท์ทหารเป็นแบบสมัครใจ ปรับปรุงการฝึกนักศึกษาวิชาทหาร หน่วยบัญชาการรักษาดินแดน ให้เป็นแบบสร้างสรรค์ ลดกำลังพลนายทหารชั้นสัญญาบัตรระดับสูง และกำหนดอัตรากำลังภายในกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ให้สอดคล้องกับบทบาทและภารกิจในปัจจุบันและอนาคตของประเทศ

ปรับปรุงกระบวนการการจัดซื้อจัดจ้างในสังกัดกระทรวงกลาโหม ให้มีความทันสมัย โปร่งใส ตรวจสอบได้ และสอดคล้องกับรูปแบบและความเสี่ยงของภัยคุกคามทั้งในปัจจุบันและในอนาคต นำพื้นที่ของหน่วยทหารที่เกินความจำเป็น มาใช้ให้ประโยชน์ต่อประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การใช้เพื่อการเกษตร การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และระบบสาธารณูปโภค การเพิ่มพูนความสมบูรณ์ของระบบนิเวศ และการใช้เป็นแหล่งเรียนรู้ เพื่อสนับสนุนการสร้างรายได้ การสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ และการสร้างความเข้มแข็งด้านสังคมของประเทศ

ด้านความปลอดภัย รัฐบาลจะทำงานร่วมกับประชาชนทุกภาคส่วน เพื่อดำเนินการให้ผู้มีอิทธิพลและยาเสพติดให้หมดไปจากสังคมไทย โดยยึดหลักการเปลี่ยนผู้เสพเป็นผู้ป่วย สนับสนุนให้ผู้เสพเข้ารับการรักษาบำบัดอย่างมีประสิทธิภาพและทั่วถึง เพื่อเพิ่มจำนวนทรัพยากรบุคคลที่มีคุณภาพให้กลับเข้าสู่สังคมและพัฒนาความสามารถให้เข้าสู่ภาคแรงงาน

ส่วนผู้ผลิตและผู้ค้าคือผู้ที่ต้องได้รับโทษตามกระบวนการยุติธรรม โดยใช้มาตรการปราบปรามทางกฏหมายอย่างจริงจัง ซึ่งรวมถึงการยึดทรัพย์เพื่อตัดวงจรการค้ายาเสพติด พร้อมดำเนินการเจรจาทางการทูตกับประเทศตามแนวชายแดน เพื่อควบคุมการลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาในประเทศไทย และดึงประชาชนออกจากวงจรการค้ายาเสพติดอย่างถาวร นอกจากนี้รัฐบาลจะดำเนินแนวทางนโยบายการใช้ประโยชน์จากกัญชาทางการแพทย์และสุขภาพ เพื่อสร้างมูลค่าในเชิงเศรษฐกิจด้วย

Related Posts

Send this to a friend